พบผลลัพธ์ทั้งหมด 243 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782-783/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยวิธีการอื่นแทนเงิน และผลของการไม่คืนสัญญาหลังชำระหนี้แล้ว
หนี้การกู้ยืมเงินนั้น ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระเงิน หนี้นั้นก็เป็นอันระงับไปตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 321
ผู้ให้กู้ยอมรับเอาข้าวจำนวนหนึ่งเป็นการชำระหนี้เงินกู้ แล้วบิดพลิ้วไม่คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันให้ผู้กู้ ดังนี้ ผู้ค้ำประกันมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลบังคับผู้ให้กู้คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันได้ และศาลรับฟังคำพยานบุคคลที่ลูกหนี้นำสืบได้
ผู้ให้กู้ยอมรับเอาข้าวจำนวนหนึ่งเป็นการชำระหนี้เงินกู้ แล้วบิดพลิ้วไม่คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันให้ผู้กู้ ดังนี้ ผู้ค้ำประกันมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลบังคับผู้ให้กู้คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันได้ และศาลรับฟังคำพยานบุคคลที่ลูกหนี้นำสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินให้สหกรณ์เพื่อประโยชน์สมาชิก และสิทธิในการเรียกคืนที่ดิน
โอนที่ดินของตนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสหกรณ์ เพื่อให้สมาชิกของสหกรณ์ผู้หนึ่งกู้เงินของสหกรณ์ได้ ดังนี้ภายหลังตนจะให้สหกรณ์คืนที่ดินแก่ตนไม่ได้ แม้จะได้ชำระหนี้ที่สมาชิกผู้นั้นกู้มาจากสหกรณ์แล้วก็ดีในเมื่อข้อบังคับของสหกรณ์ หรือตามเจตนาของคู่สัญญาไม่ปรากฏว่าให้ผู้โอนเอาที่กลับคืนได้ดังนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินให้สหกรณ์เพื่อค้ำประกันหนี้ การเรียกคืนที่ดินต้องเป็นไปตามข้อบังคับสหกรณ์และสมาชิกภาพ
โอนที่ดินของตนให้เป็นกรรมสิทธิของสหกรณ์ เพื่อให้สมาชิกของสหกรณ์ผู้หนึ่งกู้เงินของสหกรณ์ได้ ดังนี้ภายหลังตนจะให้สหกรณ์คืนที่ดินแก่ตนไม่ได้ แม้จะได้ชำระหนี้ที่สมาชิกผู้นั้นกู้มาจากสหกรณ์แล้วก็ดี ในเมื่อข้อบังคับของสหกรณ์ หรือตามเจตนาของคู่สัญญาไม่ปรากฎว่าให้ผู้โอนเอาที่กลับคืนได้ดังนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานเพิ่มเติมแก้ไขข้อความในสัญญา แม้ไม่ใช่ผู้ทำสัญญา ก็ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
เอกสารสัญญากู้มีข้อความชัดแล้วว่า จำเลยได้ยืมเงินโจทก์ไปจริงและจำเลยได้ลงลายมือชื่อให้ไว้เป็นหลักฐานจำเลยจะขอสืบพยานว่าความจริงเป็นเงินหุ้นลงส่วนกันมิใช่เงินกู้ดังนี้เป็นการสืบเพิ่มเติมแก้ไขต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 หาได้มุ่งหมายห้ามเฉพาะแต่ฝ่ายผู้อ้างเอกสารเท่านั้นที่จะสืบเพิ่มเติมแก้ไขแม้ฝ่ายที่ไม่ได้นำหรืออ้างเอกสารมาก็อยู่ในบทบังคับแห่งมาตรานี้ดุจกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1697/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้เงินที่มีข้อตกลงให้ใช้พื้นที่ค้าขายไม่ถือเป็นการอาศัย แต่เป็นสัญญาต่างตอบแทนที่คุ้มครองจำเลย
ทำสัญญากู้เงินกัน ผู้กู้ยอมให้ผู้ให้กู้เข้ามาทำการค้าขายในร้าน ซึ่งผู้กู้ได้เช่าอยู่ก่อนนั้นตลอดไปหรือจนกว่าผู้ให้กู้จะออกไป และเมื่อผู้ให้กู้ไปจากร้านนี้เมื่อใด ผู้กู้จะส่งเงินที่กู้ไปให้แก่ผู้ให้กู้ครบจำนวนที่กู้ทันที ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทน ตราบใดที่สัญญานี้ยังไม่เลิก และผู้ให้กู้ไม่ได้ทำผิดสัญญาแล้ว ผู้กู้ก็ไม่มีเหตุอะไรจะฟ้องขับไล่ผู้ให้กู้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1697/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าช่วงโดยมีข้อตกลงการกู้ยืมเงินเป็นส่วนหนึ่ง สิทธิในการอยู่อาศัยย่อมมีผลผูกพันตราบเท่าที่สัญญายังมีผลบังคับใช้
ทำสัญญากู้เงินกัน ผู้กู้ยอมให้ผู้ให้กู้เข้ามาทำการค้าขายในร้าน ซึ่งผู้กู้ได้เช่าอยู่ก่อนนั้นตลอดไป หรือจนกว่าผู้ให้กู้จะออกไปและเมื่อผู้ให้กู้ไปจากร้านนี้เมื่อใด ผู้กู้จะส่งเงินที่กู้ไปให้แก่ผู้ให้กู้ครบจำนวนที่กู้ทันที ดังนี้ถือได้ว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทน ตราบใดที่สัญญานี้ยังไม่เลิกและผู้ให้กู้ไม่ได้ทำผิดสัญญาแล้ว ผู้กู้ไม่มีเหตุอะไรจะฟ้องขับไล่ผู้ให้กู้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเงินกู้ที่มีข้อตกลงโอนที่ดินเมื่อผิดนัดชำระ เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656
สัญญากู้เงินมีใจความว่ากู้เงินไปจำนวนหนึ่ง สัญญาจะใช้คืนภายในกำหนด และมีข้อความว่า ผู้กู้ได้นำนาแปลงหนึ่งมาให้ผู้กู้ยึดถือไว้เป็นประกันโดยมีบันทึกว่า "นารายนี้ข้าพเจ้าไม่นำต้นเงินและดอกเบี้ยมาให้ท่านตามสัญญานี้ ข้าพเจ้าขอยอมโอนที่นารายนี้ให้แก่ท่านเป็นกรรมสิทธิ์" ดังนี้ ถือว่าเป็นสัญญากู้หนี้ธรรมดาไม่ใช่สัญญาจะซื้อขายที่นา ฉะนั้นจึงต้องบังคับตามกฎหมายว่าด้วยยืมใช้สิ้นเปลือง คือตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 650 เมื่อตกลงกันล่วงหน้าว่า ถ้าไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดยอมโอนที่นาให้เป็นกรรมสิทธิ์ จึงเป็นการเอาทรัพย์สินอย่างอื่นชำระหนี้แทนเงินกันทีเดียวโดยมิได้คำนึงถึงราคานาเสียเลยจึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 656 วรรคสองและตกเป็นโมฆะตามวรรคสาม ผู้ให้กู้จึงไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้บังคับผู้กู้โอนที่นาให้แก่ตนตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเอาทรัพย์สินชำระหนี้แทนเงินโมฆะ: สัญญากู้ที่ระบุโอนที่นาหากไม่ชำระหนี้
สัญญากู้เงินมีใจความว่ากู้เงินไปจำนวนหนึ่ง สัญญาจะใช้คืนภายในกำหนดและมีข้อความว่าผู้กู้ได้นำนาแปลงหนึ่งมาให้ผู้กู้ยึดถือไว้เป็นปะกันโดยมีบันทึกว่า "นายรายนี้ข้าพเจ้าไม่นำต้นเงินและดอกเบี้ยมาให้ท่านตามสัญญานี้ ข้าพเจ้าขอยอมโอนที่นารายนี้ให้แก่ท่านเป็นกรรมนสิทธิ" ดังนี้ถือว่าเป็นสัญญากู้หนี้ธรรมดาไม่ใช่สัญญาจะซื้อขายที่นาฉะนั้นจึงต้องบังคับตาม ก.ม.ว่าด้วยการยืมใช้สิ้นเปลือง คือ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 650 เมื่อตกลงกันล่วงหน้าว่าถ้าไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดยอมโอนที่นาให้เป็นกรรมสิทธิจึงเป็นการเอาทรัพย์สินอย่าง อื่นชำระหนี้แทนเงินกันทีเดียวโดยมิได้คำนึงถึงราคาเสียเลย จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 656 วรรค 2 และตกเป็นโมฆะตาม วรรค 3 ผู้ให้กู้จึงไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้บังคับผู้กู้โอนที่นาให้แก่ตนตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1396/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกเงินกู้ยืมที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ การฟ้องเรียกคืนทำไม่ได้หากเกิน 50 บาท
ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์กล่าว+ได้ให้จำเลยไปทำทุน ตาม+ดังนี้เป็นเรื่องให้ยืมเงินไปคราวเดียว 393 บาท โดยไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้ ผู้ให้ยืมฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้คืนไม่ได้เลย ไม่เฉพาะแต่ที่เกิน 50 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1396/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกเงินที่ให้ยืมโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ เมื่อจำเลยปฏิเสธ ย่อมไม่สามารถบังคับให้ชำระหนี้ได้
ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์กล่าวว่าได้ให้จำเลยไปทำทุนตามฟ้อง ดังนี้เป็นเรื่องให้ยืมเงินไปคราวเดียว 393 บาท โดยไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้ ผู้ให้ยืมฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้คืนไม่ได้เลยไม่เฉพาะแต่ที่เกิน 50 บาท