คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จำรูญเนติศาสตร์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 907 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาในพินัยกรรม: กำหนดการเผื่อตายและวิธีการให้เป็นผลสมบูรณ์ รวมถึงการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ
ข้อความในพินัยกรรมมีว่า 'เมื่อฉันตายไปแล้วก็ขอให้ทรัพย์ทั้งหมดดังกล่าวแล้ว ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่เด็กหลานของฉันตามที่กล่าวมาแล้วผู้ใดอื่นหรือนายกระจ่างซึ่งเป็นบุตรของฉันจะมาเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้เป็นอันขาดฯลฯ' นี้เป็นอันถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายไว้โดยพินัยกรรมแล้ว
ในพินัยกรรมที่มีข้อความต่อไปว่า 'และขอให้นางช่วยซึ่งเป็นน้องขอฉัน เป็นผู้แทนฉันจัดการยื่นคำร้องต่ออำเภอมอบกรรมสิทธิ์ทรัพย์ให้' นั้นเป็นการกำหนดวิธีการที่จะให้เป็นผลสมบูรณ์ตามพินัยกรรม เนื่องจากทรัพย์ที่ยกให้บางอย่างเป็นที่ดิน ดังนี้ หาทำให้พินัยกรรมขาดลักษณะของการเป็นพินัยกรรมไม่
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมนั้น ไม่จำต้องระบุเขียนลงไว้ว่า ได้รับรองลายพิมพ์นิ้วมือ เมื่อได้ความว่า เจ้ามรดกกดพิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพยาน ก็เป็นการใช้ได้ (อ้างฎีกาที่ 45 พ.ศ.2485)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาในพินัยกรรม, การกำหนดวิธีการให้พินัยกรรมสมบูรณ์, และการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ
ข้อความในพินัยกรรมว่า "เมื่อฉัยตายไปแล้วก็ขอให้ทรัพย์ทั้งหมดดังกล่าวแล้ว ตกเป็นกรรมสิทธิแก่เก็กหลานของฉันตามที่กล่าวมาแล้ว ผู้ใดอื่นหรือนายกระจ่างซึ่งเป็นบุตรของฉันจะมาเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้เป็นอันขาด ฯลฯ" นี้เป็นอันถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายไว้โดยพินัยกรรมแล้ว
ในพินัยกรรมที่มีข้อความต่อไปว่า "และขอให้นางช่วยซึ่งเป็นน้องของฉัน เป็นผู้แทนฉันจัดการยื่นคำร้องต่ออำเภอมอบกรรมสิทธิทรัพย์ให้" นั้น เป็นการกำหนดวิธีการที่จะให้เป็นผลสมบูรณ์ตามพินัยกรรม เนื่องจากทรัพย์ที่ยกให้บางอย่างเป็นที่ดิน ดังนี้ หาทำให้พินัยกรรมขาดลักษณะของการเป็นพินัยกรรมไม่
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมนั้น ไม่จำต้องระบุเขียนลงไว้ว่า ได้รับรองลายพิมพ์นิ้วมือ เมื่อได้ความว่า เจ้ามฤดกกดพิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพยาน ก็เป็นการใช้ได้ (อ้างฎีกาที่ 45 พ.ศ.2485)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 608/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเคหะเพื่อการค้าและการควบคุมค่าเช่า: การพิจารณาว่าการเช่าอยู่ภายใต้บังคับกฎหมายควบคุมค่าเช่าหรือไม่
ในสัญญาเช่าเคหะ จำเลยจะต้องชำระเงินค่ากินเปล่างวดที่ 3 ใน วันที่ 1 สิงหาคม 2488 ซึ่งเป็นเวลาที่ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 2)2488 ใช้บังคับอยู่ ต้องพิจารณาว่า จำเลยได้ใช้เคหะเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่หรือไม่ หากจำเลยมิได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่2)2488ก็มิควบคุมถึง
ถ้าหากในเวลาถึงกำหนดชำระเงินกินเปล่างวดที่ 3 การเช่ามิได้ตกอยู่ในควบคุมแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 2)2488และจำเลยกระทำผิดสัญญาจนโจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว จำเลยก็ไม่อยู่ในฐานะผู้เช่าต่อไป ดังนี้ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489 ซึ่งออกมาภายหลังย่อมไม่มีผลย้อนหลังไปใช้บังคับแก่กรณีระหว่างโจทก์จำเลยซึ่งไม่มีการเช่ากันนั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาเช่าเคหะ เพื่อการค้าและผิดสัญญาไม่ชำระเงินกินเปล่า จำเลยให้การรับว่าได้ทำสัญญากับโจทก์จริง แต่ต่อสู้ว่ามิได้ผิดสัญญาในเรื่องชำระเงินกินเปล่า ดังนี้จำเลยไม่มีประเด็นที่จะนำสืบว่าได้ใช้เคหะเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 608/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเคหะเพื่อค้าและการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: การพิจารณาว่าการเช่าตกอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายหรือไม่
ในสัญญาเช่าเคหะ จำเลยจะต้องชำระเงินค่ากินเปล่างวดที่ 3 ในวันที่ 1 สิงหาคม 2488 ซึ่งเป็นเวลาที่พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉะบับที่ 2) 2488 ใช้บังคับอยู่ ต้องพิจารณาว่า จำเลยได้ใช้เคหะเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่หรือไม่ ถ้าจำเลยมิไ้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 2) 2488 ก็มิควบคุมถึง
ถ้าหากในเวลาถึงกำหนดชำระเงินกินเปล่างวดที่ 3 การเช่ามิได้ตกอยู่ในควบคุมแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ 2) 2488 และจำเลยกระทำผิดสัญญาจนโจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว จำเลยก็ไม่อยู่ในฐานะผู้เช่าต่อไป ดังนี้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ. 2489 ซึ่งออกมาภายหลังย่อมไม่มีผลย้อนหลังไปใช้บังคับแก่กรณีระหว่างโจทก์จำเลย ซึ่งไม่มีการเช่ากันนั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาเช่าเคหะ เพื่อการค้า และผิดสัญญาไม่ชำระเงินกินเปล่า จำเลยให้การรับว่า ได้ทำสัญญากับโจท์จริง แต่ต่อสู้ว่ามิได้ผิดสัญญาในเรื่องชำระเงินกินเปล่า ดังนี้ จำเลยไม่มีประเด็นที่จะนำสืบว่าได้ใช้เคหะเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สันดานผู้ร้ายตาม พ.ร.บ.กักกันฯ: ไม่จำต้องพ้นโทษครบ 2 ครั้ง
จำเลยเคยรับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วสองครั้งแต่ครั้งหลังยังไม่พ้นโทษ แล้วมากระทำผิดต้องคำพิพากษาให้จำคุกอีก ถือได้แล้วว่า จำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายตามพระราชบัญญัติกักกันฯลฯ มาตรา 8 หาจำเป็นต้องให้ปรากฏว่าจำเลยเคยพ้นโทษมาแล้ว 2 ครั้งไม่
(อ้างฎีกาที่ 724/2482)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ: ไม่จำต้องพ้นโทษครั้งก่อน
จำเลยเคยรับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วสองครั้ง แต่ครั้งหลังยังไม่พ้นโทษ แล้วกระทำผิดต้องคำพิพากษาให้จำคุกอีก ถือได้แล้วว่า จำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม พ.ร.บ.กักกัน ฯลฯ มาตรา 8 หาจำเป็นให้ปรากฏว่า จำเลยเคยพ้นโทษมาแล้ว 2 ครั้งไม่
(อ้างฎีกาที่ 724/2482)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างของวันเกิดเหตุในคำฟ้องและคำเบิกความ ทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยลักทรัพย์เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2490 พยานโจทก์เบิกความว่า จำเลยลักทรัพย์เมื่อวันที่12 มิถุนายน 2490 ต้องถือว่า จำเลยไม่ได้ทำความผิดดังที่กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างของวันเกิดเหตุในฟ้องและคำเบิกความของพยาน ทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยลักทรัพย์เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2490 พะยานโจทก์เบิกความว่า จำเลยลักทรัพย์เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2490 ต้องถือว่า จำเลยไม่ได้ทำความผิดดังที่กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบธรรมของประกาศคณะกรรมการจังหวัดในการควบคุมข้าวสาร แม้มีกฎหมายเฉพาะอื่น
ประกาศคณะกรรมการจังหวัดเรื่องยักย้ายข้าวสารออกโดยอาศัยอำนาจแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆ ในภาวะคับขัน2488 มีผลบังคับได้ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวกับ พระราชบัญญัติการค้าข้าวไม่มีข้อความทับ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลบังคับของประกาศคณะกรมการจังหวัดเรื่องยักย้ายข้าวสารภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ เมื่อมีกฎหมายเฉพาะอื่น
ประกาศคณะกรมการจังหวัดเรื่องยักย้ายข้าวสารออก โดยอาศัยอำนาจแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่น ๆ ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2488 มีผลบังคับได้ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว กับ พ.ร.บ.การค้าข้าวไม่มีข้อความทับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ
of 91