พบผลลัพธ์ทั้งหมด 77 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลย 1 ปี 6 เดือน แม้จะลงโทษต่างรูปแบบ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำเลย 1 ปี 6 เดือน แม้ศาลหนึ่งจะลงโทษเป็นกระทง อีกศาลหนึ่งลงโทษเป็นบท ก็ไม่เป็นการแก้ไขมาก คดีต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษาโทษเท่ากัน แม้รูปแบบการลงโทษต่างกัน ถือเป็นการแก้ไขมาก คดีต้องห้ามตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำเลย 1 ปี 6 เดือน แม้ศาลหนึ่งจะลงโทษเป็นกะทง อีกศาลหนึ่งลงโทษเป็นบท ก็ไม่เป็นการแก้ไขมาก คดีต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญา ม. 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานใช้อำนาจในหน้าที่โดยมิชอบ ข่มขู่เอาทรัพย์จากประชาชน ความผิดตามมาตรา 136
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจที่กำลังรักษาการณ์ในหน้าที่สวมเครื่องแบบและมีอาวุธปืน จำเลยได้จับเจ้าทรัพย์ในลักษณะที่เป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ แล้วจำเลยบังคับให้เจ้าทรัพย์ให้ของกลางแก่จำเลย ก็เรียกได้ว่ามันบังคับให้เขาให้ทรัพย์อันมิควรจะได้ตามกฎหมายแก่ตัวมัน ต้องด้วยข้อบัญญัติตามมาตรา 136 กฎหมายลักษณะอาญา แต่เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ จึงกลายเป็นความผิดหลายบท แต่ความผิดตามมาตรา 136 มีอัตราโทษหนักกว่า จึงให้วางโทษตามมาตรา 136
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ ขู่เข็ญและบังคับเอาทรัพย์สินจากประชาชน
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจที่กำลังรักษาการณ์ในหน้าที่สรวมเครื่องแบบและมีอาวุธปืน จำเลยได้จับเจ้าทรัพย์ในลักษณะที่เป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ แล้วจำเลยบังคับให้เจ้าทรัพย์ให้ของกลางแก่จำเลย ก็เรียกได้ว่ามันบังคับให้เขาให้ทรัพย์อันมิควรจะได้ตามกฎหมายแก่ตัวมัน ต้องด้วยข้อบัญญัติตามมาตรา 136 ก.ม.ลักษณะอาญา แต่เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ จึงกลายเป็นความผิดหลายบท แต่ความผิดตามมาตรา 136 มีอัตราโทษหนักกว่า จึงให้วางโทษตามมาตรา 136.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเครื่องชั่งตวงวัด, การลงโทษตามบทหนัก, และสิทธิในการเรียกร้องค่าสินบนนำจับ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีและใช้เครื่องชั่งที่ถูกแก้ไขและมีคำรับรองของเจ้าพนักงานและอ้าง พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 31, 32 จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามมาตรา 32 ซึ่งเป็นบทหนักได้
เงินค่าสินบลผู้จับในคดีผิด พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัดนั้น ไม่มี ก.ม.ใดให้อำนาจอัยยการจะฟ้องเรียกสินบลให้แก่ผู้จับ
(อ้างฎีกา 362/2481, 218/2482)
เงินค่าสินบลผู้จับในคดีผิด พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัดนั้น ไม่มี ก.ม.ใดให้อำนาจอัยยการจะฟ้องเรียกสินบลให้แก่ผู้จับ
(อ้างฎีกา 362/2481, 218/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานแก้ไขเครื่องชั่งตวงวัด และสิทธิการเรียกร้องค่าสินบนนำจับ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีและใช้เครื่องชั่งที่ถูกแก้ไขและมีคำรับรองของเจ้าพนักงานและอ้างพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด 2466 มาตรา 31,32 จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามมาตรา 32 ซึ่งเป็นบทหนักได้
เงินค่าสินบนผู้จับในคดีผิดพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดนั้น ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจอัยการจะฟ้องเรียกสินบนให้แก่ผู้จับ (อ้างฎีกา 362/2481,218/2482)
เงินค่าสินบนผู้จับในคดีผิดพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดนั้น ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจอัยการจะฟ้องเรียกสินบนให้แก่ผู้จับ (อ้างฎีกา 362/2481,218/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประกาศยกเลิกอำนาจควบคุมไม่ถือเป็นการยกเลิกความผิดเดิม ศาลสูงสั่งให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
ประกาศที่ออกตามอำนาจในกฎหมายต่อมามีประกาศยกเลิกเรื่องตามคำสั่งนั้น ไม่ถือว่าเป็นกฎหมายยกเลิกความผิด
ในกรณีที่เป็นกรรมเดียวกันนั้นเมื่อศาลสูงเห็นว่า ศาลชั้นต้นยกฟ้องบางส่วนไม่ถูกต้อง จะให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ศาลสูงย่อมให้ยกคำพิพากษาทั้งหมด และให้พิพากษาใหม่ทั้งหมด
ในกรณีที่เป็นกรรมเดียวกันนั้นเมื่อศาลสูงเห็นว่า ศาลชั้นต้นยกฟ้องบางส่วนไม่ถูกต้อง จะให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ศาลสูงย่อมให้ยกคำพิพากษาทั้งหมด และให้พิพากษาใหม่ทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประกาศยกเลิกเรื่องตามอำนาจกฎหมาย ไม่ถือเป็นการยกเลิกความผิดเดิม ศาลสูงสั่งพิพากษาใหม่
ประกาศที่ออกตามอำนาจในกฎหมาย ต่อมามีประกาศยกเลิกเรื่องตามคำสั่งนั้น ไม่ถือว่าเป็นกฎหมายยกเลิกความผิด
ในกรณีที่เป็นกรรมเดียวกันนั้นเมื่อศาลสูงเห็นว่าศาลชั้นต้นยกฟ้องบางส่วนไม่ถูกต้อง จะให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ศาลสูงย่อมให้ยกคำพิพากษาทั้งหมด และให้พิพากษาใหม่ทั้งหมด
ในกรณีที่เป็นกรรมเดียวกันนั้นเมื่อศาลสูงเห็นว่าศาลชั้นต้นยกฟ้องบางส่วนไม่ถูกต้อง จะให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ศาลสูงย่อมให้ยกคำพิพากษาทั้งหมด และให้พิพากษาใหม่ทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในคดีวิวาททำให้ถึงแก่ความตาย: การลงโทษตามมาตรา 253 แม้ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้ลงมือทำร้ายจนถึงแก่ความตาย
ในกรณีที่ปรากฏการตายขึ้นในที่วิวาท ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองทำร้าย แต่ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้ตายเพราะใครเป็นผู้ทำดังนี้ศาลลงโทษตามมาตรา 253
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโคโดยไม่ประสงค์จะนำไปบริโภคเข้าข่ายความผิดฐานฆ่าโคโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
การฆ่าโคทิ้งมิได้ตั้งใจเอาเป็นอาหาร ก็เป็นผิดฐานฆ่าโคโดยไม่ได้รับอนุญาต
แกล้งฆ่าโคเขาทิ้งโดยไม่เอาเป็นอาหาร เป็นผิดฐานทำให้เสียทรัพย์และฐานฆ่าโคด้วย แต่เป็นความผิดกะทงเดียว ศาลลงโทษตามบทหนัก
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิด 2 บท แม้ไม่ได้ลงโทษตามบทเบาด้วย จำเลยก็ฎีกาว่าไม่มีผิดตามบทเบานั้นได้
แกล้งฆ่าโคเขาทิ้งโดยไม่เอาเป็นอาหาร เป็นผิดฐานทำให้เสียทรัพย์และฐานฆ่าโคด้วย แต่เป็นความผิดกะทงเดียว ศาลลงโทษตามบทหนัก
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิด 2 บท แม้ไม่ได้ลงโทษตามบทเบาด้วย จำเลยก็ฎีกาว่าไม่มีผิดตามบทเบานั้นได้