คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธรรมบัณฑิตสิทธิศฤงคาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,319 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสอบสวนคดีอาญา: ความสมบูรณ์ของการสอบสวนและการรับคำให้การของจำเลย
การที่กฎหมายบัญญัติให้มีการสอบสวนเสียก่อนที่พนักงานอัยการนำคดีขึ้นฟ้องร้องนั้น ก็เพื่อประสงค์จะมิให้มีการฟ้องร้องกันง่ายๆ ปราศจากหลักฐานเพราะจะเป็นการเดือดร้อนแก่จำเลย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยนำสุกรออกนอกเขตโดยไม่ได้รับอนุญาตและทราบประกาศแล้ว จำเลยรับว่าได้นำสุกรออกนอกเขตและได้ทราบประกาศแล้วจริง แต่สู้ว่าพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนในข้อที่จำเลยได้ทราบประกาศหรือไม่ แม้คดีจะได้ความว่าพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนข้อที่จำเลยทราบประกาศหรือไม่ ก็ยังถือได้ว่าได้มีการสอบสวนแล้ว และไม่เป็นเหตุที่จะให้ถือว่าการสอบสวนนั้นเสียไปแต่อย่างใด หรือจะถือว่าโจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้ทำการสอบสวนก็ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณระยะเวลาจำคุก: ใช้สุริยคติหรือ 30 วันต่อเดือน
การคำนวณกำหนดโทษจำคุกนั้น กฎหมายลักษณะอาญาได้บัญญัติไว้ชัดเจนแล้วว่าเมื่อคำนวณระยะเวลาเป็นปี ก็ต้องคิดเวลา 12 เดือนตามสุริยคติกาลดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 ข้อ 22 ถ้าต้องคิดระยะเวลาเป็นเดือนก็ต้องคิด 30วันเป็นหนึ่งเดือนดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1308/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายสุกรข้ามจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานพยายาม
นำสุกรออกนอกเขตจังหวัดภาคเหนือโดยทางรถไฟ จะไปยังจังหวัดพระนครซึ่งเป็นจังหวัดภาคกลาง อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร และฝ่าฝืนประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการเรื่องกำหนดเส้นทางให้พาสัตว์ที่จะเดินทางเข้าไปในท้องที่จังหวัดภาคกลางนั้น เมื่อถูกจับในขณะที่ควบคุมสุกรขึ้นบรรทุกตู้รถไฟที่สถานีต้นทางก่อนที่รถไฟจะเคลื่อนขบวนจากสถานีต้นทาง เพื่อไปสถานีปลายทาง ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 มาตรา 8,17 พ.ร.บ.โรคระบาดปสุสัตว์และสัตว์พาหนะ2474 มาตรา 10,16 ฐานพยายาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังอาจเข้ายึดครอง vs. การเช่า - การพิจารณาข้อเท็จจริงและสิทธิการเช่าควบคู่กัน
ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเข้าไปอยู่ในห้องเช่าของโจทก์แล้ว ไม่ยอมออก ขอให้ขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่า เช่าจากโจทก์ไม่ได้ผิดสัญญา เมื่อตัวโจทก์มาเบิกความว่าจำเลยขออยู่ในห้องชั่วคราว แล้วไม่ยอมออก ดังนี้จะว่าไม่บังอาจเพราะจำเลยเข้าอยู่โดยรับอนุญาตจากโจทก์และยกฟ้องเสียนั้นยังไม่ถนัด จำต้องพิจารณาตลอดถึงสิทธิแห่งการเช่าที่จำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักเงินประกันความเสียหาย: ค่าเสียหายต้องหักเงินวางประกันก่อน
คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งวางเงินประกันในการผิดสัญญาไว้แล้วเกิดผิดสัญญาขึ้น ทำให้อีกฝ่ายหนึ่ง เสียหาย เมื่อฝ่ายนั้นจะริบเงินที่วางประกัน ก็ต้องหักเงินจำนวนที่ริบไว้จากค่าเสียหายที่จะให้ฝ่ายผิดสัญญาใช้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1278/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องห้ามปรามเมื่อจำเลยอ้างสิทธิในฐานะผู้รับโอนจากบุคคลอื่น แม้ไม่มีการจดทะเบียนสมรส
โจทก์ฟ้องว่า นาพิพาทเป็นของโจทก์ ครอบครองมาจำเลยไปขอจดทะเบียน ออกโฉนดว่าเป็นที่ของผู้อื่น ขอให้ห้าม จำเลยต่อสู้ว่าเป็นนาของภริยาจำเลยครอบครองมาไม่ใช่นาของโจทก์ ดังนี้แม้จะปรากฏว่าจำเลยกับภริยาสมรสกันโดยมิได้จดทะเบียน จำเลยก็อาจอ้างอำนาจของคนที่ 3 เป็นข้อต่อสู้ของโจทก์ได้เพราะถ้าข้อเท็จจริงฟังได้สมข้อต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของภริยาจำเลย ไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์ก็ไม่มีอำนาจที่จะห้ามจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมรสที่ขัดแย้งกับคู่สมรสเดิม แม้ไม่ได้จดทะเบียนก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง
ชายหญิง เป็นสามีภริยากันตั้งแต่ก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ตลอดมาจนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้ว แม้จะมิได้จดทะเบียนสมรส ก็นับว่า ชายหญิงนั้นเป็นคู่สมรสกันตามกฎหมาย ฉะนั้นชายจึงไม่มีสิทธิจะทำการสมรสกับหญิงอื่นอีก เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1445(3)บัญญัติห้ามมิให้ชายหญิงทำการสมรส เมื่อยังเป็นคู่สมรสของบุคคลอื่นอยู่ ภริยาเดิมขอให้เพิกถอนทะเบียนสมรสที่ชายไปจดใหม่นั้นเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายและการฟ้องร้องผิดสัญญา: ไม่เป็นมูลเหตุฟ้องหากยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อขาย
โจทก์ฟ้องว่า ได้เสนอขายสิ่งของแก่จำเลย จำเลยได้สนองรับซื้อสิ่งของนั้น ตามคำเสนอของโจทก์แล้ว แต่ต่อมาบิดพริ้วไม่ยอมทำสัญญาซื้อขายสิ่งของนั้นกับโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงขอให้ศาลแสดงว่าการกระทำระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาจะซื้อขายมีผลผูกพันและบังคับได้ตามกฎหมาย ดังนี้ ยังไม่เป็นเหตุผลที่โจทก์จะต้องมาขอใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 เพราะเป็นเรื่องที่ขอให้แสดงว่าได้มีการตกลงจะทำสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยหรือไม่เท่านั้นถ้าโจทก์ยืนยันว่าได้มีการตกลงกับจำเลยแล้ว และจำเลยกระทำผิดข้อตกลงอย่างใดโจทก์ชอบที่จะฟ้องร้องว่ากล่าวในทางนั้น ฉะนั้นในเรื่องนี้ จึงยังไม่เป็นมูลกรณีที่จะพึงฟ้องร้องกันได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของเจ้าหน้าที่รัฐจากการไม่ปฏิบัติตามระเบียบการเก็บรักษาเงิน และการรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น
กระทรวงพาณิชย์ส่งผ้ามาให้ข้าหลวงประจำจังหวัดเพื่อขายแก่ชาวนา ข้าหลวงประจำจังหวัดมอบให้อำเภอเป็นผู้ขาย นายอำเภอจึงแต่งตั้งปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่อื่นเป็นกรรมการขายผ้า ดังนี้ เมื่อปลัดอำเภอผู้ได้รับการแต่งตั้งทำผิดหน้าที่จนเกิดการเสียหายขึ้น กระทรวงพาณิชย์ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากปลัดอำเภอผู้นั้นได้
การขายผ้ามีระเบียบว่า เงินได้จากการขายให้ส่งต่อคณะกรรมการอำเภอรวบรวมส่งคณะกรรมการจังหวัดเป็นการด่วน ถ้าวันใดได้เงินที่ได้รับมีจำนวนถึงหมื่นบาท ให้คณะกรรมการอำเภอรีบส่งเงินแก่จังหวัดเสียคราวหนึ่งก่อนห้ามมิให้เก็บเงินที่ได้จากการขายผ้าไว้ที่อำเภอเกินกว่าจำนวนหมื่นบาท ดังนี้เมื่อปลัดอำเภอขายผ้าได้เงินเกินหมื่นบาท แล้วไม่นำส่งจังหวัด กลับเอาไปเก็บไว้ในเซฟของอำเภอจนมีผู้ร้ายไขเซฟลักเงินจำนวนนี้ไป ต้องถือว่า ปลัดอำเภอผู้นั้นมิได้ปฏิบัติตามระเบียบโดยตรงและต้องรับผิดใช้เงินจำนวนนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภริยาไม่ต้องรับผิดในหนี้สินสามีที่ก่อขึ้นระหว่างสมรส เว้นแต่เป็นหนี้ร่วม
หนี้สินที่จำเลยผู้เป็นสามีก่อขึ้นในระหว่างที่จำเลยกับผู้ร้องยังเป็นสามีภริยากันอยู่เมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้วนั้นผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาจะต้องรับผิดร่วมด้วยหรือไม่นั้น ได้มีคำพิพากษาฎีกาที่ 1045/2484 วินิจฉัยไว้เป็นแบบอย่างไว้แล้วว่า ภริยาไม่ต้องรับผิดร่วมด้วยเว้นแต่หนี้นั้นจะเป็นหนี้ร่วม
of 132