คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 256

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 115 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันเกินกว่าเหตุจากการถูกทำร้ายร่างกาย
ผู้ถูกทำร้ายจะต่อยจำเลย จำเลยจึงใช้ขวานฟันถึงสาหัสเป็นป้องกันเกินกว่าเหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 18/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การห้ามปรามวิวาทด้วยถ้อยคำหยาบคาย ไม่ถือเป็นการยั่วโทสะ
การที่ผู้เสียหายซึ่งเดินมาด้วยกันกับจำเลยได้พูดห้ามปรามจำเลยขณะที่กำลังจะวิวาททำร้ายกันกับบุคคลที่ 3 หากแต่ใช้ถ้อยคำหยาบคายไปบ้างนั้น ไม่เป็นการยั่วโทสะตามมาตรา 55

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สำนวนสอบสวนประกอบการวินิจฉัยคดี
สำนวนการสอบสวนที่โจทก์ส่งอ้างในระหว่างสืบพยานจำเลยศาลอาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัย เพื่อประกอบคดีได้ ไม่ผิดกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 674/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยประมาทเลินเล่อและการขาดเจตนาทำร้ายร่างกาย
จำเลยกับผู้เสียหายและผู้อื่นอีกหลายคนต่างขึ้นเขาไปหามูลค้างคาวในถ้ำ จำเลยขึ้นไปก่อนเมื่อถึงปากถ้ำจึงหยิบก้อนหินก้อนหนึ่งโตเท่าผลมะพร้าวขนาดย่อมทุ่มลงมาถูกผู้เสียหายบาดเจ็บ เมื่อปรากฏว่าจำเลยกับผู้เสียหายอยู่ห่างไกลกันทางที่ปืนเขาขึ้นมาก็คดเคี้ยวและมีต้นไม้บังไม่ได้เป็นร่องซึ่งหินจะต้องกลิ้งลงไปตามร่องเท่านั้นถือไม่ได้ว่าจำเลยอาจจะแลเห็นผลว่าหินนั้นจะทำให้บุคคลอื่นบาดเจ็บ เป็นเพียงจำเลยคนองมือปราศจากความระมัดระวังจำเลยไม่มีเจตนาทำร้ายไม่เป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 613/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้กำลังสกัดกั้นผู้บุกรุกและข่มขู่
จำเลยใช้หลาวแทงผู้เสียหายซึ่งแหกรั้วถือมีดซุยบุกรุกขึ้นมาบนบ้านและเงื้อมีดจะแทงจำเลยเช่นนี้ พอถือได้ว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดเจ็บสาหัสและการทุพพลภาพ: เกณฑ์การพิจารณาความรุนแรงและผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ
แผลที่ใต้เข่ายาว 3 ซ.ม. กว้าง 2.2 ซ.ม. ลึก 6ซ.ม.. ตั้งแต่ถูกทำร้ายแล้วผู้ถูกทำร้ายประกอบการหาเลี้ยงชีพไม่ได้เป็นปกติ (เกิน 20 วัน. เพราะเจ็บเสียวชาตั้งแต่แผลแล่นขึ้นมาหมดซีกตัว ต้องใช้ไม้เท้ายันเดินกะเผลก. เช่นนี้เป็นบาดเจ็บถึงสาหัส. ศาลชั้นต้นลงโทษตาม มาตรา 256 จำคุก 2 ปี.ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตาม มาตรา 254 จำคุก 1 ปี. เป็นแก้มาก. อ้างคำสั่งคำร้องที่ 124/2484. ปัญหาว่าบาดเจ็บถึงสาหัสโดยทุพพลภาพทนทุกขเวทนากล้าเกิน 20วัน. หรือไม่สามารถประกอบอาชีพได้โดยปกติเกิน 20 วันหรือไม่นั้น. เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน: ลงโทษจำเลยที่กระทำผิดแม้ไม่มีการสมคบกัน
คดีที่ได้เกิดวิวาทกันแล้วทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน.เมื่อได้ความว่าผู้ใดทำร้ายใครก็ลงโทษจำเลยที่ได้ทำร้ายนั้นได้. อ้างฎีกาที่ 621/2460 ที่ 593/2484. การที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำความผิดโดยสมคบกันทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง. เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยได้ทำความผิดโดยต่างเข้าทำร้ายผู้เสียหายโดยมิได้สมคบกันมา. ก็ลงโทษได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลดโทษจำคุกตามมาตรา 254 แทนมาตรา 256 ตามมติที่ประชุมใหญ่
ศาลชั้นต้นลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256. จำคุกจำเลยคนละ 3 ปี 2 ปี และ 1 ปี 6 เดือน.ศาลอุทธรณ์ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 จำคุกจำเลยคนละ 1 ปี 1 ปี 6 เดือน และ 6 เดือน. ดังนี้โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้. ดำเนินตามมติที่ประชุมใหญ่ในคำร้องที่ 124/2484.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลสาหัสเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิจารณา
บาดแผลสาหัสหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาเรื่องการทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส: ปัญหาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกาย จ. บาดเจ็บสาหัสประกอบด้วยทุกขเวทนากล้าเกินกว่า 20 วัน ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสทำให้ไม่อาจประกอบการอาชีพได้เป็นปกติเกินกว่า 20 วันศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นายหนึ่งมีความเห็นแย้งว่าโจทก์ฟ้องว่าบาดแผล จ. ถึงสาหัสโดยมีอาการประกอบด้วยทุกขเวทนากล้าเกินกว่า 20 วัน ข้อเท็จจริงทางพิจารณาจึงต่างกับฟ้องลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสไม่ได้ ควรลงโทษฐานทำร้ายร่างกายธรรมดาดังนี้ คดีจึงฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีพยานแสดงว่าจำเลยทำร้ายร่างกาย จ. ถึงสาหัสตามฟ้อง จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
of 12