พบผลลัพธ์ทั้งหมด 907 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงแบ่งที่ดินของเจ้าของร่วม: สัญญาประนีประนอมยอมความที่ไม่ต้องทำเป็นหนังสือก็ได้
เจ้าของร่วมในที่ดินแปลงหนึ่งนั้น ตามกฎหมายในเบื้องต้นก็ต้องถือว่า ต่างคนต่างมีส่วนเป็นเจ้าของพัวพันกันอยู่ฉะนั้นเมื่อเจ้าของร่วมได้ตกลงกันกำหนดลงไปว่า ใครได้ตรงไหนดังนี้ก็ย่อมเป็นการระงับข้อพิพาทอันจะมีขึ้นให้เสร็จไป เพราะเป็นการตกลงเพื่อเป็นที่แน่นอนไม่โต้เถียงแย่งกันเอาส่วนนั้นส่วนนี้ฉะนั้นข้อตกลงดังกล่าว จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850 เมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ย่อมจะฟ้องร้องบังคับคดี ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเจ้าของร่วม: การแบ่งแยกที่ดินและผลผูกพันทางกฎหมาย
เจ้าของร่วมในที่ดินแปลงหนึ่งนั้น ตามกฎหมายในเบื้องต้นก็ต้องถือว่า ต่างคนต่างมีส่วนเป็นเจ้าของพัวพันกันอยู่
ฉะนั้นเมื่อเจ้าของร่วม ได้ตกลงกันกำหนดลงไปว่า ใครได้ตรงไหน ดังนี้ก็ย่อมเป็นการระงับข้อพิพาทอันจะมีขึ้นให้
เสร็จไป เพราะเป็นการตกลงเพื่อเป็นที่แน่นอนไม่โต้เถียงแย่งกันเอาส่วนนั้นส่วนนี้ ฉะนั้นข้อตกลงดังกล่าว จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 850 เมื่อไม่มีหลักญานเป็นหนังสือ ก็ย่อมจะฟ้องร้อง
บังคับคดี ไม่ได้.
ฉะนั้นเมื่อเจ้าของร่วม ได้ตกลงกันกำหนดลงไปว่า ใครได้ตรงไหน ดังนี้ก็ย่อมเป็นการระงับข้อพิพาทอันจะมีขึ้นให้
เสร็จไป เพราะเป็นการตกลงเพื่อเป็นที่แน่นอนไม่โต้เถียงแย่งกันเอาส่วนนั้นส่วนนี้ ฉะนั้นข้อตกลงดังกล่าว จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 850 เมื่อไม่มีหลักญานเป็นหนังสือ ก็ย่อมจะฟ้องร้อง
บังคับคดี ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินไม่ผูกพันกับความเป็นทายาท การเพิกถอนคำสั่งศาลเรื่องสถานะบุตร
ผู้ที่อ้างว่าได้ที่ดินของผู้ตายมาโดยทางครอบครอง หาใช้เพราะเป็นทายาทผู้รับมรดกของผู้ตายไม่การที่ผู้ใดจะเป็นทายาทของผู้ตายหรือไม่ ย่อมไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิครอบครองของผู้นั้น ฉะนั้นการที่ศาลสั่งว่าผู้ใดผู้หนึ่งเป็นบุตรของผู้ตาย จึงไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของผู้ที่อ้างว่าครอบครองที่ดินนั้นตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 55 ผู้นั้นจึงย่อมไม่มีสิทธิจะฟ้องศาลขอให้เพิกถอนคำสั่งที่สั่งว่าผู้ใดเป็นบุตรผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิ ผู้ครอบครองปรปักษ์ไม่อาจต่อสู้ได้
ผู้ครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์ จะยกข้อครอบครองโดยปรปักษ์ขึ้นต่อสู่ผู้รับซื้อที่ดินนั้น อันเป็นบุคคลภายนอกผู้รับ
โอนโฉนดรายนั้นมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริต และจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วตามความใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1299 หาได้ไม่./
โอนโฉนดรายนั้นมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริต และจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วตามความใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1299 หาได้ไม่./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเหนือที่ดิน: ผู้รับซื้อที่ดินโดยสุจริตมีสิทธิเหนือผู้ครอบครองปรปักษ์
ผู้ครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์ จะยกข้อครอบครองโดยปรปักษ์ขึ้นต่อสู้ผู้รับซื้อที่ดินนั้นอันเป็นบุคคลภายนอกผู้รับโอนโฉนดที่รายนั้นมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริต และจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายรถยนต์ ผู้ขายมีหน้าที่รับรองการโอนกรรมสิทธิเพื่อให้ผู้ซื้อจดทะเบียนได้ แม้การจดทะเบียนไม่ใช่หลักฐานกรรมสิทธิ
การซื้อขายรถยนต์นั้น เมื่อซื้อขายกันอย่างในสภาพที่ใช้เดินได้. รถยนต์ไม่ใช่เศษเหล็กแล้ว นอกจากผู้ขายจะต้อง
ส่งมอบรถยนต์นั้นแก่ผู้ซื้อแล้ว ผู้ขายยังมีหน้าที่ต้องรับรองต่อกองทะเบียนยานพาหนะกรมตำรวจอีกด้วยว่า ได้โอนกรรมสิทธิรถยนต์คันที่ขายนั้นให้แก่ผู้ซื้อไปแล้ว เพื่อเจ้าพนักงานจะได้รับจดทะเบียนรถยนต์คันนั้นให้แก่
ผู้ซื้อ แม้การจดทะเบียนจะไม่ใช่เป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิดังเช่นโฉนดแผนที่ และการโอนกรรมสิทธในรถไม่ได้
อยู่ที่การจดทะเบียนก็ดี แต่ถึงกระนั้นการจดทะเบียนก็เป็นการจำเป็นแก่การที่จะใช้รถยนต์นั้น./
ส่งมอบรถยนต์นั้นแก่ผู้ซื้อแล้ว ผู้ขายยังมีหน้าที่ต้องรับรองต่อกองทะเบียนยานพาหนะกรมตำรวจอีกด้วยว่า ได้โอนกรรมสิทธิรถยนต์คันที่ขายนั้นให้แก่ผู้ซื้อไปแล้ว เพื่อเจ้าพนักงานจะได้รับจดทะเบียนรถยนต์คันนั้นให้แก่
ผู้ซื้อ แม้การจดทะเบียนจะไม่ใช่เป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิดังเช่นโฉนดแผนที่ และการโอนกรรมสิทธในรถไม่ได้
อยู่ที่การจดทะเบียนก็ดี แต่ถึงกระนั้นการจดทะเบียนก็เป็นการจำเป็นแก่การที่จะใช้รถยนต์นั้น./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายรถยนต์ ผู้ขายมีหน้าที่รับรองการโอนกรรมสิทธิ์เพื่อให้ผู้ซื้อจดทะเบียนได้
การซื้อขายรถยนต์นั้น เมื่อซื้อขายกันอย่างรถยนต์ในสภาพที่ใช้เดินได้ไม่ใช่เศษเหล็กแล้ว นอกจากผู้ขายจะต้องส่งมอบรถยนต์นั้นแก่ผู้ซื้อแล้วผู้ขายยังมีหน้าที่ต้องรับรองต่อกองทะเบียนยานพาหนะกรมตำรวจอีกด้วยว่า ได้โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์คันที่ขายนั้นให้แก่ผู้ซื้อไปแล้ว เพื่อเจ้าพนักงานจะได้รับจดทะเบียนรถยนต์คันนั้นให้แก่ผู้ซื้อแม้การจดทะเบียนจะไม่ใช่เป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิ์ดังเช่นโฉนดแผนที่และการโอนกรรมสิทธิ์ในรถไม่ได้อยู่ที่การจดทะเบียนก็ดีแต่ถึงกระนั้นการจดทะเบียนก็เป็นการจำเป็นแก่การที่จะใช้รถยนต์นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1593-1594/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารรับเฝ้าบ้านเช่า ไม่ใช่พยานเอกสารตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จึงแก้ไขสืบได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 ห้ามมิให้มีการสืบเพิ่มเติมตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสาร แต่เฉพาะในกรณีที่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง
ผู้อยู่ในบ้านเช่า ทำหนังสือไว้แก่ผู้เช่าบ้านนั้นว่า ตนรับเฝ้าบ้านเช่าให้แก่ผู้เช่า ไม่ใช่เช่าช่วงและไม่ได้เสียเงินให้ผู้เช่า ดังนี้ หนังสือดังกล่าวไม่ใช่พยานเอกสารชนิดที่มีกฎหมายบังคับว่าต้องนำแสดงฉะนั้น การสืบเพิ่มเติมหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลง เช่นสืบว่าตนเช่าช่วงบ้านนั้นจากผู้เช่า ดังนี้ ย่อมสืบได้ไม่ต้องห้าม
ผู้อยู่ในบ้านเช่า ทำหนังสือไว้แก่ผู้เช่าบ้านนั้นว่า ตนรับเฝ้าบ้านเช่าให้แก่ผู้เช่า ไม่ใช่เช่าช่วงและไม่ได้เสียเงินให้ผู้เช่า ดังนี้ หนังสือดังกล่าวไม่ใช่พยานเอกสารชนิดที่มีกฎหมายบังคับว่าต้องนำแสดงฉะนั้น การสืบเพิ่มเติมหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลง เช่นสืบว่าตนเช่าช่วงบ้านนั้นจากผู้เช่า ดังนี้ ย่อมสืบได้ไม่ต้องห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1593-1594/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานเพิ่มเติมในเอกสารที่ไม่ใช่พยานเอกสารตามกฎหมาย
ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94 ห้ามมิให้มีการสืบเพิ่มเติมตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสาร แต่เฉพาะในกรณีที่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง
ผู้อยู่ในบ้านเช่า ทำหนังสือไว้แก่ผู้เช่าบ้านนั้นว่า ตนรับเฝ้าบ้านเช่าให้แก่ผู้เช่า ไม่ใช่เช่าช่วงและไม่ได้เสียเงินให้ผู้เช่า ดังนี้ หนังสือดังกล่าวไม่ใช่พยานเอกสารชนิดที่มีกฎหมายบังคับว่า ต้องนำแสดง ฉะนั้น การสืบเพิ่มเติมหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลง เช่นสืบว่าตนเช่าช่วงบ้านนั้นจากผู้เช่า ดังนี้ ย่อมสืบได้ไม่ต้องห้าม
ผู้อยู่ในบ้านเช่า ทำหนังสือไว้แก่ผู้เช่าบ้านนั้นว่า ตนรับเฝ้าบ้านเช่าให้แก่ผู้เช่า ไม่ใช่เช่าช่วงและไม่ได้เสียเงินให้ผู้เช่า ดังนี้ หนังสือดังกล่าวไม่ใช่พยานเอกสารชนิดที่มีกฎหมายบังคับว่า ต้องนำแสดง ฉะนั้น การสืบเพิ่มเติมหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลง เช่นสืบว่าตนเช่าช่วงบ้านนั้นจากผู้เช่า ดังนี้ ย่อมสืบได้ไม่ต้องห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1591/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันสัญญาประนีประนอมยอมความและการปฏิบัติตามสัญญาเช่า
คู่ความตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลว่าจำเลยยอมให้โจทก์เช่าศาลาท่าน้ำและชานศาลาเป็นท่าขึ้นลงสำหรับที่เรือจ้างรับส่งคนโดยสาร เมื่อศาลพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญายอมความนั้นแล้วผลก็ย่อมผูกพันจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญายอมความนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคแรกจำเลยจะอ้างว่า ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่ เพราะเป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ถ้าโจทก์ไม่ยอมเซ็นสัญญาเช่าใหม่แล้วจำเลยก็ยังไม่ยอมให้โจทก์เช่า ดังนี้ ไม่ได้ เพราะการเช่าย่อมเกิดขึ้นแล้วตามสัญญายอมความ และตามสัญญายอมความก็ไม่มีข้อความว่าจะต้องไปทำสัญญาเช่ากันใหม่ไม่ ฉะนั้นถ้าจำเลยขัดขืนโจทก์ก็ขอให้ศาลออกคำบังคับจำเลยได้ทีเดียว