พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,319 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาจริงของนิติกรรมและการสืบพยานหลักฐานเพื่อหักล้างข้อความในเอกสารสัญญา
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กู้เงิน ฮ..ฮ. ให้โจทก์ทำสัญญาเป็นขายที่ดินให้ ฮ. ตกลงกันว่าโจทก์ใช้เงินกู้คืนแล้วฮ. โอนที่ดินคืนให้ โจทก์ใช้เงินแล้ว ฮ.ตายเสียกอนโอน จำเลยกลับอ้างว่า เป็นหุ้นส่วนเจ้าของที่ดินร่วมกับ ฮ. โจทก์จึงขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ ดังนี้ โจทก์นำสืบพยานบุคคลได้ ไม่เป็นการสืบแก้ไขเอกสารสัญญาขายที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1654/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องเรียกค่าเช่าหลังจดทะเบียนนิติบุคคล และประเด็นฟ้องซ้ำ/เคลือบคลุม
คดีเดิมโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ ศาลพิพากษาขับไล่ โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าเช่าที่จำเลยเก็บรักษาไว้และยังค้างอยู่ในคดีเดิมเป็นคดีใหม่ขึ้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม
ผู้ที่อุทิศที่ดินให้แก่ผู้อื่น (นิติบุคคล) ไปแล้วและ เข้าร่วมกับนิติบุคคลเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเช่นนี้ไม่ทำให้เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ผู้ที่อุทิศที่ดินให้แก่ผู้อื่น (นิติบุคคล) ไปแล้วและ เข้าร่วมกับนิติบุคคลเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเช่นนี้ไม่ทำให้เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1654/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกค่าเช่าหลังจดทะเบียนนิติบุคคล, ฟ้องซ้ำ, และฟ้องเคลือบคลุม: กรณีสุเหร่าวัดคิด
คดีเดิมโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ ศาลพิพากษาขับไล่ โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าเช่าที่จำเลยเก็บรักษาไว้และยังค้างอยู่ในคดีเดิมเป็นคดีใหม่ขึ้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม
ผู้ที่อุทิศที่ดินให้แก่ผู้อื่น (นิติบุคคล) ไปแล้วและ เข้าร่วมกับนิติบุคคลเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเช่นนี้ไม่ทำให้เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ผู้ที่อุทิศที่ดินให้แก่ผู้อื่น (นิติบุคคล) ไปแล้วและ เข้าร่วมกับนิติบุคคลเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเช่นนี้ไม่ทำให้เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1650/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้พื้นที่เช่าเพื่อประกอบการค้า ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพรบ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยให้คนอื่นจัดตั้งกลึงเหล็กเครื่องเรือยนต์ โดยใช้เครื่องยนต์น้ำมันก๊าสเป็นกำลังเช่นนี้ก็ดี หรือแม้ว่าได้ทำโรงกลึงแต่ชั้นล่าง ใช้ชั้นบนเป็นที่อยู่ก็ดี ก็ถือว่าได้ใช้ส่วนหนึ่งของเรือนเป็นที่ประกอบการค้าจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
ฎีกาที่ 301/2494 ฎีกาที่ 1933/2494
ฎีกาที่ 301/2494 ฎีกาที่ 1933/2494
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1650/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้พื้นที่เช่าเพื่อประกอบการค้า ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยให้คนอื่นจัดตั้งกลึงเหล็กเครื่องเรือยนต์ โดยใช้เครื่องยนต์น้ำมันก๊าสเป็นกำลังเช่นนี้ก็ดี หรือแม้ว่าได้ทำโรงกลึงแต่ชั้นล่าง ใช้ชั้นบนเป็นที่อยู่ก็ดี ก็ถือว่าได้ใช้ส่วนหนึ่งของเรือนเป็นที่ประกอบการค้าจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
ฎีกาที่ 301/2494 ฎีกาที่ 1933/2494
ฎีกาที่ 301/2494 ฎีกาที่ 1933/2494
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีแพ่งเมื่อจำเลยขาดนัดและสิทธิในการขอพิจารณาใหม่
จำเลยหลายคนขาดนัดยื่นคำให้การทุกคน แต่ถึงวันนัดพิจารณาจำเลยคนหนึ่งมาศาลศาลสืบพยานโจทก์ไป แต่แล้วต่อมาได้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่สืบพยานโจทก์นั้นเสียนัดสืบพยานโจทก์ใหม่ ถึงวันนัดจำเลยทุกคนไม่มาศาล ศาลจึงสืบพยานโจทก์และพิพากษาคดีไปกรณีเช่นนี้ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 204 จำเลยมีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาคดีนั้นใหม่ตามมาตรา 202,207 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีแพ่งเมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและไม่มาศาล สิทธิในการขอพิจารณาคดีใหม่
จำเลยหลายคนขาดนัดยื่นคำให้การทุกคน แต่ถึงวันนัดพิจารณาจำเลยคนหนึ่งมาศาลศาลสืบพยานโจทก์ไป แต่แล้วต่อมาได้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่สืบพยานโจทก์นั้นเสียนัดสืบพยานโจทก์ใหม่ ถึงวันนัดจำเลยทุกคนไม่มาศาล ศาลจึงสืบพยานโจทก์และพิพากษาคดีไปกรณีเช่นนี้ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 204 จำเลยมีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาคดีนั้นใหม่ตามมาตรา 202,207 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1621/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษจำเลยในคดีฆ่าโดยเจตนา แม้อายุยังไม่ถึง 20 ปี ศาลฎีกาไม่เห็นควรลดโทษตามมาตรา 58 ทวิ
การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายเป็นแผลกว้างใหญ่ลึกถึง 10 ซม. จนไส้ทะลัก เนื่องจากเหตุที่จำเลยเองประพฤติเป็นพาล นับว่าเป็นการร้ายแรงมาก ถึงแม้จำเลยมีอายุไม่ถึง 20 ปี ก็ไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะลดโทษให้ตาม มาตรา 58 ทวิอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1621/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษจำเลยในคดีฆ่าโดยเจตนา แม้มีอายุไม่ถึง 20 ปี ศาลฎีกาไม่ลดโทษตามมาตรา 58 ทวิ
การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายเป็นแผลกว้างใหญ่ลึกถึง 10 ซม. จนไส้ทะลัก เนื่องจากเหตุที่จำเลยเองประพฤติเป็นพาล นับว่าเป็นการร้ายแรงมาก ถึงแม้จำเลยมีอายุไม่ถึง 20 ปี ก็ไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะลดโทษให้ตาม มาตรา 58 ทวิอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1502/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างก่อสร้าง: การหักเงินค่าแก้ไขงานปลีกย่อยต้องสมเหตุสมผล ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้จ่ายเงินครึ่งหนึ่ง
ผู้รับจ้างสร้างตึกทำการบกพร่องเป็นส่วนน้อย ผู้ว่าจ้างได้จ้างช่างอื่นแก้ไขตามสัญญา แต่ทำเกินกว่าที่สมควร จึงเสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป ส่วนที่ต้องเสียเวลาเกินกำหนดในสัญญาไป ผู้ว่าจ้างได้ผ่อนผันให้ และเกิดจลาจลต้องหยุดงานและซ่อมแซม ผู้ว่าจ้างจะหักสินจ้างไว้มากเกินสมควรไม่ได้ ศาลกะค่าเสียหายให้ตามสมควรเพื่อหักกับสินจ้างที่ควรต้องใช้ให้ผู้รับจ้าง