พบผลลัพธ์ทั้งหมด 115 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1292/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กฎหมายอาญาที่แตกต่างกันตามช่วงเวลา และหลักการใช้กฎหมายที่เอื้อประโยชน์แก่จำเลย
การใช้กฎหมายส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 3 นั้น ต้องพิจารณาทั้งโทษสูงและโทษต่ำ เช่น ถ้าจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ถ้าจะลงโทษจำคุกเกิน 7 ปี ซึ่งจะลงได้ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.297 เช่นนี้ ต้องใช้ ม.256 เพราะลงโทษจำคุกได้ ไม่เกิน 7 ปี แต่ถ้าจะลงโทษต่ำกว่า 2 ปี ลงมา (ถึง 6 เดือน) ต้องใช้ประมวลกฎหมายอาญา ม.297 เพราะบัญญัติให้ทำได้
แต่ถ้าการวางโทษอยู่ในระดับที่ใช้กฎหมายลักษณะอาญาก็ได้ หรือใช้ประมวลกฎหมายอาญาก็ได้ เช่นนี้ควรใช้กฎหมายลักษณะอาญา อันเป็นกฎหมายในขณะทำผิด
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2500 )
แต่ถ้าการวางโทษอยู่ในระดับที่ใช้กฎหมายลักษณะอาญาก็ได้ หรือใช้ประมวลกฎหมายอาญาก็ได้ เช่นนี้ควรใช้กฎหมายลักษณะอาญา อันเป็นกฎหมายในขณะทำผิด
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2500 )
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การล้างมลทินและผลกระทบต่อการเพิ่มโทษจำคุก คดีที่พิพากษาหลังพ.ร.บ.ล้างมลทินฯ ใช้บังคับ
ต้องคำพิพากษาให้ลงโทษก่อน 8 พ.ย.2499 และพ้นโทษไปแล้วก่อนวันที่ พ.ร.บ.ล้างมลทินในโอกาศครบ 25 พุทธศตวรรษ พ.ศ.2499 ใช้บังคับ (13 พ.ค.2500) ดังนี้ ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำผิดในคดีนั้น คดีมีฎีกาและศาลฎีกาพิพากษาหลังวันที่ 13 พ.ค.2500 ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลล่างว่า จะเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบหลังพ.ร.บ.ล้างมลทิน: ศาลฎีกาแก้โทษจำคุกเหลือตามเดิม
ต้องคำพิพากษาให้ลงโทษก่อน 8 พ.ย. 2499 และพ้นโทษไปแล้วก่อนวันที่ พ.ร.บ.ล้างมลทินในโอกาศครบ25พุทธศตวรรษ พ.ศ.2499 ใช้บังคับ (13 พ.ค. 2500) ดังนี้ ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำผิดในคดีนั้นคดีมีฎีกาและศาลฎีกาพิพากษาหลังวันที่ 13 พ.ค.2500ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลล่างว่าจะเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน: จำเลยต้องมีความผิดหรือไม่ และบทกฎหมายที่ใช้
จะอ้างแต่เพียงว่าบาดเจ็บของจำเลยทั้งสองถูกอะไรไม่ปรากฏแต่ผลเกิดจากจำเลยทั้งสองชกต่อยและกอดปล้ำทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันยืนยันขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา มาตรา254,256 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1372/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่า vs. พยายามทำร้ายร่างกาย: ปืนแก๊ปทำเอง, ระยะยิง, กระสุนไม่ถูกตัว
ได้ความแต่เพียงว่าจำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย แต่ไม่ได้ปืนมาเป็นของกลาง และได้ความจากพยานแต่เพียงว่าเป็นปืนแก๊ปทำเอง ลำกล้องยาวราว 1 คืบปากกระบอกขนาดนิ้วก้อยรอดได้ ปืนนั้นจะร้ายแรงพอจะทำให้ผู้ถูกยิงตายหรือไม่ ไม่ปรากฏชัด คงปรากฏแต่ว่ากระสุนไปถูกพื้นถนนเลยตัวผู้เสียหายที่วิ่งหนีไปราว 1 ศอก ดินถนนกระจายขึ้น ประกอบจำเลยยิงเมื่อผู้เสียหายไปห่างถึง 15 วาแล้วดังนี้ยังไม่พอฟังว่ามีความผิดฐานพยายามฆ่าคนตาย มีผิดเพียงฐานพยายามทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตามมาตรา 256,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 966/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดเจ็บสาหัสจากทำร้ายร่างกาย: การประเมินระยะเวลาไม่สามารถทำงานได้เกิน 20 วัน
ได้ความว่าผู้เสียหายมีอาชีพทำนาถูกชกด้วยสนับมือมีบาดแผลที่ขอบตาล่างขวาฉีกลึก 1 ซ.ม. ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล 20 วันกว่าระหว่างนั้นทำงานไม่ได้ ดังนี้ถือได้ว่าผู้เสียหายไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้ปกติเกิน 20 วัน อันเป็นบาดเจ็บสาหัส
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 928/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดทางอาญา: การกระทำโดยไม่ได้เจตนาจากอาการลมบ้าหมู
ปืนลั่นจากมือจำเลยในขณะที่จำเลยกำลังเป็นลมบ้าหมูไม่รู้สึกตัวไปถูกผู้เสียหายเข้า จำเลยไม่มีผิดฐานพยายามฆ่าคนหรือทำร้ายร่างกาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย แม้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ชีวิต
การที่จำเลยถูกผู้เสียหายไล่ออกจากงานรุ่งขึ้นกลับมาหาผู้เสียหายและซื้อเหล็กแหลมรูปสามเหลี่ยมยาวคืบเศษพกติดมาด้วยและได้ใช้แทงผู้เสียหายขณะที่ไม่รู้ตัวถูกสีข้างซ้ายโดยแรงทะลุเข้าช่วงท้องไปถูกม้ามถึงต้องตัดม้ามออกเช่นนี้ ส่อให้เห็นว่ามีเจตนาจะฆ่าให้ตายที่ไม่ตายก็เพราะได้รับการรักษาทันท่วงที จำเลยจึงต้องผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม มาตรา 249,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความสาหัสของบาดแผลและการฟ้องคดีอาญาเกินกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด
โจทก์ฟ้องบรรยายฟ้องว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสถึงแก่ทุพพลภาพไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้เพราะความทุพพลภาพเกินกว่า 20 วัน
แต่ในขณะที่โจทก์ฟ้องนั้นเองนับทั้งวันเกิดเหตุได้เพียง 16 วันเท่านั้นเมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบให้ฟังได้ว่าเมื่อเกินกว่า 20 วันไปแล้วผู้เสียหายก็ยังคงทุพพลภาพด้วยทุกขเวทนากล้าหรือไม่สามารถประกอบการเลี้ยงชีพตามปกติได้กลับได้ความว่าในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องนั้นเองผู้เสียหายก็ได้มายื่นคำร้องต่อศาลได้ฉะนั้นผู้เสียหายอาจจะหายก่อนกำหนดเวลาที่กฎหมาย กำหนดไว้ก็ได้ ดังนี้แม้จำเลยจะรับตามฟ้องของโจทก์ก็ตามแต่ขณะโจทก์ฟ้องข้อเท็จจริงเท่าที่โจทก์กล่าวอ้างมาในฟ้องก็รับฟังเช่นนั้นไม่ได้(จึงลงโทษจำเลยตาม ม.256ไม่ได้จำเลยควรมีความผิดตามมาตรา 254 เท่านั้น)
แต่ในขณะที่โจทก์ฟ้องนั้นเองนับทั้งวันเกิดเหตุได้เพียง 16 วันเท่านั้นเมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบให้ฟังได้ว่าเมื่อเกินกว่า 20 วันไปแล้วผู้เสียหายก็ยังคงทุพพลภาพด้วยทุกขเวทนากล้าหรือไม่สามารถประกอบการเลี้ยงชีพตามปกติได้กลับได้ความว่าในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องนั้นเองผู้เสียหายก็ได้มายื่นคำร้องต่อศาลได้ฉะนั้นผู้เสียหายอาจจะหายก่อนกำหนดเวลาที่กฎหมาย กำหนดไว้ก็ได้ ดังนี้แม้จำเลยจะรับตามฟ้องของโจทก์ก็ตามแต่ขณะโจทก์ฟ้องข้อเท็จจริงเท่าที่โจทก์กล่าวอ้างมาในฟ้องก็รับฟังเช่นนั้นไม่ได้(จึงลงโทษจำเลยตาม ม.256ไม่ได้จำเลยควรมีความผิดตามมาตรา 254 เท่านั้น)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษกระทงความผิดฐานทำร้ายร่างกายหลายคน: การพิจารณาต่างกรรมต่างวาระและการบังคับใช้ตามฟ้อง
ในคดีที่จำเลยหลายคนสมคบกันทำร้ายผู้เสียหายหลายคนโจทก์บรรยายฟ้องว่า 'จำเลยต่างมีมีดเป็นอาวุธสมคบกันฟันและแทงทำร้ายร่างกายนายสอาดกับนายใจถึงบาดเจ็บสาหัสทุพพลภาพฯ'ในฟ้องมิได้กล่าวว่าการกระทำของจำเลยเป็นกิจจะลักษณะต่างกรรมต่างวาระและโจทก์ก็มิได้นำสืบว่าการกระทำร้ายได้เกิดขึ้นในลักษณะอย่างไรทั้งคำขอท้ายฟ้องโจทก์มิได้อ้าง มาตรา71 ให้เรียงกระทงลงโทษ เพียงเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกระทง