คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 136

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 45 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แบบพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองไม่สมบูรณ์ ศาลฎีกาตัดสินเกินประเด็น
คู่ความขอให้ศาลวินิจฉัยเพียงข้อเดียวว่าพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองที่จำเลยอ้าง จะเป็นการชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1658หรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พินัยกรรมฉบับนี้ตกเป็นโมฆะในฐานะเป็นพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง แต่สมบูรณ์ในฐานะเป็นพินัยกรรมธรรมดาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 136 ดังนี้เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นที่คู่ความโต้เถียงกัน เพราะคู่ความมิได้แถลงว่าถ้าพินัยกรรมฉบับนี้ไม่เป็นพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง ก็ขอให้ศาลวินิจฉัยว่าจะเข้าแบบสมบูรณ์ เป็นพินัยกรรมอย่างอื่นหรือไม่
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองมีปลัดอำเภอลงลายมือชื่อในฐานะเป็นพยานรับรองพินัยกรรมอีกฐานะหนึ่งกับมีนายสุดเซ็นเป็นพยานอีกคนหนึ่ง เมื่อตัดชื่อนายสุวัธน์ออกจากฐานะเป็นพยาน โดยเหตุที่เป็นกรมการอำเภอผู้กระทำกิจการตามหน้าที่ราชการแล้ว ก็คงเหลือแต่นายสุดผู้เดียวลงลายมือชื่อเป็นพยานแต่เป็นผู้ที่ได้รับรู้การแจ้งความประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรมต่อกรมการอำเภอพยานขาดจำนวนไปคนหนึ่งจึงไม่ครบจำนวนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ พินัยกรรมจึงตกเป็นโมฆะในฐานะพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนการขายฝาก: การพิสูจน์การปฏิเสธการไถ่ของผู้ขายฝาก
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยทำสัญญายอมให้โจทก์ไถ่การขายฝากต่อไปอีก 30 วัน แต่โจทก์ไม่นำสืบว่าจำเลยไม่ยอมให้ไถ่ภายในกำหนดเวลาที่ขยายออกไป โจทก์ก็ไม่มีทางชนะคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่การขายฝาก: การพิสูจน์ข้อเท็จจริงสำคัญ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยทำสัญญายอมให้โจทก์ไถ่การขายฝากต่อไปอีก 30 วัน แต่โจทก์ไม่นำสืบว่าจำเลยไม่ยอมให้ไถ่ภายในกำหนดเวลาที่ขยายออกไป โจทก์ก็ไม่มีทางชนะคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903-906/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนมรดก, การจัดการทรัพย์สินของเด็ก, และอายุความในการฟ้องร้องคดีมรดก
ผู้รับมฤดกคนหนึ่งได้เข้าเป็นผู้ปกครองเด็กตามพินัยกรรม์ของผู้ตายแล้ว จะยกอายุความมรฤกยันเด็กไม่ได้ เจตนาจะให้ที่ดินที่ลูกหนี้ตีใช้หนี้แก่เด็กจึงให้หลงชื่อเด็กเป็นผู้รับโอนในโฉนดดังนี้ ที่ดินนั้นยอมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเด็กตั้งแต่วันโอน
เจตนาจะยกที่ให้แก่เด็ก แต่จดทะเบียนเป็นโอนขายแก่เด็กเด็กก็ย่อมได้กรรมสิทธิ์
ตกลงแลกเปลี่ยนที่ดินกัน ฝ่ายหนึ่งโอนทะเบียนให้ อีกฝ่ายหนึ่งทำหนังสือขายให้แก่คนภายนอกโดยผู้รับแลกเปลี่ยนเป็นผู้รับเงินราคาที่ขายได้นั้น อีกฝ่ายหนึ่งจะฟ้องเรียกเงินที่ขายได้นั้นไม่ได้
เงินค่าเช่าที่ดินและโรงเรือนย่อมเป็นของเจ้าของที่ดิน
เด็กอายุ 17 ปี ตายในขณะที่อยู่ในความปกครองของธิดา ส่วนมารดาตายไปก่อนแล้ว มฤดกตกได้แก่บิดาผู้เดียว พี่น้อง ร่วมบิดามารดาไม่มีสิทธิได้รับมฤดก อ้างฎีกาที่ 567/2456
รับเงินของผู้อื่นไว้รักษาและหาผลประโยชน์ เดิมฝากธนาคารไว้ ภายหลังไม่ปรากฎว่าได้ถอนไปหรือได้นำไปหาผลประโยชน์อย่างไร ศาลคิดค่าผลประโยชน์ให้ในอัตราขั้นต่ำที่ฝากธนาคาร เงินรายได้ที่เก็บได้จากทรัพย์ของเด็กนั้น ถ้าเด็กนำสืบไม่ได้ว่าผู้ปกครองใดได้เท่าใดแล้ว ศาลไม่คิดค่าผลประโยชน์ให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน/ผู้พิพากษา แม้พ้นหน้าที่ก็ผิดได้ การกล่าวใส่ร้ายด้วยถ้อยคำที่ดูถูกและใส่ความเข้าข่ายความผิด
กล่าววาจาใส่ร้ายหมิ่นประมาทผู้พิพากษาเพราะเหตุที่ได้กระทำการตามหน้าที่ แม้จะกล่าวเมื่อพ้นจากที่ได้กระทำตามหน้าที่แล้ว ก็ต้องมีผิดตาม ม.116 ทั้งเป็นผิดตาม ม.282 ด้วย แต่ไม่เป็นผิดตาม ม.136 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความแพ่ง หน้าที่นำสืบ คำกล่าวที่เป็นผิดฐานหมิ่นประมาทตาม ม.282 นั้น เพียงแต่อาจทำให้เจ้าทุกข์เสียขื่อเสียงหรือทำให้คนทั้งหลายดูหมิ่นหรือเกลียดชังก็ต้องเป็นผิดฐานนี้ โจทก์หาจำต้องสืบว่าเจ้าทุกข์ได้รับความเสียชื่อเสียงอย่างใดไม่ กล่าวใส่ร้ายว่าผู้พิพากษากินไข่ โจทก์นำสืบว่าหมายความถึงกินินบนจำเลยต้องมีผิดฐานหมิ่นประมาทกะทงโทษ กล่าวคำหมิ่นประมาท 2 คราวแต่ละคราวเป็นผิดตาม ม.116-282 ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยในบทที่หนักตามมาตรา 282 -70-71 ได้ ฎีกาอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงเจตนาหรือไม่เป็นข้อเท็จจริง
of 5