พบผลลัพธ์ทั้งหมด 907 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินค่าเสียหายแทนเจ้าของทรัพย์สิน ทำให้เกิดหน้าที่ต้องส่งมอบเงินให้เจ้าของทรัพย์สินเดิม
เจ้าของรถม้ารับเงินค่าเสียหายจากฝ่ายเจ้าของรถยนตร์ที่ขับชนรถม้า และเครื่องเรือนของผู้อื่นที่ตนรับจ้างบรรทุกเสียหาย โดยรู้ดีว่าเงินทดแทนค่าเสียหายนั้นเป็นส่วนของเจ้าของเครื่องเรือนด้วย ส่วนหนี่งดังนี้ ถือว่าเจ้าของรถม้ารับแทนเจ้าของเครื่องเรือนด้วยจึงก่อให้เกิดหน้าที่ที่จะต้องนำเงินนั้นส่งแก่เจ้าของเครื่องเรือน เมื่อไม่ส่งหรือไม่ยอมให้ก็เป็นการโต้แย้งสิทธิตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 55 โจทก์ฟ้องร้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 402-405/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งปริมาณข้าวเปลือก: เจตนาฝ่าฝืนและความแตกต่างของกฎหมาย
คณะกรรมการจังหวัดได้ออกประกาศให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้าวเปลือก ไปแจ้งปริมาณสถานที่เก็บ ตามอำนาจในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคนั้น แม้เรื่องการแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวจะมีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัติสำรวจห้ามกักกันข้าวซึ่งออกใช้ภายหลังก็ดีศาลก็จะใช้ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวแทนพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ ไม่ได้ เพราะกฎหมายทั้งสองนี้มีความมุ่งหมายต่างกัน
ผู้ที่ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บตามประกาศของคณะกรรมการจังหวัดซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ นั้น ถ้าไม่ทราบประกาศดังกล่าวแล้วนั้นก็ถือว่าไม่มีเจตนาฝ่าฝืน ยังไม่ผิด
คดีที่จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง หากโจทก์ต้องสืบพยานประกอบคำรับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 เมื่อพยานที่นำสืบกลับฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดเช่นนี้ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้
ผู้ที่ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บตามประกาศของคณะกรรมการจังหวัดซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ นั้น ถ้าไม่ทราบประกาศดังกล่าวแล้วนั้นก็ถือว่าไม่มีเจตนาฝ่าฝืน ยังไม่ผิด
คดีที่จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง หากโจทก์ต้องสืบพยานประกอบคำรับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 เมื่อพยานที่นำสืบกลับฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดเช่นนี้ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อจากคดีอื่น ต้องมีหลักฐานแสดงว่าจำเลยต้องรับโทษในคดีนั้นจริง
โจทก์ขอให้ศาลนับโทษจำเลยต่อคดีดำคดี+นั้น เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยต้องรับโทษอยู่ในคดีดังกล่าวนั้นหรือไม่ ดังนี้ศาล+นับโทษต่อให้มิได้
การขอให้นับโทษต่อจากคดีอื่น จะต้องระบุคดีนั้นในใบระบุพะยานด้วย
การขอให้นับโทษต่อจากคดีอื่น จะต้องระบุคดีนั้นในใบระบุพะยานด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อจากคดีอื่นต้องระบุในใบระบุพยาน หากไม่ระบุศาลไม่สามารถนับโทษต่อได้
โจทก์ขอให้ศาลนับโทษจำเลยต่อจากคดีดำคดีหนึ่งนั้นเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยต้องรับโทษอยู่ในคดีที่กล่าวนั้นหรือไม่ ดังนี้ศาลจะนับโทษต่อให้มิได้
การขอให้นับโทษต่อจากคดีอื่นจะต้องระบุคดีนั้นในใบระบุพยานด้วย
การขอให้นับโทษต่อจากคดีอื่นจะต้องระบุคดีนั้นในใบระบุพยานด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับคำให้การต่อสู้ของจำเลยไม่ใช่คำรับสารภาพ และหน้าที่การนำสืบของโจทก์ในคดีอาญา
คำรับของจำเลยที่รับว่า ได้ทำร้ายผู้เสียหายจริง แต่ได้ทำไปโดยการป้องกันตัวนั้น ถือว่าไม่ใช่คำรับสารภาพตามฟ้องตามที่กำหนดไว้ใน ป.ม.วิ.อาญา ม.176 จะฟังเอาคำรับของจำเลยแต่เพียงบางส่วนไปลงโทษจำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงคงมีหน้าที่ต้องนำสืบตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 174 เพื่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยควรรับโทษ ถ้าโจทก์ไม่สืบก็ต้องยกฟ้อง
ในคดีอาญานั้น แม้โจทก์จำเลยตกลงอ้างและขอให้ศาลวินิจฉัยคดีตามคำให้การขอพะยานในคดีอาญาอีกคดีหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวเนื่องในกรณีเกียวกัน ศาลก็ไม่รับฟังคำพะยานเหล่านั้นเพื่อลงโทษจำเลย
ในคดีอาญานั้น แม้โจทก์จำเลยตกลงอ้างและขอให้ศาลวินิจฉัยคดีตามคำให้การขอพะยานในคดีอาญาอีกคดีหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวเนื่องในกรณีเกียวกัน ศาลก็ไม่รับฟังคำพะยานเหล่านั้นเพื่อลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความผิดในคดีอาญา จำเลยต่อสู้ว่าทำร้ายเพื่อป้องกันตัว โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิดเอง
คำรับของจำเลยที่รับว่า ได้ทำร้ายผู้เสียหายจริงแต่ได้ทำไปโดยการป้องกันตัวนั้น ถือว่าไม่ใช่คำรับสารภาพตามฟ้องตามที่กำหนดไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 จะฟังเอาคำรับของจำเลยแต่เพียงบางส่วนไปลงโทษจำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงคงมีหน้าที่ต้องนำสืบตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 174 เพื่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยควรรับโทษถ้าโจทก์ไม่สืบ ก็ต้องยกฟ้อง
ในคดีอาญานั้น แม้โจทก์จำเลยตกลงอ้างและขอให้ศาลวินิจฉัยคดีตามคำให้การของพยานในคดีอาญาอีกคดีหนึ่งซึ่งเกี่ยวเนื่องในกรณีเดียวกันศาลก็ไม่รับฟังคำพยานเหล่านั้นเพื่อลงโทษจำเลย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่1/2491 และครั้งที่ 8,9/2491)
ในคดีอาญานั้น แม้โจทก์จำเลยตกลงอ้างและขอให้ศาลวินิจฉัยคดีตามคำให้การของพยานในคดีอาญาอีกคดีหนึ่งซึ่งเกี่ยวเนื่องในกรณีเดียวกันศาลก็ไม่รับฟังคำพยานเหล่านั้นเพื่อลงโทษจำเลย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่1/2491 และครั้งที่ 8,9/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญายืมใช้สิ้นเปลือง - หลักฐานการกู้ยืม - การบังคับคดี
จำเลยนำสายพานมามอบไว้กับโจทก์เพื่อขายแต่ยังขายไม่ได้จำเลยจึงขอให้โจทก์จ่ายเงินค่าสายพานให้จำเลยไปก่อนถ้ามีผู้ซื้อสายพานได้ตามที่นัดไว้ จำเลยก็ไม่ต้องชำระเงินคืน ถ้าผู้ซื้อไม่มาซื้อ จำเลยจะต้องชำระเงินคืน ข้อตกลงเช่นนี้เป็นสัญญายืมใช้สิ้นเปลืองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 650 ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแล้วจะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญายืมใช้สิ้นเปลืองไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ฟ้องบังคับคดีไม่ได้
จำเลยนำสายพานมามอบไว้กับโจทก์เพื่อขาย แต่ยังขายไม่ได้ จำเลยจึงขอให้โจทก์จ่ายเงินค่าสายพานให้จำเลยไปก่อน ถ้ามีผู้ซื้อสายพานได้ตามที่นัดไว้ จำเลยก็ไม่ต้องชำระเงินคืน ถ้าผู้ซื้อไม่มาซื้อ จำเลยจะต้องชำระเงินคืน ข้อตกลงเช่นนี้เป็นสัญญายืมใช้สิ้นเปลืองตาม ป.พ.พ.มาตรา 650 ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแล้วจะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: การพิจารณาขอบเขตการ 'ปฏิบัติหน้าที่'
ปลัดอำเภอได้รับคำสั่งจากนายอำเภอให้ไปรักษาเหตุการณ์ในตลาด เพราะจะมีหนังตลุงเล่น ปลัดอำเภอออกจากบ้านไปกับภรรยา พอถึงตลาดภรรยาแวะเข้าในร้านริมทาง ปลัดอำเภอยืนคอยอยู่มีคนมาทำร้ายปลัดอำเภอ+ ถือว่าปลัดอำเภอยังไมไ่ด้ทำการตามหน้าที่ ผู้ทำมีผิดฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 254.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: การพิเคราะห์เจตนาและขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่
ปลัดอำเภอได้รับคำสั่งจากนายอำเภอให้ไปรักษาเหตุการณ์ในตลาดเพราะจะมีหนังตลุงเล่น ปลัดอำเภอออกจากบ้านไปกับภรรยา พอถึงตลาดภรรยาแวะเข้าในร้านข้างทาง ปลัดอำเภอยืนคอยอยู่ มีคนมาทำร้ายปลัดอำเภอดังนี้ ถือว่าปลัดอำเภอยังไม่ทันได้ทำการตามหน้าที่ผู้ทำร้ายมีผิดฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 254