พบผลลัพธ์ทั้งหมด 243 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดความรับผิดของผู้กู้ ห้างหุ้นส่วนสามัญก่อนจดทะเบียน ทรัพย์สินส่วนตัวแยกจากนิติบุคคล
ผู้เป็นหุ้นส่วนห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียนกู้เงินเขามา แม้เขียนในสัญญากู้ว่า "เอาสิทธิหุ้นส่วนของบริษัทพักตรพริ้งซึ่งผู้กู้มีสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่ง" มาเป็นหลักทรัพย์ประกันก็ดี เงินที่กู้มาก็ย่อมเป็นกรรมสิทธิของผู้กู้โดยส่วนตัว การที่พูดว่าเอาสิทธิหรือหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนมาเป็นประกันเงินกู้ในสัญญากู้ที่ทำกันเองนั้น หาก่อให้เกิดเป็นการจำนำหรือบุริมสิทธิในอันที่จะติดตามไปบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของนิติบุคคล ซึ่งเกิดมาภายหลังนั้นไม่เมื่อผู้กู้ไม่ชำระเงินจนถูกผู้ให้กู้ฟ้องศาล ๆ บังคับให้ชำระแล้ว ผู้ให้กู้จะไปยึดทรัพยืสินของห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในภายหลังนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินโดยใช้สิทธิหุ้นส่วนเป็นหลักประกันก่อนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนไม่ใช่ผู้ค้ำประกัน
ผู้เป็นหุ้นส่วนห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียนกู้เงินเขามาแม้เขียนในสัญญากู้ว่า "เอาสิทธิหุ้นส่วนของบริษัทพักตรพริ้งซึ่งผู้กู้มีสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่ง" มาเป็นหลักทรัพย์ประกันก็ดี เงินที่กู้มาก็ย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้กู้โดยส่วนตัว การที่พูดว่าเอาสิทธิหรือหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนมาเป็นประกันเงินกู้ในสัญญากู้ที่ทำกันเองนั้น หาก่อให้เกิดเป็นการจำนำหรือบุริมสิทธิในอันที่จะติดตามไปบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของนิติบุคคล ซึ่งเกิดมาภายหลังนั้นไม่ เมื่อผู้กู้ไม่ชำระเงินจนถูกผู้ให้กู้ฟ้องศาล ศาลบังคับให้ชำระแล้วผู้ให้กู้จะไปยึดทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วน ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในภายหลังนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้สมบูรณ์ แม้ผู้กู้ต่อสู้ว่าไม่ได้รับเงิน การนำสืบแก้ไขข้อความในสัญญาต้องห้าม
สัญญากู้มีข้อความว่า "ข้าพเจ้าได้กู้เงินของท่านไปจำนวน 2,500 บาท และได้รับเงินไปเสร็จแล้ว แต่ในวันทำสัญญานี้" ดังนี้ผู้กู้จะขอนำสืบว่าไม่ได้รับเงิน ก็เท่ากับเป็นการนำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงต้องห้าม ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94 วรรคต้น(ข)
จำเลยต่อสู้ว่า เหตุที่ทำสัญญากู้นี้ขึ้น ก็เนื่องจากโจทก์ออกเงินซื้อเป็ดให้จำเลยเลี้ยง จกลงแบ่งผลประโยชน์กัน ตีราคาเป็ดเท่าจำนวนเงินที่ลงไว้ในสัญญากู้ เพื่อป้องกันมิให้จำเลยฉ้อโกง จึงให้ทำสัญญากู้ไว้ ดังนี้เป็นเรื่องจำเลยยอมตนเข้าผูกพันตามสัญญากู้โดยสมัครใจ เนื่องจากมีมูลหนี้ต่อกันมาก่อนแล้ว สัญญากู้นั้นจึงสมบูรณ์
จำเลยต่อสู้ว่า เหตุที่ทำสัญญากู้นี้ขึ้น ก็เนื่องจากโจทก์ออกเงินซื้อเป็ดให้จำเลยเลี้ยง จกลงแบ่งผลประโยชน์กัน ตีราคาเป็ดเท่าจำนวนเงินที่ลงไว้ในสัญญากู้ เพื่อป้องกันมิให้จำเลยฉ้อโกง จึงให้ทำสัญญากู้ไว้ ดังนี้เป็นเรื่องจำเลยยอมตนเข้าผูกพันตามสัญญากู้โดยสมัครใจ เนื่องจากมีมูลหนี้ต่อกันมาก่อนแล้ว สัญญากู้นั้นจึงสมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้เงิน: การนำสืบเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเดิม และหลักฐานการชำระหนี้
สัญญากู้มีข้อความว่า 'ข้าพเจ้าได้กู้เงินของท่านไปจำนวน 2500 บาทและได้รับเงินนี้ไปเสร็จแล้วแต่ในวันทำสัญญานี้' ดังนี้ ผู้กู้จะขอนำสืบว่าไม่ได้รับเงิน ก็เท่ากับเป็นการนำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคต้น(ข)
จำเลยต่อสู้ว่า เหตุที่ทำสัญญากู้นี้ขึ้น ก็เนื่องจากโจทก์ออกเงินซื้อเป็ดให้จำเลยเลี้ยง ตกลงแบ่งผลประโยชน์กัน ตีราคาเป็ดเท่าจำนวนเงินที่ลงไว้ในสัญญากู้ เพื่อป้องกันมิให้จำเลยฉ้อโกง จึงให้ทำสัญญากู้ไว้ ดังนี้เป็นเรื่องจำเลยยอมตนเข้าผูกพันตามสัญญากู้โดยสมัครใจเนื่องจากมีมูลหนี้ต่อกันมาก่อนแล้ว สัญญากู้นั้นจึงสมบูรณ์
จำเลยต่อสู้ว่า เหตุที่ทำสัญญากู้นี้ขึ้น ก็เนื่องจากโจทก์ออกเงินซื้อเป็ดให้จำเลยเลี้ยง ตกลงแบ่งผลประโยชน์กัน ตีราคาเป็ดเท่าจำนวนเงินที่ลงไว้ในสัญญากู้ เพื่อป้องกันมิให้จำเลยฉ้อโกง จึงให้ทำสัญญากู้ไว้ ดังนี้เป็นเรื่องจำเลยยอมตนเข้าผูกพันตามสัญญากู้โดยสมัครใจเนื่องจากมีมูลหนี้ต่อกันมาก่อนแล้ว สัญญากู้นั้นจึงสมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ แม้ไม่มีหน้าที่โดยตรง แต่ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ ยักยอกเงินทดรองราชการ
การที่จำเลยซึ่งเป็นนายทหารอากาศชั้นสัญญาบัตรประจำการมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการสโมสรทหารอากาศอันเป็นหน่วยราชการ ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการทหารอากาศให้มีหน้าที่รับเงินทดรองใช้จ่ายทางราชการมาจัดซื้อข้าวสารมาจำหน่ายแก่ข้าราชการกองทัพอากาศ ขายได้แล้วให้นำเงินส่งคืนแก่ทางราชการ เมื่อจำเลยทุจริตยักยอกเอาเงินนั้นไป จำเลยย่อมมีผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131
เงินที่ทางราชการมอบให้จำเลยทดลองใช้โดยเฉพาะที่ให้จำเลยทำจะเรียกว่ายืมหรืออะไรก็ตาม จำเลยไม่มีอำนาจเอาไปใช้การอื่น
เงินที่ทางราชการมอบให้จำเลยทดลองใช้โดยเฉพาะที่ให้จำเลยทำจะเรียกว่ายืมหรืออะไรก็ตาม จำเลยไม่มีอำนาจเอาไปใช้การอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานทุจริต – เงินทดรองใช้ราชการ – อำนาจหน้าที่ – การปฏิบัติตามคำสั่ง
การที่จำเลยซึ่งเป็นนายทหารอากาศชั้นสัญญาบัตรประจำการมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการสโมสรทหารอากาศอันเป็นหน่วยราชการ ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการทหารอากาศให้มีหน้าที่รับเงินทดรองใช้จ่ายทางราชการมาจัดซื้อข้าวสารมาจำหน่ายแก่ข้าราชการกองทัพอากาศ ขายได้แล้วให้นำเงินส่งแก่ทางราชการ เมื่อจำเลยทุจริตยักยอกเอาเงินนั้นไป จำเลยย่อมมีผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ตาม ก.ม.อาญา ม.131
เงินที่ทางราชการมอบให้จำเลยทดลองใช้โดยเฉพาะที่ให้จำเลยทำจะเรียกว่ายืมหรืออะไรก็ตาม จำเลยไม่มีอำนาจเอาไปใช้การอื่น
เงินที่ทางราชการมอบให้จำเลยทดลองใช้โดยเฉพาะที่ให้จำเลยทำจะเรียกว่ายืมหรืออะไรก็ตาม จำเลยไม่มีอำนาจเอาไปใช้การอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 971/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์ในคดีทรัพย์สิน: ผู้กล่าวอ้างกรรมสิทธิ์มีหน้าที่พิสูจน์ก่อน
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยยืมเสาไป จำเลยปฏิเสธว่ามิได้ยืมแม้จะอ้างว่าซื้อไป ก็เป็นการโต้เถียงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ตนเป็นผู้ครอบครองอยู่จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะสืบก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเอาทรัพย์สินชำระหนี้โมฆะเมื่อไม่มีทางจดทะเบียนได้ ทำให้จำเลยไม่มีสิทธิในที่ดิน
โจทก์ทำสัญญากู้ยืมเงินและที่ดินให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยและตอนท้ายแห่งสัญญามีข้อความว่า ถ้าพ้น 2 เดือนไม่นำเงินมาชำระ ยอมให้ที่เป็นสิทธินั้น เป็นลักษณะแห่งการให้เอาทรัพย์สินชำระหนี้เงินกู้ ตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 656 ข้อสัญญานี้ย่อมเป็นโมฆะตามมาตรา 656 วรรค 3 เมื่อปรากฎว่า ที่พิพาทไม่มีโฉนดก็ไม่มีทางจะไปจดทะเบียน จำเลยไม่มีสิทธิจะยึดที่ดินของโจทก์ไว้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาให้เอาทรัพย์สินชำระหนี้ที่เป็นโมฆะ สิทธิในที่ดินกลับคืนแก่เจ้าของเดิม
โจทก์ทำสัญญากู้ยืมเงินและที่ดินให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยและตอนท้ายแห่งสัญญามีข้อความว่า ถ้าพ้น 2 เดือนไม่นำเงินมาชำระยอมให้ที่เป็นสิทธินั้นเป็นลักษณะแห่งการให้เอาทรัพย์สินชำระหนี้เงินกู้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 ข้อสัญญานี้ย่อมเป็นโมฆะตามมาตรา 656 วรรคสาม เมื่อปรากฏว่า ที่พิพาทไม่มีโฉนดก็ไม่มีทางจะไปจดทะเบียน จำเลยไม่มีสิทธิจะยึดที่ดินของโจทก์ไว้ได้ (อ้างฎีกาที่1237/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเอาทรัพย์สินเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาเงินกู้ เงื่อนไขการขาดกันเป็นโมฆะหากไม่มีเจตนาชัดเจน
ทำสัญญากู้เงินแล้วมอบที่ดินให้ยึดถือไว้เป็นประกันในสัญญามีข้อความว่า ถ้า 2 เดือนไม่นำเงินมาให้เป็นอันว่า ที่ดินที่กล่าวข้างบนนี้ขาดกัน เงื่อนไขตอนหลังนี้เป็นลักษณะแห่งการเอาทรัพย์สินเป็นการชำระหนี้แทนเงินที่กู้ยืม ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 ข้อสัญญาย่อมเป็นโมฆะตาม มาตรา 656 วรรคสาม ส่วนที่จะให้แปลสัญญาว่า เมื่อไม่ชำระหนี้ผู้กู้จะโอนที่ดินให้เป็นการชำระหนี้แทนตัวเงินกู้นั้น โจทก์ต้องนำสืบให้เห็นเจตนาของคู่กรณีว่ามีดังนั้น (อ้างฎีกาที่ 1237/2491)