พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,319 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจคณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรในการควบคุมและแจ้งปริมาณสินค้า
ประกาศคณะกรรมการฯตามพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควรควบคุมหนังโคหนังกระบือสดและแห้ง และให้ผู้ที่ได้หนังมาไว้ในครอบครองแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บภายในเวลาที่กำหนดไว้นั้นจะถือว่านอกขอบเขตพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควรยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเหตุนอกคำฟ้องเรื่องการเช่าในคดีขับไล่: ศาลฎีกาห้ามวินิจฉัยประเด็นนอกคำฟ้อง แม้เกี่ยวข้องกับสิทธิจำเลย
ฟ้องอ้างเหตุเพียงว่าจำเลยปลูกเรือนอยู่ในที่ของโจทก์โดยไม่มีนิติสัมพันธ์ใดๆ กับโจทก์มิได้แสดงถึงการเช่าของจำเลยซึ่งมีอยู่ ดังนี้ไม่ชอบที่ศาลจะยกเหตุนอกคำฟ้องเรื่องจำเลยได้รับความคุ้มครองพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าหรือไม่มาวินิจฉัยด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนีประนอมยอมความในคดีอาญา สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งระงับ
ผู้เสียหายในการละเมิดตกลงรับค่าเสียหายจากผู้ละเมิดไว้ในคดีอาญาและศาลจดรายงานพิจารณาว่าผู้เสียหายตกลงจะไม่ว่ากล่าวเอาโทษผู้ละเมิดซึ่งเป็นจำเลยในคดีอาญาอีกต่อไปเช่นนี้ถือว่าเป็นการประนีประนอมยอมความ ผู้เสียหายจะมาฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 36-39/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจคณะกรรมการสำรวจที่ดินจำกัด คดีที่ศาลตัดสินแล้ว ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
เมื่อศาลพิพากษาให้คู่ความฝ่ายใด เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินใดแล้ว คณะกรรมการสำรวจตาม พระราชบัญญัติการสำรวจการออกโฉนดที่ดิน ไม่มีอำนาจสั่งยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลได้ เจ้าพนักงานที่ดินในท้องที่นั้นมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งตามคำพิพากษาของศาล พระราชบัญญัติสำรวจการออกโฉนดที่ดินไม่กินความถึงคดีที่ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2134/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดขวางทางสาธารณะและการนับระยะเวลาตามคำสั่งเจ้าพนักงาน
ปลัดอำเภอมีคำสั่งให้จำเลยเปิดทางที่จำเลยปิด โดยเจ้าพนักงานเห็นว่าเป็นทางสาธารณะใน 3 วัน การนับเวลา3 วันนี้ ต้องนับตามประมวลแพ่งฯ มาตรา 158 คือไม่นับวันที่ออกคำสั่งเข้าไปด้วย ต้องนับวันรุ่งขึ้นจากวันออกคำสั่ง การที่เจ้าพนักงานไปจับจำเลยมาหาว่าขัดคำสั่งก่อนครบกำหนดจำเลยจึงยังไม่ผิดฐานขัดคำสั่งด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2134/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน การนับระยะเวลาคำสั่ง และการจับกุมก่อนกำหนด
ปลัดอำเภอมีคำสั่งให้จำเลยเปิดทางที่จำเลยปิด โดยเจ้าพนักงานเห็นว่าเป็นทางสาธารณะใน 3 วัน การนับเวลา 3 วันนี้ต้องนับตามประมวลแพ่งฯ ม.158 คือไม่นับวันที่ออกคำสั่งเข้าไปด้วย ต้องนับวันรุ่งขึ้นจากวันออกคำสั่งการที่เจ้าพนักงานไปจับจำเลยมาหาว่าขัดคำสั่งก่อนครบกำหนดจำเลยจึงยังไม่ผิดฐานขัดคำสั่งด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2132/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองฝิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาต: อำนาจริบของกลาง แม้จำเลยรับสารภาพเฉพาะส่วน
ข้อเท็จจริงได้ความว่าฝิ่นจำนวน 77,700 กรัม เจ้าพนักงานค้นได้ในบริเวณที่เกิดเหตุ แม้โจทก์จะฟ้องหาว่าจำเลยมีฝิ่นอีกจำนวนหนึ่งไม่ใช่จำนวนที่ค้นได้นี้ และจำเลยรับสารภาพว่าฝิ่นที่ฟ้องหาว่าจำเลยมีเป็นของจำเลย และไม่ได้ให้การถึงฝิ่น 77,700 กรัม ที่ค้นได้ว่าเป็นของใครก็ฟังได้ว่าฝิ่นที่ค้นได้และไม่ได้ฟ้องว่าเป็นของจำเลย เป็นของมีไว้โดยผิดกฎหมาย เพราะไม่ใช่ฝิ่นของรัฐบาลและถูกจับในที่เกิดเหตุ เนื่องจากจำเลยทำผิดกฎหมายฐานมีฝิ่นไม่ใช่ของรัฐบาลไว้ในครอบครอง แต่เมื่อโจทก์ขอริบฝิ่นจำนวนนี้มาด้วย ศาลก็มีอำนาจริบได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2123/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเช่าที่ดินและการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต การยินยอมและผลของการหวนกลับคำนึง
สองฝ่ายตกลงกันเองว่าฝ่ายใดจะเช่าที่ดินแปลงไหนจากการรถไฟเจ้าหน้าที่การรถไฟได้อนุมัติและบันทึกการตกลงนั้นไว้แล้วและต่อมาก็มิได้มีการเพิกถอนข้อตกลงนั้น ดังนี้ฝ่ายหนึ่งจะฟ้องขับไล่อีกฝ่ายหนึ่งที่ได้เข้าไปทำประโยชน์ในที่แปลงที่เขามีสิทธิตามข้อตกลงนั้นไม่ได้ เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1938-1945/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสูญเสียสัญชาติไทยต้องเกิดจากความสมัครใจ การมีใบสำคัญคนต่างด้าวไม่ได้หมายถึงการสละสัญชาติ
การขาดจากสัญชาติไทยตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2)พ.ศ.2496 ต้องเป็นไปด้วยใจสมัคร
เมื่อบุคคลยังมีสัญชาติไทยอยู่ ก็ไม่มีหน้าที่ต้องมีใบสำคัญหรือต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
เมื่อบุคคลยังมีสัญชาติไทยอยู่ ก็ไม่มีหน้าที่ต้องมีใบสำคัญหรือต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1894/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งตั้งทนายที่ไม่ถูกต้องและการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ทนายของโจทก์เป็นผู้ซักค้านพยานโจทก์จำเลยตั้งแต่เริ่มการพิจารณาจนเสร็จสำนวน ต่อมาศาลพิพากษาให้โจทก์แพ้ ทนายโจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ ความมาปรากฏในชั้นศาลอุทธรณ์ว่าทนายโจทก์ยังมิได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายโจทก์ เช่นนี้ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่ามิได้มีการประวิงความหรือทำการเอาเปรียบในเชิงคดีแต่อย่างไรหากเป็นไปด้วยความพลั้งเผลอหรือด้วยเหตุอื่น แม้จะเป็นการปฏิบัติผิดบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ก็เป็นการสมควรที่จะอนุญาตให้ทำเสียให้ถูกต้องได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 แต่ปรากฏว่าในชั้นฎีกาโจทก์ได้แต่งตั้งทนายผู้นี้เป็นทนายโจทก์แต่วันยื่นฎีกาแล้ว จึงพอถือว่าการพิจารณาและการอุทธรณ์เป็นการชอบแล้วได้