พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,319 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2005/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวข้ามเขตจังหวัดทางทะเล: ต้องได้รับอนุญาต
การขนย้ายข้าวจากพื้นแผ่นดินใหญ่ไปยังเกาะโดยทางทะเลนั้น แม้เกาะนั้นจะเป็นเขตในจังหวัดเดียวกันกับพื้นแผ่นดินใหญ่ในทางปกครองก็ตาม แต่ประกาศคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าวฉบับที่ 36 พ.ศ.2490 และฉบับที่ 51 พ.ศ.2493 ได้กำหนดเขตจังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับทะเลว่า ถ้าด้านที่ติดต่อกับทะเลในตอนใดเป็นทางน้ำหรือทะเลให้ถือว่าเขตห้ามขนย้ายข้าวมีกำหนดเพียงชายตลิ่งหรือชายฝั่งเท่านั้น ดังนี้ การขนย้ายข้าวจากพื้นแผ่นดินใหญ่ไปยังเกาะนั้น จึงต้องถือว่าเป็นการขนย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าวจะต้องได้รับอนุญาตเสียก่อนมิฉะนั้นย่อมเป็นความผิด (ฎีกาที่ 317/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งสินสมรสแม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ศาลยังคงมีอำนาจวินิจฉัยได้
หญิงฟ้องหย่าขาดจากชายผู้เป็นสามีและขอแบ่งสินสมรสด้วย แม้จะได้ความว่าการสมรสไม่ได้จดทะเบียนจึงไม่เป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย ศาลไม่จำต้องวินิจฉัยในเรื่องหย่าก็ตาม แต่ในเรื่องทรัพย์สินที่ขอแบ่งนั้น ศาลจำต้องวินิจฉัยให้ ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่1179/2492
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1995/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิด: ปล้นทรัพย์ vs. ฆ่าคนตาย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยปล้นทรัพย์ และบรรยายว่าในการปล้นทรัพย์นี้ จำเลยได้สมคบกันใช้มีดขู่จะทำร้ายและใช้ปืนยิงเจ้าทรัพย์ 1 นัด เจ้าทรัพย์ทนพิษบาดแผลที่จำเลยยิงไม่ได้ได้ขาดใจตายในทันทีนั้น ดังนี้เป็นลักษณะของการปล้นและทำให้เจ้าทรัพย์ตายเท่านั้น เมื่อไม่กล่าวให้ชัดว่าจำเลยได้มีเจตนาจะฆ่าเจ้าทรัพย์ให้ตายอันเป็นลักษณะของความผิดฐานฆ่าคนตายด้วยแล้ว ศาลก็จะลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 ด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษคดีฝิ่น: กฎหมายเฉพาะเหนือกว่ากฎหมายทั่วไป
ตามบทบัญญัติในมาตรา 11 แห่งกฎหมายลักษณะอาญา ศาลจะยกมาตรา 23 แห่งกฎหมายนี้มาใช้ได้เฉพาะในกรณีที่กฎหมายนั้นๆ มิได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น แต่ในกรณีเรื่องการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติฝิ่นนั้น มาตรา 68(1) แห่งพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 บัญญัติถึงวิธีเพิ่มโทษผู้กระทำผิดต่อพระราชบัญญัติฝิ่นโดยเฉพาะเป็นพิเศษบังคับให้ศาลลงโทษทั้งปรับทั้งจำ จึงจะนำกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 23 มาใช้ในกรณีเช่นนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1973/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องแย้งของตัวแทนตามหนังสือมอบอำนาจ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับมอบอำนาจจากตัวการให้ทำสัญญาจำนองทรัพย์สินของตัวการไว้กับโจทก์ ขอให้จำเลยไถ่ถอนการจำนองและโจทก์ได้เสนอสำเนาหนังสือมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง ซึ่งข้อหนึ่งแห่งหนังสือมอบอำนาจมีว่า "มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีทั้งหลายแทนตัวข้าพเจ้าฯลฯ และมีอำนาจประนีประนอมยอมความ ทั้งมีอำนาจแต่งทนายแก้ต่างว่าต่างได้ด้วย" ดังนี้จำเลยย่อมมีอำนาจฟ้องแย้ง ให้โจทก์ไปจดทะเบียนการไถ่ถอนจำนองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1933/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเพื่อค้าขาย: ไม่คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องใช้เป็นที่สำหรับทำการค้า โดยมีการค้าขายชั้นล่าง แม้จะใช้เป็นที่อยู่ชั้นบนก็ดี ผู้เช่าก็มิได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 1099-1147/2492
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1931/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิดฐานกระทำอนาจาร: การกระชากเพื่อทำร้ายไม่ใช่ความผิด
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงโดยสั่งว่า "..พิเคราะห์เห็นว่าข้อความที่ตัดสิน นั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด จึงอนุญาตให้ฎีกา" คำสั่งดังนี้ตรงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 แล้ว ศาลฎีการับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาได้
ชายจับมือหญิงสาวกระชากมาเพื่อจะทำร้ายไม่ใช่เจตนาจะทำอนาจาร นั้นย่อมไม่เป็นความผิดฐานกระทำอนาจารตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 246
ชายจับมือหญิงสาวกระชากมาเพื่อจะทำร้ายไม่ใช่เจตนาจะทำอนาจาร นั้นย่อมไม่เป็นความผิดฐานกระทำอนาจารตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 246
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1930/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้า ศาลมีอำนาจอนุญาตได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
จำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานพร้อมด้วยยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดพิจารณา 2 วัน ช้าไปกว่ากำหนดเวลาตามมาตรา 88 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเพียง 1 วัน โดยอ้างเหตุความจำเป็นที่ต้องไปติดตามคนร้ายยักยอกข้าว ดังนี้ เมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี ก็มีอำนาจสั่งอนุญาตได้ และไม่จำเป็นจะต้องไต่สวนก่อนสั่งอนุญาตเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินเกินกว่าค่าเช่าที่ได้รับจริง ผู้ให้เช่ามีสิทธิฟ้องเรียกคืน
แม้ใน พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน มาตรา 8 จะได้ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่แก้หรือคำนวณค่ารายปีใหม่ เมื่อมีเหตุอันบ่งให้เห็นว่าค่าเช่านั้นมิใช่จำนวนเงินอันสมควรจะให้เช่าได้ก็ดี ถ้าผู้ให้เช่าได้เรียกเก็บค่าเช่าตามสัญญาที่ให้เช่าและค่าเช่าที่เรียกเก็บก็ไม่น้อยเกินไปหรือมีเหตุที่น่าจะเห็นว่าผู้เช่ากับผู้ให้เช่าสมยอมกันแล้ว ก็ไม่มีเหตุสมควรที่เจ้าพนักงานประเมินจะประเมินค่ารายปีเกินไปกว่าค่าเช่าที่ผู้ให้เช่าได้รับจริง เพราะไม่เป็นธรรมแก่ฝ่ายผู้ให้เช่า ฉะนั้นถ้าประเมินค่ารายปีเกินไปโดยไม่สมควรแล้ว ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องเรียกคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขัดแย้งกันในตัว: ลักทรัพย์ vs. รับของโจร - ศาลยกฟ้อง
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรนั้น ถ้าฟ้องกล่าวยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายลักทรัพย์แล้วตอนปลายกล่าวฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดรับของโจรในทรัพย์รายเดียวกันนั้นอีก ดังนี้ย่อมเป็นฟ้องที่กล่าวขัดแย้งกันในตัวเป็นฟ้องเคลือบคลุม ไม่อาจทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง