พบผลลัพธ์ทั้งหมด 907 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้ราคาข้าว: พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคยังใช้ได้ แม้มี พ.ร.บ.การค้าข้าว เหตุราคาข้าวใหม่ยังไม่ออก
ขายข้าวสารเกินราคากว่าที่คณะกรรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ กำหนดไว้ แม้จะเป็นเวลาที่พระราชบัญญัติการค้าข้าว 2489 ประกาศใช้แล้วแต่คณะกรรมการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว 2489 ยังหาได้ประกาศกำหนดราคาข้าว ทั้งยังมิได้ยกเลิกราคาข้าวเดิมจึงต้องอาศัยราคาข้าวที่คณะกรรมการตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ กำหนดไว้เมื่อขายเกินราคาก็ต้องมีผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการกักขังลูกหนี้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ ศาลมีอำนาจกักขังได้แม้ไม่มีหมายบังคับคดี
คำบังคับ คือคำสั่งแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาให้ปฎิบัติตามคำพิพากษาและกำหนดวิธีที่จะปฎิบัติไว้ พร้อมทั้งระบุระยะเวลาและเงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่จำเป็น (วิ.แพ่ง.ม.272 - 273) และ ป.วิ.แพ่ง มาตรา 273 นี้ กำหนดวิธีบังคับไว้ในตอนท้ายว่า ถ้าผู้ต้องบังคับมิได้ปฏิบัติตามคำบังคับ ผู้นั้นจะต้องถูกยึดทรัพย์หรือถูกจับหรือจำขังดังที่บัญญัติไว้ในภาค 4 ลักษณะ 2 หมวด 1 กล่าวคือ ถ้าเป็นกรณีที่จะดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ศาลก็ออกหมายบังคับคดี (ม.275 - 276) แต่ถ้าเป็นกรณีที่ไม่ต้องดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดี ก็ทำการจับหรือจำขังเพื่อให้ปฏิบัติตามคำบังคับได้แล้วแต่เรื่อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจาห้องเช่าพ้นกำหนดคำบังคับแล้ว จำเลยยังขัดขืนไม่ยอมออกจากห้อง ดังนี้ศาลออกหมายจับจำเลยมากักขังฐานไม่ปฎิบัติตามคำบังคับได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจาห้องเช่าพ้นกำหนดคำบังคับแล้ว จำเลยยังขัดขืนไม่ยอมออกจากห้อง ดังนี้ศาลออกหมายจับจำเลยมากักขังฐานไม่ปฎิบัติตามคำบังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการกักขังลูกหนี้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ ศาลมีอำนาจกักขังได้แม้ไม่มีหมายบังคับคดี
คำบังคับ คือคำสั่งแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา ให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาและกำหนดวิธีที่จะปฏิบัติไว้พร้อมทั้งระบุระยะเวลาและเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่จำเป็น(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา272-273) และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 273 นี้ กำหนดวิธีบังคับไว้ในตอนท้ายว่า ถ้าผู้ต้องบังคับมิได้ปฏิบัติตามคำบังคับ ผู้นั้นจะต้องถูกยึดทรัพย์หรือถูกจับหรือจำขัง ดังที่บัญญัติไว้ในภาค 4 ลักษณะ 2 หมวด 1กล่าวคือ ถ้าเป็นกรณีที่จะดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ศาลก็ออกหมายบังคับคดี (มาตรา 275-276) แต่ถ้าเป็นกรณีที่ไม่ต้องดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ทำการจับหรือจำขังเพื่อให้ปฏิบัติตามคำบังคับได้แล้วแต่เรื่อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องเช่า พ้นกำหนดคำบังคับแล้ว จำเลยยังขัดขืน ไม่ยอมออกจากห้องดังนี้ศาลออกหมายจับจำเลยมากักขังฐานไม่ปฏิบัติตามคำบังคับได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องเช่า พ้นกำหนดคำบังคับแล้ว จำเลยยังขัดขืน ไม่ยอมออกจากห้องดังนี้ศาลออกหมายจับจำเลยมากักขังฐานไม่ปฏิบัติตามคำบังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยไม่มีเจตนาทำลายทรัพย์ผู้อื่น ไม่เป็นความผิดอาญา แต่เป็นการละเมิดทางแพ่ง
เดินเหยียบย่ำต้นข้าวในนาเขาเสียหาย เพราะลงไปเที่ยวหาหนูในนานั้น หาได้มีเจตนาโดยตรงที่จะแกล้งเหยียบย่ำทำลายต้นข้าวไม่ดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบังอาจทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324
หากแต่เป็นการละเมิดในทางแพ่ง
หากแต่เป็นการละเมิดในทางแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำลายทรัพย์สิน: การกระทำโดยไม่ได้เจตนา ไม่ถึงขั้นความผิดอาญา แต่เป็นการละเมิดทางแพ่ง
เดินเหยียบย่ำต้นข้าวในนาเสียหาย เพราะลงไปเที่ยวหาหนูในนานั้น หาได้มีเจตนาโดยตรงที่จะแกล้งเหยียบย่ำทำลายต้นข้าวไม่ ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบังอาจทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายตามก.ม.อาญามาตรา 324 + แต่เป็นการละเมิดในทางแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ของกลางในคดีภาษีสรรพสามิต: พยานหลักฐานต้องชัดเจนและครบถ้วน
ในคดีที่หาว่าจำเลยมีน้ำข้าวหมักส่าเชื้อสุราเถื่อน มีแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา ไว้ในครอบครองนั้น โจทก์ไม่นำผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางมาสืบ แม้แต่รายงานการตรวจและของกลางก็ไม่ได้ส่งศาล คงนำพะยานปากหนึ่งซึ่งไม่ใช่เป็นผู้ตรวจของกลางมาสืบว่า อำเภอได้พิสูจน์ของกลางแล้ว มีดีกรีได้เช่นเดียวกับสุราดังนี้ ยังไม่พอจะชี้ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุราตามบทวิเคราะห์แห่งกฏหมาย คดีจึงลงโทษจำเลยไม่ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องและริบของกลาง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุรา พิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางให้ริบ ดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาในเรื่องริบของกลาง เมื่อคดียังชี้ขาดไม่ได้ว่าของกลางเป็นของผิดกฏหมาย ย่อมสั่งยกเรื่องริบของกลางเสียได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องและริบของกลาง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุรา พิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางให้ริบ ดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาในเรื่องริบของกลาง เมื่อคดียังชี้ขาดไม่ได้ว่าของกลางเป็นของผิดกฏหมาย ย่อมสั่งยกเรื่องริบของกลางเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ลักษณะของเหลวเป็นสุราเถื่อน: หลักฐานต้องชัดเจนจากผู้เชี่ยวชาญ
ในคดีที่หาว่าจำเลยมีน้ำข้าวหมักส่าเชื้อสุราเถื่อนมีแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา ไว้ในครอบครองนั้น โจทก์ไม่นำผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางมาสืบแม้แต่รายงานการตรวจและของกลางก็ไม่ได้ส่งศาล คงนำพยานปากหนึ่งซึ่งไม่ใช่เป็นผู้ตรวจของกลางมาสืบว่าอำเภอได้พิสูจน์ของกลางแล้ว มีดีกรีได้เช่นเดียวกับสุรา ดังนี้ ยังไม่พอจะชี้ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุราตามบทวิเคราะห์แห่งกฎหมายคดีจึงลงโทษจำเลยไม่ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องและริบของกลางศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุราพิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางให้ริบดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาในเรื่องริบของกลาง เมื่อคดียังชี้ขาดไม่ได้ว่าของกลางเป็นของผิดกฎหมาย ย่อมสั่งยกเรื่องริบของกลางเสียได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องและริบของกลางศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุราพิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางให้ริบดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาในเรื่องริบของกลาง เมื่อคดียังชี้ขาดไม่ได้ว่าของกลางเป็นของผิดกฎหมาย ย่อมสั่งยกเรื่องริบของกลางเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัสต์ต้องมีการยกกรรมสิทธิ์และวัตถุประสงค์ชัดเจน การสั่งให้ทำบุญอย่างกว้างๆ ไม่ถือเป็นทรัสต์
ที่จะเป็นทรัสต์นั้น ต้องมีข้อความเห็นได้ว่ายกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่าผู้ได้รับกรรมสิทธิ์นั้นจะต้องใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือหลายคนอันกำหนดตัวแน่นอนหรือเพื่อสาธารณกุศลอันแน่นอน การที่สั่งไว้ในพินัยกรรมว่าให้เก็บผลประโยชน์ทรัพย์ของผู้วายชนม์ไว้สำหรับทำบุญให้ผู้วายชนม์ ต่อไปนั้นเป็นคำที่กว้างไม่แน่นอนว่าอะไรต้องเข้าใจว่าเพียงแต่ผู้วายชนม์ได้แสดงความประสงค์ไว้เช่นนั้นยังไม่ใช่ทรัสต์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อตั้งทรัสต์ต้องมีการยกกรรมสิทธิ์และผูกมัดการใช้ประโยชน์ที่ชัดเจน การสั่งให้ทำบุญทั่วไปไม่ถือเป็นทรัสต์
ที่จะเป็นตรัสต์นั้น ต้องมีข้อความเห็นได้ว่า ยกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่าผ้ได้รับกรรมสิทธ์นั้นจะตอ้งใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนี่ง หรือหลายคนอันกำหนดตัวแน่นอนหรือเพื่อสาธารณะกุศลอันแน่นอน การที่สั่งไว้ในพินักรรม์ว่าให้เก็บผลประโยชน์ทรัพย์ของผู้วายชนมไว้สำหรับทำบุญให้ผู้วายชนม์ ต่อไปนั้น เป็นคำที่กว้างไม่แน่นอนว่าอะไร ต้องเข้าใจว่าเพียงแต่ผู้วายชนม์ได้แสดงความประวงค์ไว้เช่นนั้นยังไม่ใช่ตรัสต์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินทดแทนแทนเจ้าของทรัพย์เสียหาย ก่อให้เกิดหน้าที่ส่งมอบเงินให้เจ้าของทรัพย์ โต้แย้งสิทธิฟ้องร้องได้
เจ้าของรถม้ารับเงินค่าเสียหายจากฝ่ายเจ้าของรถยนต์ที่ขับชนรถม้าและเครื่องเรือนของผู้อื่นที่ตนรับจ้างบรรทุกเสียหาย โดยรู้ดีว่าเงินทดแทนค่าเสียหายนั้นเป็นส่วนของเจ้าของเครื่องเรือนด้วยส่วนหนึ่งดังนี้ถือว่าเจ้าของรถม้ารับแทนเจ้าของเครื่องเรือนด้วย จึงก่อให้เกิดหน้าที่ที่จะต้องนำเงินนั้นส่งแก่เจ้าของเครื่องเรือน เมื่อไม่ส่งหรือไม่ยอมให้ก็เป็นการโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55โจทก์ฟ้องร้องได้