พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,319 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 252/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งสินสมรสก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง: สามีได้ 2 ส่วน หญิงได้ 1 ส่วน
เป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ระหว่างอยู่กินด้วยกันได้ที่ดินเป็นสินสมรสขึ้น แม้ในโฉนดจะมีชื่อทั้ง 2 คนร่วมกันถือกรรมสิทธิ์ มิได้แสดงว่าเป็นส่วนของใครเท่าใดตาม กฎหมายก็ต้องแบ่งตามส่วนสมรสของกฎหมายลักษณะผัวเมียฉบับเก่า คือชายได้ 2 ส่วนหญิงได้1 ส่วน เพราะความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติว่า การสมรสซึ่งได้มีอยู่ก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายบรรพนี้และทั้งสัมพันธ์ในครอบครัวอันเกิดแต่การสมรสนั้นๆบทบัญญัติแห่งบรรพนี้ไม่กระทบกระเทือนถึง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนสืบพยานเนื่องจากความผิดพลาดในการแจ้งหมายเรียก: ไม่ถือเป็นการละทิ้งคดี
ไม่มีพยานโจทก์มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์เพราะโจทก์ขอหมายเรียกพยานผิดไปวันหนึ่ง เนื่องจากความพลั้งเผลอจำวันผิดพฤติการณ์เช่นนี้ไม่มีเหตุสมควรที่จะยกฟ้องโจทก์เพราะเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องละทิ้งคดีหรือจงใจประวิงคดีอย่างใด ควรให้เลื่อนสืบพยานไปตามที่โจทก์ร้องขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอให้ยกฟ้องเมื่อโจทก์ไม่มาศาล มิใช่การขอให้จำหน่ายคดี
โจทก์รับในเรื่องหน้าที่นำสืบว่าโจทก์จะนำสืบก่อนครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ไม่มาศาลตามเวลานัดคงมาแต่ฝ่ายจำเลย จำเลยได้แถลงต่อศาลว่า เมื่อโจทก์ไม่มาศาลขอให้ยกฟ้องของโจทก์เสีย ดังนี้ ย่อมมีความหมายในทางที่จำเลยประสงค์ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามความใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 วรรค 2เพราะเห็นได้ว่าการที่จำเลยขอให้ศาลพิพากษาคดีนั้นศาลจำต้องดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่ง ฉะนั้นศาลจะไปสั่งจำหน่ายคดีเสียไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้สัญญาซื้อขายไม่สมบูรณ์ หากผู้ซื้อครอบครองนานเกิน 10 ปี โดยเจตนาเป็นเจ้าของ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกัน แต่วินิจฉัยว่าแม้โจทก์ผู้ซื้อจะครอบครองที่ดินมานานเท่าใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ จึงพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์คงพิพากษายกฟ้องยืนตามศาลชั้นต้น แต่ไปวินิจฉัยว่าการซื้อขายไม่สมบูรณ์เพราะทำไม่ถูกแบบ และฟังไม่ได้ว่าซื้อขายกัน ซึ่งไม่มีประเด็นมาสู่ศาลอุทธรณ์ และไม่ปรากฏว่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยความข้อนี้ผิดต่อกฎหมายแต่อย่างใดคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ดังกล่าว จึงฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(3) ศาลฎีกาจึงไม่จำต้องถือตามข้อเท็จจริงข้อนี้ตามมาตรา 250 ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้นได้
ตกลงจะซื้อขายที่ดินกัน ชำระเงินราคาที่ดินครบถ้วนแล้ว และส่งมอบที่ดินให้ผู้ซื้อครอบครองมากว่า 10 ปีแล้ว.พฤติการณ์เช่นนี้เป็นที่เห็นได้ว่าคู่กรณีไม่ได้คำนึงถึงการที่จะแก้ทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียแล้วผู้ซื้อคงครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของมากว่า 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์ในฐานที่ได้ครอบครองมา
ตกลงจะซื้อขายที่ดินกัน ชำระเงินราคาที่ดินครบถ้วนแล้ว และส่งมอบที่ดินให้ผู้ซื้อครอบครองมากว่า 10 ปีแล้ว.พฤติการณ์เช่นนี้เป็นที่เห็นได้ว่าคู่กรณีไม่ได้คำนึงถึงการที่จะแก้ทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียแล้วผู้ซื้อคงครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของมากว่า 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์ในฐานที่ได้ครอบครองมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ซื้อทรัพย์สินจากผู้ยักยอก แม้สุจริต ก็ไม่ได้รับกรรมสิทธิ์ เจ้าของมีสิทธิเรียกคืน
ซื้อเรือมาดไว้จากผู้ที่ยักยอกเจ้าของมาแม้จะซื้อไว้โดยสุจริตก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ เจ้าของย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนได้
โจทก์ฟ้องเรียกเรือคืนจากจำเลย จำเลยให้การต่อสู้คดีแต่เพียงว่า เรือพิพาทเป็นทรัพย์ของผู้อื่น และจำเลยซื้อจากผู้นั้น โดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตเท่านั้น ดังนี้ ประเด็นข้อที่ว่า ผู้ขายเป็นพ่อค้าขายเรือหรือไม่ จึงไม่ต้องวินิจฉัยและจำเลยไม่มีสิทธิจะยกประเด็นข้อนี้ขึ้นอ้างอิงในชั้นนี้ได้
โจทก์ฟ้องเรียกเรือคืนจากจำเลย จำเลยให้การต่อสู้คดีแต่เพียงว่า เรือพิพาทเป็นทรัพย์ของผู้อื่น และจำเลยซื้อจากผู้นั้น โดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตเท่านั้น ดังนี้ ประเด็นข้อที่ว่า ผู้ขายเป็นพ่อค้าขายเรือหรือไม่ จึงไม่ต้องวินิจฉัยและจำเลยไม่มีสิทธิจะยกประเด็นข้อนี้ขึ้นอ้างอิงในชั้นนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาเมื่อศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาบางจำเลยในคดีอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249,63 แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ก็ยังเป็นการยืนยันว่า จำเลยได้กระทำผิดในคดีที่โจทก์ฟ้องนี้ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยบางคนไม่มีความผิดคดีเฉพาะตัวจำเลยที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าไม่มีความผิดนั้นได้ชื่อว่าศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโจทก์จึงมีสิทธิฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ศาลอุทธรณ์ปล่อยไปนั้น ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249 ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2495)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2495)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สถานที่เช่าเพื่ออยู่อาศัยและประกอบอาชีพส่วนตัว ไม่ถือเป็นการประกอบการค้า
แม้ตึกเช่าจะอยู่ในทำเลการค้าก็ดีแต่ทางพิจารณาที่ได้ความประกอบกับสถานที่ซึ่งศาลไปตรวจ มิได้แสดงให้เห็นว่าจำเลยได้ใช้สถานที่นั้นเป็นที่ประกอบการค้า หากใช้เป็นที่อยู่อาศัยและติดป้ายแสดงเพื่อให้คนมาว่าจ้างไปทำไฟฟ้า เป็นการประกอบอาชีพของจำเลยการกระทำเช่นนี้ ไม่เพียงพอที่จะถือว่าเข้าอยู่ในลักษณะประกอบการค้าในห้องเช่าตามนัยฎีกาที่ 1099-1147/2491 จำเลยย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุเวลาแสดงเอกสารปลอมต่อเจ้าพนักงาน
โจทก์ฟ้องระบุถึงวันเดือนปีที่จำเลยนำหนังสือปลอมไปแสดงต่อเจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดินโดยอ้างว่าเป็นหนังสืออันแท้จริงไว้แล้วคงขาดแต่ไม่ได้กล่าวเวลาที่ไปแสดงนั้นเป็นเวลาใดกลางวันหรือกลางคืน แต่ตามฟ้องนั้นเองก็ย่อมจะเข้าใจได้ว่า จำเลยนำไปแสดงต่อเจ้าพนักงานในเวลาราชการซึ่งตามปกติเป็นเวลากลางวัน ทั้งปรากฏตามคำให้การของจำเลยก็เห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจข้อหาดีอยู่แล้วดังนี้ ย่อมถือได้ว่า ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 98/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำนอกอำนาจของผู้จัดการหุ้นส่วนก่อให้เกิดความเสียหายต่อร้านหุ้นส่วน จำเลยต้องรับผิด
ร้านของจำเลยเป็นผู้ทำการติดต่อซื้อน้ำมันจากบริษัทต่างประเทศและร้านซึ่งโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันรับช่วงซื้อน้ำมันจากร้านจำเลยเอามาขาย การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการร้านหุ้นส่วนด้วยได้เอาเงินของร้านหุ้นส่วนส่งไปซื้อน้ำมันยังบริษัทต่างประเทศ แล้วถูกบริษัทต่างประเทศหักเงินเป็นค่าถังเปล่า ซึ่งร้านจำเลยค้างส่งแก่บริษัทเสียนั้น ได้ชื่อว่าจำเลยทำการนอกเหนืออำนาจเป็นเหตุให้ร้านหุ้นส่วนเสียหายจำเลยจึงต้องรับผิดในเงินที่ส่งไปนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีขับไล่ ผู้ให้เช่าต้องมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ให้เช่า
ผู้เช่าทำสัญญาเช่าบ้านกับผู้ให้เช่าแล้ว ผู้เช่าบ้านทำผิดสัญญาเช่า จนผู้ให้เช่าต้องฟ้องขอให้ขับไล่นั้นผู้เช่าจะต่อสู้ว่าผู้ให้เช่าไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านเช่าจึงไม่มีอำนาจฟ้อง นั้น ย่อมฟังไม่ขึ้น