พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,319 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1476/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนความประสงค์ในการสืบพยาน ศาลมีอำนาจวินิจฉัยตามสมควร ไม่ถือเป็นการสละสิทธิ
วันชี้สองสถาน โจทก์จำเลยตกลงกันว่าโจทก์สืบก่อน ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้นัดชี้สองสถานใหม่ ถึงวันนัดโจทก์แถลงขอให้ศาลถือตามคำร้องของโจทก์ในทางไม่ยอมสืบก่อน และจะเป็นอย่างไร ก็ขอให้เป็นไปตามคำสั่งศาล จำเลยแถลงขอให้เป็นไปตามข้อตกลง ดังนี้ ศาลชอบที่จะสั่งตามที่เห็นสมควร จะถือเป็นเหตุว่า โจทก์ไม่ติดใจสืบพยาน จึงพิพากษายกฟ้องนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดราคาข้าวในคดีนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร การริบของกลาง และการแบ่งชำระค่าปรับ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยนำข้าวสาร 100 กระสอบ ออกนอกราชอาณาจักร ตามฟ้องข้อ ก.โจทก์กล่าวว่าราคา 10,274 บาท 40 สตางค์ แต่ท้ายฟ้องขอให้ริบข้าว 100 กระสอบถ้านำมาริบไม่ได้ ขอให้จำเลยใช้ราคา 1,705 บาท 92 สตางค์เมื่อตามท้องสำนวนไม่ปรากฏว่าราคาข้าวที่ถูกต้องต่อความจริงเป็นราคาอย่างมากหรืออย่างน้อย ศาลจำต้องถือราคาข้าว 100 กระสอบที่ขอมาในฟ้องว่า 1,705 บาท 92 สตางค์
จำเลย 6 คนต้องโทษปรับรวมกันเป็นเงิน 6,823 บาท 68 สตางค์ เมื่อจำเลยจะต้องจำแทนค่าปรับ ให้แบ่งกันจำแทนคนละ 2 เดือน
ข้าวของกลางในคดีที่นำออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องริบทั้งสิ้น (อ้างฎีกา 503/2492)
จำเลย 6 คนต้องโทษปรับรวมกันเป็นเงิน 6,823 บาท 68 สตางค์ เมื่อจำเลยจะต้องจำแทนค่าปรับ ให้แบ่งกันจำแทนคนละ 2 เดือน
ข้าวของกลางในคดีที่นำออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องริบทั้งสิ้น (อ้างฎีกา 503/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเคลื่อนย้ายไม้มีตราถูกต้องโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่เป็นเหตุริบไม้
การนำไม้ซึ่งตีตราถูกต้องแล้วเคลื่อนย้ายที่มิได้รับอนุญาต มิใช่เป็นการมีไว้เนื่องจากการกระทำผิด จึงจะริบไม้มิได้ (อ้างฎีกา 846/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมิอาจอ้างว่าไม่ได้รับสำเนาฟ้องเมื่อได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีแล้ว ถือเป็นการถือประโยชน์เอาเปรียบ
ชั้นแรกโจทก์ได้ฟ้องผู้อื่นเป็นจำเลย และมีผู้ร้องสอดขอเข้าเป็นจำเลยและยื่นคำให้การต่อสู้คดีโจทก์อย่างชัดเจน ดังนี้ แสดงว่า ผู้ร้องได้ทราบคำฟ้องและสำเนาหนังสือสัญญาท้ายฟ้องดีแล้ว ผู้ร้องสอดจะฎีกาว่าไม่ได้รับสำเนาฟ้องและสำเนาสัญญาท้ายฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1443/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงผลสลากกินแบ่งและการมอบหมายดูแลรักษาทรัพย์สิน การฟ้องยักยอกทรัพย์สินไม่มีมูล
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า โจทก์กับนางสาวขาวตกลงกันว่า ถ้าเลขท้าย 3 ตัวของกลางรางวัลที่ 1สลากกินแบ่งงวดสุดท้ายประจำเดือนมกราคม 2492 ตรงกับเลข 094ให้โจทก์ได้รับสายสร้อยทองคำ 1 เส้น ราคา 720 บาท ซึ่งมอบหมายให้จำเลยเป็นผู้ดูแลรักษา ต่อมาสลากดังกล่าวออกตรงเลข 094 โจทก์ไปขอรับสายสร้อยจากจำเลย จำเลยไม่ให้ ได้ยักยอกเอาสายสร้อยนั้นไว้เสีย ดังนี้ การกระทำของจำเลยดังกล่าวในฟ้อง จำเลยไม่ได้รับมอบหมายสายสร้อยของโจทก์ไว้จากโจทก์ จำเลยจึงยังไม่มีผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1435/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ สัญญาไม่ผูกพันผู้เยาว์
ที่ดินในโฉนดมีชื่อมารดากับบุตรผู้เยาว์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์มารดาไปทำสัญญาขายที่ดินนี้ให้แก่ผู้อื่นนั้น ย่อมไม่ผูกพันส่วนของบุตรซึ่งเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องละเมิดจากการแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ: ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงจากคดีก่อน และความน่าเชื่อถือของเหตุผลในการเบิกความ
โจทก์ฟ้อง ฉ.จำเลยฐานแจ้งความเท็จว่าโจทก์ยักยอกทรัพย์ของฉ. ศาลตัดสินยกฟ้องโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องแก้เกี้ยวข้อหาของโจทก์ฟังไม่ได้ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้หาว่า ฉ. จำเลยจงใจแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ ดังนี้ เมื่อศาลได้ชี้ขาดในคดีก่อนแล้วว่า ฉ. ไม่ได้แจ้งความเท็จในคดีนี้ ก็ต้องฟังว่า ฉ. ไม่ได้แจ้งความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426-1427/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานใช้อำนาจโดยมิชอบและทำร้ายผู้อื่น ไม่สามารถอ้างป้องกันตัวได้
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ร่วมไปจับปลากับผู้ตายและพวกเพื่อขอปลาเป็นส่วนแบ่ง ผู้ตายแบ่งให้น้อย จำเลยกลับอ้างว่าเป็นเจ้าพนักงานจะทำการจับกุม ได้เกิดต่อสู้ทำร้ายกันขึ้น จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายและทำร้ายผู้อื่นถึงบาดเจ็บ ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่นับว่าเป็นการกระทำตามหน้าที่อันชอบ และจำเลยจะอ้างว่าได้กระทำโดยป้องกันตัวก็ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1419/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละมรดกโดยการประนีประนอมยอมความ: การผูกพันผู้รับมรดกและผลของการไม่ลงชื่อ
ผู้รับมรดกได้ทำเอกสารเป็นการประนีประนอมยอมความในการสละมรดกถูกต้องตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1612,850 และผู้รับมรดกผู้รับผิดได้ลงชื่อไว้ให้แล้วผู้รับมรดกคนอื่นที่มิได้สละสิทธิ ไม่จำต้องลงชื่อด้วยก็ย่อมใช้ได้และผูกพันผู้รับมรดกที่สละมรดกนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องร้องความผิดฐานขนย้ายข้าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาต และการมีอยู่ของประกาศคณะกรรมการจังหวัด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยขนย้ายข้าวสารโดยมิได้รับอนุญาต ฟ้องโจทก์ได้มีประกาศของคณะกรรมการจังหวัดสงขลาติดมากับฟ้อง ประกาศฉบับนี้อ้างประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค(ฉบับที่ 6) เรื่องควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคบางอย่าง และตั้งคณะกรรมการจังหวัดทุกจังหวัดเว้นจังหวัดพระนครและธนบุรีเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังนี้ ฟ้องโจทก์ย่อมมีสาระสำคัญครบถ้วนแล้ว