คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1723

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 26 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจหน้าที่ผู้จัดการมรดกที่ศาลตั้ง: ทายาทสั่งการไม่ได้, ศาลบังคับไม่ได้, ผู้จัดการมรดกจัดการเอง
ผู้จัดการมรดกที่ศาลมีคำสั่งตั้งมีอำนาจและหน้าที่ที่จะทำการอันจำเป็นเพื่อให้การเป็นไปตามคำสั่งแจ้งชัดหรือโดยปริยายแห่งพินัยกรรมและเพื่อจัดการมรดกโดยทั่วไปหรือเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดก และเป็นหน้าที่ของผู้จัดการมรดกจะต้องจัดการโดยตนเอง จะให้ผู้ใดทำแทนไม่ได้ เว้นแต่กรณีเข้าข้อยกเว้นให้ผู้จัดการมรดกมอบให้ตัวแทนทำการได้ตามอำนาจที่ให้ไว้โดยชัดแจ้ง หรือโดยปริยายในพินัยกรรม หรือโดยคำสั่งศาล หรือในพฤติการณ์เพื่อประโยชน์แก่กองมรดกผู้จัดการมรดกที่ศาลมีคำสั่งตั้งมิใช่ตัวแทนของทายาท อำนาจหน้าที่และความรับผิดของผู้จัดการมรดกต่อทายาทเกิดขึ้นโดยบทบัญญัติของกฎหมาย จึงมีฐานะเป็นผู้แทนตามกฎหมายของทายาทที่จะต้องจัดการมรดกเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกและทายาท ทายาทหามีอำนาจที่จะสั่งการให้ผู้จัดการมรดกกระทำการใดได้เพียงแต่ผู้จัดการมรดกจะต้องรับผิดต่อทายาทโดยกฎหมายอนุโลมให้นำบทบัญญัติบางมาตราของลักษณะตัวแทนมาใช้ และทายาทย่อมอยู่ในฐานะเป็นผู้ควบคุมการจัดการมรดกของผู้จัดการมรดกให้อยู่ในขอบอำนาจที่พินัยกรรมและกฎหมายกำหนดไว้ รวมทั้งมีอำนาจที่จะขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกที่ละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ ส่วนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1729,1731,1726,1732 และ 1727 วรรคสอง เป็นกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ศาลเป็นผู้ดูแลให้ผู้จัดการมรดกปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เพื่อให้การจัดการมรดกเป็นไปโดยเรียบร้อย ดังนั้น วิธีการจัดการมรดกซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้จัดการมรดกที่จะกระทำเองทายาทและศาลไม่มีอำนาจที่จะบังคับให้ผู้จัดการมรดกปฏิบัติตามมติที่ประชุมทายาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6694/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้จัดการมรดกขายทรัพย์มรดก: ไม่เข้าข่ายกรรมสิทธิ์รวม
พ.เป็นผู้จัดการมรดกของ ส. จึงมีอำนาจขายบ้านพิพาทซึ่งเป็นทรัพย์มรดกเพื่อนำเอาเงินมาแบ่งให้ทายาทได้ มิใช่เป็นเรื่องตกอยู่ในบังคับแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 1745 ซึ่งต้องนำมาตรา 1356 ถึงมาตรา 1366 ในเรื่องเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมมาใช้บังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6694/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้จัดการมรดกขายทรัพย์มรดก: ไม่ต้องใช้บทบัญญัติเจ้าของกรรมสิทธิ์รวม
พ.เป็นผู้จัดการมรดกของส. จึงมีอำนาจขายบ้านพิพาทซึ่งเป็นทรัพย์มรดกเพื่อนำเอาเงินมาแบ่งให้ทายาทได้ มิใช่เป็นเรื่องตกอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1745ซึ่งต้องนำมาตรา 1356 ถึงมาตรา 1366 ในเรื่องเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมมาใช้บังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้จัดการมรดกและการใช้สิทธิเรียกร้องเอาคืนซึ่งการครอบครอง
จำเลยทั้งเจ็ดฎีกาว่า โจทก์ฟ้องคดีในฐานะผู้จัดการมรดก การฟ้องคดีจึงเป็นเรื่องเฉพาะตัวจะมอบให้บุคคลอื่นทำการแทนไม่ได้ปรากฏว่าความข้อนี้จำเลยทั้งเจ็ดมิได้ยกเป็นข้อต่อสู้ไว้ ในคำให้การ จึงไม่มีประเด็นในปัญหาดังกล่าวและเป็นข้อที่มิได้ ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แม้จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับ อำนาจฟ้องอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แต่ศาลฎีกา ไม่เห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142(5) ประกอบ มาตรา 246และ 247.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องผู้จัดการมรดก & สิทธิครอบครองที่ดิน: ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
จำเลยทั้งเจ็ดฎีกาว่า โจทก์ฟ้องคดีในฐานะผู้จัดการมรดก การฟ้องคดีจึงเป็นเรื่องเฉพาะตัวจะมอบให้บุคคลอื่นทำการแทนไม่ได้ ปรากฏว่าความข้อนี้จำเลยทั้งเจ็ดมิได้ยกเป็นข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การ จึงไม่มีประเด็นในปัญหาดังกล่าวและเป็นข้อที่มิได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แม้จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้องอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แต่ศาลฎีกาไม่เห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5)ประกอบมาตรา 246 และ 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2953/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกและการสละที่ดินทำถนนร่วมกัน ผู้จัดการมรดกมีอำนาจฟ้องได้
ป. บ. และ ส. กับจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน ได้จัดแบ่งที่ดินมรดกและตกลงให้มีการทำถนนเพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของที่ดินด้านในๆ มีทางออกสู่ถนนได้กับตกลงกำหนดแนวทางที่จะทำถนนไว้แล้ว ป.บ. และ ส.เป็นโจทก์โดยป.และบ.มอบอำนาจให้ส. ฟ้อง อ้างว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงโดยไม่ยอมสละที่ดินให้ทำถนนอันเป็นการฟ้องให้สละที่ดินทำถนนเพื่อทายาทอื่นใช้ร่วมกันตามข้อตกลงแบ่งมรดกตามที่ ป. บ. และ ส. ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกเห็นพ้องต้องกัน ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการมรดกร่วมกันนั่นเอง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผู้จัดการมรดกตั้งตัวแทนให้จัดการมรดกรายนี้โดยไม่มีอำนาจอันจะเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1723

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2953/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องจัดการมรดก: การจัดการมรดกโดยผู้จัดการร่วมกันย่อมมีอำนาจฟ้องได้ ไม่ถือเป็นการตั้งตัวแทน
ป. บ. และ ส. กับจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน ได้จัดแบ่งที่ดินมรดกและตกลงให้มีการทำถนนเพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของที่ดินด้านในๆ มีทางออกสู่ถนนได้กับตกลงกำหนดแนวทางที่จะทำถนนไว้แล้ว ป. บ. และ ส. เป็นโจทก์โดย ป. และ บ. มอบอำนาจให้ ส. ฟ้อง อ้างว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงโดยไม่ยอมสละที่ดินให้ทำถนน อันเป็นการฟ้องให้สละที่ดินทำถนนเพื่อทายาทอื่นใช้ร่วมกันตามข้อตกลงแบ่งมรดกตามที่ ป. บ. และ ส. ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกเห็นพ้องต้องกัน ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการมรดกร่วมกันนั่นเองไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผู้จัดการมรดกตั้งตัวแทนให้จัดการมรดกรายนี้โดยไม่มีอำนาจ อันจะเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1723

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1825/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการมรดกเป็นของผู้จัดการมรดก มิใช่ศาล ศาลสั่งขายมรดกโดยตรงเป็นคำสั่งไม่ชอบ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้ง น., ส. และ สมเป็นผู้จัดการมรดกระหว่างจัดการมรดกศาลนัดพร้อมผู้จัดการมรดกมาพร้อมกัน ผู้จัดการมรดกแถลงร่วมกันว่า ว.,ธ.,และช. ขอซื้อที่นามรดกราคาไร่ละ 3,350 บาท ผู้จัดการมรดกเห็นชอบและตกลงขายศาลชั้นต้นให้รับเงินค่าที่นา 25%ไว้ หลังจากนั้นในวันเดียวกันนั้น สม ยื่นคำร้องขอซื้อที่นามรดกในราคาไร่ละ 3,500 บาท ศาลชั้นต้นสั่งใหม่อนุญาตขายให้สมและคืนเงินให้ ว. กับพวกเช่นนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1723 การจัดการมรดกตกเป็นหน้าที่ของผู้จัดการมรดก จะให้ผู้ใดทำแทนไม่ได้ เว้นแต่จะมีอำนาจทำได้โดยพินัยกรรมและอื่น ๆ (มาตรา 1723 ตอนท้าย) กรณีที่จะขายนามรดกให้กับบุคคลใดย่อมเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการจัดการมรดก เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้จัดการมรดกที่จะกระทำเอง มิใช่เป็นอำนาจของศาล ฉะนั้น การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไป จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว (ศาลสูงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้น)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1825/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการมรดกเป็นของผู้จัดการมรดก ศาลมิอาจสั่งขายเองได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง น. ส. และ สมเป็นผู้จัดการมรดกระหว่างจัดการมรดก ศาลนัดพร้อมผู้จัดการมรดกมาพร้อมกัน ผู้จัดการมรดกแถลงร่วมกันว่า ว.ข., และ ข. ขอซื้อที่นามรดกราคาไร่ละ 3,350 บาท ผู้จัดการมรดกเห็นชอบและตกลงขาย ศาลชั้นต้นให้รับเงินค่าที่นา 25% ไว้ หลังจากนั้นในวันเดียวกันนั้น สม. ยื่นคำร้องขอซื้อที่นามรดกในราคาไร่ละ 3,500 บาท ศาลชั้นต้นสั่งใหม่อนุญาตขายให้ สม. และคืนเงินให้ ว. กับพวก เช่นนี้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1723 การจัดการมรดกตกเป็นหน้าที่ของผู้จัดการมรดก จะให้ผู้ให้ทำแทนไม่ได้ เว้นแต่จะมีอำนาจทำได้โดยพินัยกรรมและอื่น ๆ (มาตรา 1723 ตอนท้าย) กรณีที่จะขายนามรดกให้กับบุคคลใดย่อมเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการจัดการมรดก เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้จัดการมรดกที่จะกระทำเอง มิใช่เป็นอำนาจของศาล ฉะนั้น การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไป จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว (ศาลสูงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้น)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2516-2517/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนผู้จัดการมรดกที่ขัดขวางการจัดการมรดกและไม่ให้ความร่วมมือ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1723 จะเห็นว่าไม่ได้ห้ามผู้จัดการมรดกตั้งตัวแทนเสียเลยทีเดียว หากเป็นการตั้งตัวแทนกระทำการเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกย่อมจักกระทำได้ ดังนี้ แม้ผู้จัดการมรดกทั้งสองได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ ฉ. ซึ่งเป็นทนายความจัดการแทน. ฉ. ได้แต่เพียงมีหนังสือถึงทายาทให้ส่งทรัพย์มรดกเฉพาะผู้ร้องให้ส่งมอบโฉนดและให้แจ้งทรัพย์มรดกเท่านั้น ซึ่งก็ได้ทำไปเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกนอกนั้นผู้จัดการมรดกทั้งสองได้จัดการมรดกด้วยตนเอง จึงฟังไม่ได้ว่าผู้จัดการมรดกทั้งสองมิได้กระทำการตามหน้าที่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้คัดค้านทั้งสองและจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกมาเป็นเวลานานหลายปี แต่บรรดาทายาทยังมิได้รับการแบ่งปันมรดกเลย เพราะจำเลยไม่ให้ความร่วมมือในการจัดการมรดกและคัดค้านตลอดมา หากจะให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกอีกต่อไป การจัดการมรดกย่อมจะล่าช้าและอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่กองมรดกและทายาทได้ ตามพฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวมา กรณีมีเหตุสมควรที่จะถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของเจ้ามรดก
of 3