พบผลลัพธ์ทั้งหมด 907 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจำเลยอื่นโดยอาศัยเหตุส่วนตัวของจำเลยที่อุทธรณ์ ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีที่มีจำเลยหลายคนจำเลยคนหนึ่งอุทธรณ์ขอลดหย่อนโทษศาลอุทธรณ์ลดให้เพราะเห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มและทรัพย์ที่ลักเป็นทรัพย์ของพี่ชาย ดังนี้ เป็นเหตุส่วนตัวเฉพาะผู้อุทธรณ์ไม่ใช่เหตุในลักษณะคดีศาลอุทธรณ์จะลดโทษจำเลยอื่นด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 70/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบหมายหน้าที่ซื้อขายในเรือนจำและการยอมความในคดียักยอกทรัพย์
การที่พัสดีมอบให้ผู้คุมเรือนจำซื้อขนมขายในเรือนจำนั้นเป็นการค้าส่วนตัว มิใช่ให้ทำการในหน้าที่ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 319(3)
บัญชีที่ทำยังไม่เรียบร้อย จึงแก้บัญชีนั้นเพื่อให้ถูกต้องโดยสุจริตไม่มีผิดฐานปลอมหนังสือ
ในคดียักยอกอันเป็นความผิดต่อส่วนตัว ข้าหลวงประจำจังหวัดในฐานะเป็นผู้บัญชาการเรือนจำมีอำนาจยอมความได้
บัญชีที่ทำยังไม่เรียบร้อย จึงแก้บัญชีนั้นเพื่อให้ถูกต้องโดยสุจริตไม่มีผิดฐานปลอมหนังสือ
ในคดียักยอกอันเป็นความผิดต่อส่วนตัว ข้าหลวงประจำจังหวัดในฐานะเป็นผู้บัญชาการเรือนจำมีอำนาจยอมความได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 70/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำของผู้คุมเรือนจำนอกหน้าที่ราชการและการยอมความในคดียักยอกทรัพย์
การที่พัสดีมอบให้ผู้คุมเรือนจำซื้อขนมขายในเรือนจำนั้นเป็นการค้าส่วนตัว มิใช่ให้ทำการในหน้าที่ตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.319 (3)
บัญชีที่ทำยังไม่เรียบร้อย จึงแก้บัญชีนั้นเพื่อให้ถูกต้องโดยสุจริตไม่มีผิดฐานปลอมหนังสือ
ในคดียักยอกอันเป็นความผิดต่อส่วนตัว ข้าหลวงประจำจังหวัดในฐานะเป็นผู้บัญชาการเรือนจำมีอำนาจยอมความได้
บัญชีที่ทำยังไม่เรียบร้อย จึงแก้บัญชีนั้นเพื่อให้ถูกต้องโดยสุจริตไม่มีผิดฐานปลอมหนังสือ
ในคดียักยอกอันเป็นความผิดต่อส่วนตัว ข้าหลวงประจำจังหวัดในฐานะเป็นผู้บัญชาการเรือนจำมีอำนาจยอมความได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนสัญญาซื้อขาย, เหตุสุดวิสัย, การปฏิบัติตามสัญญา, เบี้ยปรับ, และการลดเบี้ยปรับ
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์แล้วโจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้จำเลยแพ้ แต่จำเลยได้กล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ดังนี้ศาลอุทธรณ์ต้องยกขึ้นพิจารณาจะถือว่าประเด็นนั้นยุติแล้วไม่ได้
คำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ก็เป็นคำฟ้องและคำให้การตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา1(3) และ (4)
ในสัญญาระบุชื่อและระบุว่าผู้จัดการร้านนั้นอาจแสดงว่ามีหน้าที่อะไรหรือแสดงว่าทำในฐานะผู้จัดการร้านซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ฉะนั้นอีกฝ่ายหนึ่งนำพยานบุคคลมาสืบว่าผู้นั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ไม่เป็นการสืบแก้เอกสาร แต่เป็นการสืบอธิบาย
คนในร้านค้าของจำเลยทำสัญญาขายกระดาษ จำเลยรับว่าผู้นั้นเป็นผู้จัดการร้านค้าของจำเลยซึ่งค้ากระดาษและเครื่องเขียนนั้นมีอำนาจในการค้าในวงเขตของร้านสาขานั้น
ผู้จัดการร้านสาขามีอำนาจทำสัญญาขายสินค้าในร้านนั้นเป็นราคามากๆ ได้โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านมอบอำนาจให้ผู้จัดการร้านสาขาขายของแต่เฉพาะเงินสดนั้นถ้าผู้ทำสัญญาซื้อของไม่รู้ความข้อนี้เจ้าของร้านจะยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
คณะกรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคในภาวะคับขันสั่งควบคุมกระดาษและห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่ผู้ใดนั้น แต่เจ้าของขายอาจขออนุญาตขายได้นั้น ถ้าผู้ทำสัญญาขายกระดาษไม่ส่งกระดาษให้ผู้ซื้อโดยไม่ขออนุญาตต่อทางการเพื่อขาย ผู้ขายก็อ้างเหตุดังกล่าวนั้นเพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาในฐานเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้
ทำสัญญาขายกระดาษให้แก่กรมๆ หนึ่ง แล้วไม่ส่งกระดาษตามสัญญานั้น จะอ้างว่ากระดาษอยู่ในความครอบครองขององค์การรัฐบาลซึ่งต่างกรมมาแก้ตัวความรับผิดสัญญาไม่ได้
การที่ลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่ทำให้หลุดพ้นจากการชำระหนี้
พฤติการณ์ที่แสดงว่าการโต้ตอบกัน ไม่มีการตกลงกันอย่างใหม่
พฤติการณ์ที่แวดล้อมเกี่ยวแก่การพิจารณาว่าจะควรลดเบี้ยปรับตามสัญญาหรือไม่
คำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ก็เป็นคำฟ้องและคำให้การตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา1(3) และ (4)
ในสัญญาระบุชื่อและระบุว่าผู้จัดการร้านนั้นอาจแสดงว่ามีหน้าที่อะไรหรือแสดงว่าทำในฐานะผู้จัดการร้านซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ฉะนั้นอีกฝ่ายหนึ่งนำพยานบุคคลมาสืบว่าผู้นั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ไม่เป็นการสืบแก้เอกสาร แต่เป็นการสืบอธิบาย
คนในร้านค้าของจำเลยทำสัญญาขายกระดาษ จำเลยรับว่าผู้นั้นเป็นผู้จัดการร้านค้าของจำเลยซึ่งค้ากระดาษและเครื่องเขียนนั้นมีอำนาจในการค้าในวงเขตของร้านสาขานั้น
ผู้จัดการร้านสาขามีอำนาจทำสัญญาขายสินค้าในร้านนั้นเป็นราคามากๆ ได้โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านมอบอำนาจให้ผู้จัดการร้านสาขาขายของแต่เฉพาะเงินสดนั้นถ้าผู้ทำสัญญาซื้อของไม่รู้ความข้อนี้เจ้าของร้านจะยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
คณะกรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคในภาวะคับขันสั่งควบคุมกระดาษและห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่ผู้ใดนั้น แต่เจ้าของขายอาจขออนุญาตขายได้นั้น ถ้าผู้ทำสัญญาขายกระดาษไม่ส่งกระดาษให้ผู้ซื้อโดยไม่ขออนุญาตต่อทางการเพื่อขาย ผู้ขายก็อ้างเหตุดังกล่าวนั้นเพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาในฐานเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้
ทำสัญญาขายกระดาษให้แก่กรมๆ หนึ่ง แล้วไม่ส่งกระดาษตามสัญญานั้น จะอ้างว่ากระดาษอยู่ในความครอบครองขององค์การรัฐบาลซึ่งต่างกรมมาแก้ตัวความรับผิดสัญญาไม่ได้
การที่ลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่ทำให้หลุดพ้นจากการชำระหนี้
พฤติการณ์ที่แสดงว่าการโต้ตอบกัน ไม่มีการตกลงกันอย่างใหม่
พฤติการณ์ที่แวดล้อมเกี่ยวแก่การพิจารณาว่าจะควรลดเบี้ยปรับตามสัญญาหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนสัญญาซื้อขาย, เหตุสุดวิสัย, การผิดสัญญา และเบี้ยปรับ
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์แล้วโจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้จำเลยแพ้ แต่จำเลยได้กล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ดังนี้ศาลอุทธรณ์ต้องยกขึ้นพิจารณาจะถือว่าประเด็นนั้นยุตติแล้วไม่ได้
คำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ก็เป็นคำฟ้องและคำให้การตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม.1 (3) และ (4)
ในสัญญาระบุชื่อและระบุว่าผู้จัดการร้านนั้นอาจแสดงว่ามีหน้าที่อะไรหรือแสดงว่าทำในฐานะผู้จัดการร้านซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ฉะนั้นอีกฝ่ายหนึ่งนำพะยานบุคคลมาสืบว่าผู้นั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ไม่เป็นการสืบแก้เอกสาร แต่เป็นการสืบอธิบาย
คนในร้านค้าของจำเลยทำสัญญาขายกระดาษจำเลยรับว่าผู้นั้นเป็นผู้จัดการร้านค้าของจำเลยซึ่งค้ากระดาษและเครื่องเขียนนั้นมีอำนาจในการค้าในวงเขตต์ของร้านสาขานั้น
ผู้จัดการร้านสาขามีอำนาจทำสัญญาขายสินค้าในร้านนั้นเป็นราคามากๆได้โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านมอบอำนาจให้ผู้จัดการร้านสาขาขายของแต่ฉะเพาะเงินสดนั้นถ้าผู้ทำสัญญาซื้อของไม่รู้ความข้อนี้ เจ้าของร้านจะยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
คณะกรรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคในภาวะคับขันสั่งควบคุมกระดาษและห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่ผู้ใดนั้น แต่เจ้าของขายอาจขออนุญาตขายได้นั้น ถ้าผู้ทำสัญญาขายกระดาษไม่ส่งกระดาษให้ผู้ซื้อโดยไม่ขออนุญาตต่อทางการเพื่อขาย ผู้ขายก็อ้างเหตุดั่งกล่าวนั้นเพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาในฐานเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้
ทำสัญญาขายกระดาษให้แก่กรมๆหนึ่ง แล้วไม่ส่งกระดาษตามสัญญานั้นจะอ้างว่ากระดาษอยู่ในความครอบครองขององค์การรัฐบาลซึ่งต่างกรมมาแก้ตัวความรับผิดสัญญาไม่ได้
การที่ลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่ทำให้หลุดพ้นจากการชำระหนี้
พฤตติการณ์ที่แสดงว่าการโต้ตอบกันไม่มีการตกลงกันอย่างใหม่พฤตติการณ์ที่แวดล้อมเกี่ยวแก่การพิจารณาว่าจะควรลดเบี้ยปรับตามสัญญาหรือไม่
คำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ก็เป็นคำฟ้องและคำให้การตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม.1 (3) และ (4)
ในสัญญาระบุชื่อและระบุว่าผู้จัดการร้านนั้นอาจแสดงว่ามีหน้าที่อะไรหรือแสดงว่าทำในฐานะผู้จัดการร้านซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ฉะนั้นอีกฝ่ายหนึ่งนำพะยานบุคคลมาสืบว่าผู้นั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของร้านก็ได้ ไม่เป็นการสืบแก้เอกสาร แต่เป็นการสืบอธิบาย
คนในร้านค้าของจำเลยทำสัญญาขายกระดาษจำเลยรับว่าผู้นั้นเป็นผู้จัดการร้านค้าของจำเลยซึ่งค้ากระดาษและเครื่องเขียนนั้นมีอำนาจในการค้าในวงเขตต์ของร้านสาขานั้น
ผู้จัดการร้านสาขามีอำนาจทำสัญญาขายสินค้าในร้านนั้นเป็นราคามากๆได้โดยไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของร้าน
การที่เจ้าของร้านมอบอำนาจให้ผู้จัดการร้านสาขาขายของแต่ฉะเพาะเงินสดนั้นถ้าผู้ทำสัญญาซื้อของไม่รู้ความข้อนี้ เจ้าของร้านจะยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอกไม่ได้
คณะกรรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคในภาวะคับขันสั่งควบคุมกระดาษและห้ามไม่ให้จำหน่ายแก่ผู้ใดนั้น แต่เจ้าของขายอาจขออนุญาตขายได้นั้น ถ้าผู้ทำสัญญาขายกระดาษไม่ส่งกระดาษให้ผู้ซื้อโดยไม่ขออนุญาตต่อทางการเพื่อขาย ผู้ขายก็อ้างเหตุดั่งกล่าวนั้นเพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาในฐานเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้
ทำสัญญาขายกระดาษให้แก่กรมๆหนึ่ง แล้วไม่ส่งกระดาษตามสัญญานั้นจะอ้างว่ากระดาษอยู่ในความครอบครองขององค์การรัฐบาลซึ่งต่างกรมมาแก้ตัวความรับผิดสัญญาไม่ได้
การที่ลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่ทำให้หลุดพ้นจากการชำระหนี้
พฤตติการณ์ที่แสดงว่าการโต้ตอบกันไม่มีการตกลงกันอย่างใหม่พฤตติการณ์ที่แวดล้อมเกี่ยวแก่การพิจารณาว่าจะควรลดเบี้ยปรับตามสัญญาหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในหนังสือสัญญาเช่า: เจ้าของสัญญาทำลายได้หรือไม่?
โจทก์ทำสัญญาเช่าสวนจำเลย แล้วมอบให้จำเลยยึดถือไว้ จำเลยฉีกทำลายหนังสือสัญญานั้น ไม่มีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.228 เพราะจำเลยเป็นเจ้าของหนังสือนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์สัญญาเช่า: เจ้าของสัญญาทำลายได้ไม่ผิด
โจทก์ทำสัญญาเช่าสวนจำเลย แล้วมอบให้จำเลยยึดถือไว้จำเลยฉีกทำลายหนังสือสัญญานั้น ไม่มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 228 เพราะจำเลยเป็นเจ้าของหนังสือนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินก่อนพ.ร.บ.ออกโฉนดฯ ไม่ถือเป็นป่า หากมิได้คัดค้านการได้มาตามกฎหมายเดิม
พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2486 ม.13 เพียงแต่บอกระเบียบให้จัดการขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าของที่ดินตามกฎหมาย แต่บุคคลอาจได้ที่ดินมาตามกฎหมายที่ใช้อยู่ก่อนพ.ศ.2486 เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านว่า การให้ที่ดินไม่เป็นการได้มาตามกฎหมายที่ดินที่ใช้อยู่ก่อนนั้นแล้วก็ไม่พอฟังว่าที่ดินซึ่งจำเลยตัดต้นไม้ชะนิดหวงห้ามนั้นตกเป็นป่า ตามวิเคราะห์ศัพท์ใน พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา (1) คดีจึงไม่พอลงโทษจำเลยฐานตัดต้นไม้หวงห้ามในที่ป่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินก่อน พ.ศ. 2486 ไม่ทำให้ที่ดินกลายเป็นป่า แม้ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตาม พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน
พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2486 มาตรา13เพียงแต่บอกระเบียบให้จัดการขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าของที่ดินตามกฎหมายแต่บุคคลอาจได้ที่ดินมาตามกฎหมายที่ใช้อยู่ก่อนพ.ศ.2486 เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านว่า การให้ที่ดินไม่เป็นการได้มาตามกฎหมายที่ดินที่ใช้อยู่ก่อนนั้นแล้วก็ไม่พอฟังว่าที่ดินซึ่งจำเลยตัดต้นไม้ชนิดหวงห้ามนั้นตกเป็นป่าตามวิเคราะห์ศัพท์ใน พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา4(1) คดีจึงไม่พอลงโทษจำเลยฐานตัดต้นไม้หวงห้ามในที่ป่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดทางภาษีอากร: ข้อเท็จจริงสำคัญกว่าปัญหาข้อกฎหมาย
คดีอาญาที่ศาลล่างยกฟ้องในข้อเท็จจริงเสียแล้ว แม้ในชั้นฎีกามีปัญหาในข้อกฎหมาย แต่ไม่มีทางลงโทษโดยทางข้อเท็จจริงเสียแล้วฎีกานั้นก็ไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันควรรับวินิจฉัย