พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,319 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1912/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้พร้าป้องกันการถูกแทง
ผู้ตายถือมีดยาว 1 คืนเข้าไปจะแทงจำเลย จำเลยจึงใช้พร้ายาวขนาดแขนแกว่งป้องกันไว้แล้วถอยหลังไปพลางด้วย พร้าที่แกว่งนั้นถูกผู้ตายมีบาดเจ็บแล้วภายหลังตายเพราะบาดแผลนั้น ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรได้รับอาญาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1911/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชิงทรัพย์: จำเลยขโมยของหลังเจ้าของร้านไม่ยอมขายเนื่องจากค้างหนี้
จำเลยตั้งใจไปซื้อเชื่อของเขา แต่เขาไม่ยอมขายเพราะจำเลยซื้อของเชื่อไปราว 160 บาทแล้วยังไม่ใช้ จำเลยจึงตรงเข้าหยิบเอาของที่จะซื้อเอาเอง บุตรเจ้าของร้านบอกว่าไม่ยอมขาย จำเลยเงื้อขวดสุราจะตี จนบุตรเจ้าของร้านถอยหนีแล้ว จำเลยก็พาของดังกล่าวไป ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันทรัพย์เกินสมควร: การแทงคนร้ายขณะไล่จับหลังลักทรัพย์
คนร้ายขึ้นเรือนลักทรัพย์ได้แล้ว วิ่งหนี เจ้าทรัพย์วิ่งไล่ไปทัน จึงใช้มีดแทงคนร้าย 1 ทีคนร้ายถึงแก่ความตาย ดังนี้วินิจฉัยว่าเจ้าทรัพย์แทงคนร้ายในเวลากระชั้นชิดที่วิ่งไล่กันมา อาจไม่ตั้งใจฆ่าให้ตายเพราะแทงเพียงทีเดียว และเป็นเรื่องป้องกันทรัพย์เกินสมควรกว่าเหตุคงมีความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251 ประกอบด้วยมาตรา 53
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1907/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์: แผ่นดินเป็นผู้เสียหาย อัยการฟ้องได้และมีอำนาจเรียกคืนทรัพย์
ปลัดอำเภอรับมอบเงินในนามคณะกรมการอำเภอ จากจังหวัดแล้วยักยอกเสียนั้น ย่อมถือว่าแผ่นดินเป็นผู้เสียหายไม่จำเป็นต้องมีการร้องทุกข์ อัยการก็ฟ้องได้
ความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 นั้น เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ อัยการโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือนตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 แต่ให้ยกคำขอที่ขอให้คืนราคาทรัพย์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนราคาทรัพย์ ดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่พยานโจทก์บางคนยังไม่ได้ให้การชั้นสอบสวนแต่ได้มีการสอบสวนจำเลยและพยานอื่นแล้วนั้น เรียกไม่ได้ ว่ามิได้ มีการสอบสวนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120
ความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 นั้น เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ อัยการโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือนตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 แต่ให้ยกคำขอที่ขอให้คืนราคาทรัพย์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนราคาทรัพย์ ดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่พยานโจทก์บางคนยังไม่ได้ให้การชั้นสอบสวนแต่ได้มีการสอบสวนจำเลยและพยานอื่นแล้วนั้น เรียกไม่ได้ ว่ามิได้ มีการสอบสวนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจรัฐมนตรีในการห้ามใช้เครื่องมือประมงและการใช้ดุลพินิจของศาลในการริบของกลาง
พระราชบัญญัติการประมง 2490 มาตรา 30(2) ให้อำนาจรัฐมนตรีหรือข้าหลวงประจำจังหวัดโดยอนุมัติรัฐมนตรีที่จะกำหนดมิให้ใช้เครื่องมือทำการประมงอย่างหนึ่งอย่างใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด ถ้าผู้ใดใช้เครื่องมือที่ห้ามนั้นทำการประมงก็ย่อมมีผิด และถูกริบเครื่องมือนั้นโดยศาลจะใช้ดุลพินิจไม่ริบไม่ได้
แต่ถ้ารัฐมนตรีประกาศห้ามมิให้ทำการประมงด้วยเครื่องมือใดใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาดไว้ เว้นแต่เครื่องมือตามที่กำหนดไว้ในประกาศนั้น ดังนี้ ประกาศมิได้ระบุชื่อเครื่องมือชนิดใดที่ห้ามโดยเด็ดขาด ฉะนั้นเมื่อเกิดการกระทำผิดตามประกาศนี้ขึ้น ศาลก็ย่อมใช้ดุลพินิจไม่ริบเครื่องมือนั้นได้ตามความ ในมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติการประมง 2490
แต่ถ้ารัฐมนตรีประกาศห้ามมิให้ทำการประมงด้วยเครื่องมือใดใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาดไว้ เว้นแต่เครื่องมือตามที่กำหนดไว้ในประกาศนั้น ดังนี้ ประกาศมิได้ระบุชื่อเครื่องมือชนิดใดที่ห้ามโดยเด็ดขาด ฉะนั้นเมื่อเกิดการกระทำผิดตามประกาศนี้ขึ้น ศาลก็ย่อมใช้ดุลพินิจไม่ริบเครื่องมือนั้นได้ตามความ ในมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติการประมง 2490
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาลักทรัพย์แม้ยังไม่สำเร็จเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์
จำเลยใช้เครื่องมือตัดลวดร้อยโซ่ล่ามเรือเขาขาดโดยมีเจตนาจะลักเรือ แต่ภรรยาเจ้าของเรือรู้สึกเสียก่อนจำเลยจึงเอาเรือไปไม่ได้ ดังนี้ เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1847-1849/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตัดไม้เป็นท่อน ไม่ถือเป็นการแปรรูปไม้ตามกฎหมาย
เพียงแต่ตัดท่อนไม้เป็นท่อนๆ ยาว 1 เมตรบ้าง 1 เมตรครึ่งบ้าง ยังไม่เป็นการแปรรูปไม้ตามความหมายของพระราชบัญญัติป่าไม้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1810/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องข้าหลวงประจำจังหวัดให้เรียกประชุมเทศบาลเป็นอันไร้ผลเมื่อจำเลยย้ายไปแล้ว
สมาชิกเทศบาลฟ้องข้าหลวงประจำจังหวัด นั้น โดยระบุชื่อข้าหลวงประจำจังหวัดในฐานะข้าหลวงประจำจังหวัดนั้นเป็นจำเลยขอให้ศาลสั่งให้จำเลยเรียกประชุมสมาชิกเทศบาลตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2486 มาตรา 33 เมื่อปรากฏว่าข้าหลวงประจำจังหวัดผู้นั้นย้ายไปจังหวัดอื่นเสียแล้วแม้ฟ้องดังกล่าวศาลจะรับวินิจฉัยได้ ก็ไม่มีทางที่จะบังคับให้ข้าหลวงประจำจังหวัดผู้นั้นจัดให้มีการประชุมตามคำขอของโจทก์ได้ ฟ้องของโจทก์จึงเป็นอันไร้ผล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1794/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานอนาจารต่อหน้าธารกำนัล
กอดปล้ำทำอนาจารหญิงสาวบนถนนริมฝั่งคลอง ซึ่งเป็นทางสาธารณะและทางหลวงในเวลากลางคืนในขณะที่มีเด็กชายคนหนึ่งเดินอยู่ข้างหน้า เมื่อเด็กชายคนนั้นเห็นเข้าก็วิ่งหนีไปเสีย และยังมีชายอีก 2 คนซึ่งเดินอยู่บนถนนชายคลองอีกฟากหนึ่งพบเห็นเข้า ดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นความผิดที่ได้กระทำต่อหน้าธารกำนัล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสั่งคืนของกลางหลังยกฟ้องคดีอาญา และการระงับข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิในทางแพ่ง
อัยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทางอาญา คือฐานลักทรัพย์ไม่มีคำขอทางแพ่ง ปนมาด้วย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องแต่ให้คืนของกลางแก่ผู้เสียหายโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 49 แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเรื่องของกลาง จำเลยยังเถียงกรรมสิทธิอยู่ ควรให้ไปว่ากล่าวกันในทางแพ่ง ส่วนในข้อหาฐานลักทรัพย์คงยกฟ้อง ดังนี้คดีอาญาที่ได้ฟ้อง ได้ถึงที่สุดแล้วโจทก์จำเลยจะฎีกาเฉพาะให้สั่งในเรื่องของกลาง ไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้