พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,319 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีที่ดินศาลเจ้า: ผู้มีอำนาจฟ้องต้องได้รับการแต่งตั้งจากข้าหลวงประจำจังหวัด
ตาม พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 123 ก็ดีกฎเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้าก็ดีหาได้ให้อำนาจคณะกรรมการอำเภอหรือตัวนายอำเภอที่จะฟ้องร้องคดีเรื่องที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้าไม่ฉะนั้นคณะกรรมการอำเภอหรือนายอำเภอจึงไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่บุคคลออกจากที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้าแต่ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งจากข้าหลวงประจำจังหวัดให้เป็นผู้ปกครองศาลเจ้า ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่า: การส่งคำบอกกล่าวโดยชอบและเจตนาของผู้ให้เช่า
0ผู้ให้เช่ามอบให้ทนายความบอกเลิกการเช่ากับผู้เช่าทนายได้ใช้คนนำหนังสือบอกกล่าวเลิกสัญญาไปส่งแก่ผู้เช่ายังสถานที่เช่าซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของผู้เช่า 2 ครั้งๆ แรกไม่พบ ครั้งที่ 2 ก็ไม่พบผู้เช่าจึงได้ให้คนอื่นที่ไปด้วยอธิบายบอกกล่าวที่ผู้ให้เช่าขอเลิกสัญญาเช่าให้คนในที่นั้นทราบเป็นภาษาจีน คนในร้านผู้เช่าก็คงไม่ยอมรับหนังสือนั้นไว้อีก ทนายยังได้จัดการส่งหนังสือนั้นไปยังผู้เช่าโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับสลักหลังซองส่งยังสถานที่เช่ารายนี้อันเป็นถิ่นที่อยู่ของผู้เช่าอีกครั้งหนึ่งก็ปรากฏว่าคนในที่นั้นหายอมรับหนังสือนั้นไม่ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ให้เช่าพยายามส่งคำบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่ารายนี้ไปยังผู้เช่า เพื่อให้ผู้เช่าทราบโดยสมควรเท่าที่พอจะทำได้อยู่แล้วถือได้ว่าผู้ให้เช่าได้แสดงเจตนาในการนี้ไปยังผู้เช่าโดยชอบแล้วมีสิทธิที่จะฟ้องคดีต่อศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 78-85/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุสถานะ 'พ่อค้า' เพื่อกำหนดอายุความฟ้องร้องคดีซื้อขายฝิ่นชั่วคราว
คำว่า'พ่อค้า' ย่อมเป็นที่เข้าใจกันทั่วๆ ไปว่าผู้ที่ประกอบกิจการค้าเป็นปกติมิใช่ว่าถ้าผู้ใดกระทำการค้าเพียงชั่วครั้งคราวก็ถือว่าเป็นพ่อค้า
กระทรวงการคลังต้องการฝิ่นเพื่อจำหน่ายแก่ประชาชน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งให้มีอำนาจจัดซื้อฝิ่นจากเอกชนทั่วไปในภาคเหนือ ในการจัดหาซื้อฝิ่นนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกใบคุ้มครองกำหนดเขตที่จะไปหาฝิ่นให้เมื่อได้ฝิ่นมาแล้ว จะนำไปขายแก่ผู้อื่นหรือใช้เองไม่ได้ต้องขายแก่คณะกรรมการดังนี้จะเห็นได้ว่าพวกที่เข้าทำสัญญารับจะหาซื้อฝิ่นให้แก่คณะกรรมการนั้น เป็นการกระทำชั่วครั้งคราว มิได้เป็นการยั่งยืนดังลักษณะของพ่อค้าแต่อย่างใด ยิ่งเป็นเรื่องซื้อขายฝิ่นซึ่งตามปกติจะกระทำมิได้ เพราะกฎหมายห้าม ก็ย่อมเห็นได้ชัดว่าจะถือว่าพวกเหล่านี้เป็นพ่อค้าไม่ได้แม้จะปรากฏว่าบางคนได้จดทะเบียนพาณิชย์ตั้งร้านขายยาหรือทำป่าไม้ ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นพ่อค้าขายฝิ่นรายนั้น ฉะนั้นการที่พวกขายฝิ่นแก่คณะกรรมการจะฟ้องเรียกราคาฝิ่นจากคณะกรรมการหรือจากกระทรวงการคลังจึงต้องถืออายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาฝิ่นแต่ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5ต่อปีให้จำเลยใช้ตั้งแต่วันฟังคำพิพากษาฎีกา เพราะมีกรณีมัวหมองระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย มิใช่จำเลยตระบัดสิน
กระทรวงการคลังต้องการฝิ่นเพื่อจำหน่ายแก่ประชาชน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งให้มีอำนาจจัดซื้อฝิ่นจากเอกชนทั่วไปในภาคเหนือ ในการจัดหาซื้อฝิ่นนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกใบคุ้มครองกำหนดเขตที่จะไปหาฝิ่นให้เมื่อได้ฝิ่นมาแล้ว จะนำไปขายแก่ผู้อื่นหรือใช้เองไม่ได้ต้องขายแก่คณะกรรมการดังนี้จะเห็นได้ว่าพวกที่เข้าทำสัญญารับจะหาซื้อฝิ่นให้แก่คณะกรรมการนั้น เป็นการกระทำชั่วครั้งคราว มิได้เป็นการยั่งยืนดังลักษณะของพ่อค้าแต่อย่างใด ยิ่งเป็นเรื่องซื้อขายฝิ่นซึ่งตามปกติจะกระทำมิได้ เพราะกฎหมายห้าม ก็ย่อมเห็นได้ชัดว่าจะถือว่าพวกเหล่านี้เป็นพ่อค้าไม่ได้แม้จะปรากฏว่าบางคนได้จดทะเบียนพาณิชย์ตั้งร้านขายยาหรือทำป่าไม้ ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นพ่อค้าขายฝิ่นรายนั้น ฉะนั้นการที่พวกขายฝิ่นแก่คณะกรรมการจะฟ้องเรียกราคาฝิ่นจากคณะกรรมการหรือจากกระทรวงการคลังจึงต้องถืออายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาฝิ่นแต่ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5ต่อปีให้จำเลยใช้ตั้งแต่วันฟังคำพิพากษาฎีกา เพราะมีกรณีมัวหมองระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย มิใช่จำเลยตระบัดสิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งที่ดินโดยการยึดถือครอบครองอย่างเจ้าของหลังครบกำหนดไถ่ถอนจากการซื้อฝากโดยไม่มีอำนาจ
มารดาเอาที่ดินมือเปล่าของบุตรไปขายฝากไว้แก่ผู้อื่นโดยไม่มีอำนาจแต่เมื่อครบกำหนดไถ่ถอนตามสัญญาแล้วไม่มีการไถ่การยึดถือของผู้รับซื้อฝากในที่ดินนั้นย่อมเป็นการยึดถือครอบครองอย่างเจ้าของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367เมื่อเกิน 1 ปีแล้ว บุตรผู้เป็นเจ้าของก็หมดสิทธิที่จะเรียกที่ดินคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาเถียงข้อเท็จจริงที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับฟัง เพราะข้อเท็จจริงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรจำเลยปฏิเสธต่อสู้กรรมสิทธิ์ว่าทรัพย์ของกลาง (ราคา 700 บาท)เป็นของจำเลยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของผู้เสียหาย ให้คืนแก่ผู้เสียหายแม้ศาลชั้นต้นจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และศาลอุทธรณ์กลับว่า จำเลยยังไม่ผิดในทางอาญา ให้ยกฟ้องก็ตาม จำเลยก็จะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการแก้ไขคำพิพากษาเดิมให้เป็นคุณแก่จำเลย แม้โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องของโจทก์แล้วแต่ใช้ดุลพินิจให้รอการลงอาญาโทษจำคุกไว้แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์คงมีโจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียวขอให้ลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงอาญาก็ตาม ในการใช้ดุลพินิจข้อนี้ ศาลอุทธรณ์จำต้องตรวจข้อเท็จจริงและเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามข้อเท็จจริงยังไม่สมควรที่จะลงโทษจำเลยศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยได้ คือพิพากษายกฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1578/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: การส่งมอบคืนไม่ใช่การครอบครอง
ใช้ให้คนไปหยิบอาวุธปืนและกระสุนปืนมาจากบ้านให้นำมาส่งให้แก่ตน ณ ที่แห่งหนึ่งอันอยู่ห่างกันประมาณ 10 เส้น เพื่อมอบคืนให้แก่เจ้าของผู้มีไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าคนที่ไปหยิบอาวุธปืนและกระสุนได้มีอาวุธปืนและกระสุนปืนนั้นไว้ในความครอบครอง จึงยังไม่เป็นผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯลฯ และผู้ใช้ให้ไปหยิบก็ไม่มีความผิดด้วย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว ส่วนจำเลยที่1 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ด้วยแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จึงฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 อีก แม้จำเลยที่ 2 จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาด้วยเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าตามรูปคดี จำเลยที่ 2ยังไม่มีความผิด ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยที่ 2 ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว ส่วนจำเลยที่1 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ด้วยแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จึงฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 อีก แม้จำเลยที่ 2 จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาด้วยเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าตามรูปคดี จำเลยที่ 2ยังไม่มีความผิด ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยที่ 2 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1543/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการยักยอกเงิน: ความผิดทางอาญาต้องมีเจตนา
ฟ้องระบุถึงตำแหน่งหน้าที่จำเลยในทางราชการ และกล่าวว่า จำเลยได้ยักยอกเงินไปโดยนำเงินส่งคลังไม่ครบจำนวนขอให้จำเลยใช้เงินจำนวนที่ส่งไม่ครบ ดังนี้ ยังไม่พอให้ถือว่าเป็นฟ้องอันเกี่ยวเนื่องจากความผิดทางอาญา เพราะในการที่จำเลยนำเงินส่งไม่ครบ อาจเป็นด้วยความพลั้งเผลอหรือหลงลืมซึ่งมิใช่เป็นความผิดทางอาญา ฉะนั้นคดีจึงไม่เข้าอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 และจะยกอายุความตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 78 มาปรับมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิขอคืนที่ดินเวนคืน หากไม่ถูกใช้ประโยชน์ภายใน 5 ปี และการฟ้องนิติบุคคล
ที่ดินที่ถูกเวนคืนตามพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯนั้น เมื่อไม่มีการตกลงเรื่องค่าทำขวัญภายใน 5 ปีโดยมิใช่ความผิดของเจ้าของที่ดิน และทางฝ่ายรัฐบาลก็ยังไม่ได้เคยใช้ หรือกำลังใช้ที่ดินนั้นตามความประสงค์ในการเวนคืนนั้นแล้ว เจ้าของที่ดินนั้นย่อมมีสิทธิได้รับคืนที่ดินนั้น
ที่ดินถูกเวนคืนตามพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ หลายเจ้าของด้วยกัน ถ้าที่ดินของใครมิได้ถูกใช้หรือถูกใช้แต่บางส่วน ก็ยังขอคืนส่วนที่เหลือได้
การฟ้องนิติบุคคลเป็นจำเลยนั้นโจทก์เพียงแต่ระบุชื่อนิติบุคคลเป็นจำเลย ไม่ระบุชื่อบุคคลผู้แทนนิติบุคคลมาด้วย ก็ย่อมใช้ได้ เพราะนิติบุคคลย่อมมีผู้ดำเนินการอยู่ในตัวตามกฎหมาย
ที่ดินถูกเวนคืนตามพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ หลายเจ้าของด้วยกัน ถ้าที่ดินของใครมิได้ถูกใช้หรือถูกใช้แต่บางส่วน ก็ยังขอคืนส่วนที่เหลือได้
การฟ้องนิติบุคคลเป็นจำเลยนั้นโจทก์เพียงแต่ระบุชื่อนิติบุคคลเป็นจำเลย ไม่ระบุชื่อบุคคลผู้แทนนิติบุคคลมาด้วย ก็ย่อมใช้ได้ เพราะนิติบุคคลย่อมมีผู้ดำเนินการอยู่ในตัวตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1521-1522/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลบังคับของกฎหมายป่าไม้: การประกาศและการคัดลอก
พระราชกฤษฎีกา หรือประกาศรัฐมนตรี ซึ่งกำหนดขึ้นตามบทแห่ง พระราชบัญญัติป่าไม้นั้นต้องคัดสำเนาประกาศไว้ ณที่ว่าการอำเภอและที่ทำการกำนันหรือที่สาธารณสถานในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องจึงจะมีผลบังคับได้ ถ้ามิได้มีการปฏิบัติตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ดังกล่าวก็ไม่มีผลบังคับ