คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1299

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 899 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1422-1423/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอาศัย-การซื้อขายที่ดิน: ผลของการไม่จดทะเบียนสิทธิอาศัย และการเพิกถอนการซื้อขาย
ที่พิพาทเป็นที่ดินมี น.ส.3. เดิมเมื่อ พ.ศ. 2511 บ. เคยฟ้อง ม. แล้วทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดย บ. ยอมรับว่าที่พิพาทเป็นของ ม. และ ม. ยินยอมให้ บ. อาศัยในเรือนของ บ. ที่ปลูกในที่พิพาท และให้ใช้คอกกระบือเดิมในที่พิพาทที่เคยใช้มาแล้วต่อไป ศาลพิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดแต่ บ. ไม่ได้จดทะเบียนสิทธิอาศัยตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ต่อมา พ.ศ. 2516 ม. ขายที่พิพาทให้ ช. โดยทำหนังสือสัญญาซื้อขายและจดทะเบียนแล้วมีคดีพิพาทกันต่อมา 2 คดี คือ คดีแรก ช. เป็นโจทก์ฟ้อง บ. เป็นจำเลยว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทจาก ม. เมื่อ พ.ศ. 2516 จำเลยได้มาปลูกคอกกระบือในที่พิพาทของโจทก์ ขอให้ขับไล่ คดีหลัง บ. เป็นโจทก์ฟ้อง ม. และ ช. ว่า ม. จดทะเบียนขายที่พิพาทให้ ช. โดยไม่มีค่าตอบแทนและไม่สุจริต ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนและให้ ม. จดทะเบียนสิทธิอาศัยให้โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความคดีทั้งสองขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแยกกัน ศาลฎีกามีคำสั่งให้พิจารณาพิพากษารวมกันตามที่คู่ความขอ
ดังนี้ สำหรับคดีแรก การที่จำเลยให้การว่าคอกกระบือนั้นเป็นคอกกระบือเดิมที่ ม. ทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยใช้ต่อไปเท่ากับจำเลยปฏิเสธว่าจำเลยมิได้เข้าปลูกคอกกระบือในที่ดินของโจทก์เมื่อ พ.ศ. 2517 เป็นหน้าที่ของโจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความตามฟ้อง การที่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์จำเลยเสียแล้ววินิจฉัยว่า สิทธิของจำเลยได้มาตามสัญญาประนีประนอมยอมความยังมิได้จดทะเบียนไม่บริบูรณ์พิพากษาให้จำเลยรื้อคอกกระบือออกไป เป็นการงดสืบพยานไม่ชอบ แต่เมื่อคดีหลังได้มีการสืบพยานทั้งสองฝ่ายเสร็จสิ้นกระแสความแล้วศาลฎีกาชอบที่จะ ไม่ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองแล้วให้สืบพยานต่อไป แต่ย่อมนำ พยานหลักฐานในคดีหลังมาวินิจฉัยได้ และเมื่อวินิจฉัยแล้วฟังไม่ได้ว่า จำเลยได้เข้าปลูกคอกกระบือในที่ดินของโจทก์เมื่อ พ.ศ. 2517 ศาลย่อม พิพากษายกฟ้องโจทก์คดีแรกเสีย
สำหรับคดีหลัง เมื่อที่พิพาทยังเป็นของ ม. อยู่ ม. จึงมีสิทธิขายให้ ช. ได้ บ. โจทก์ไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนการโอนขายที่พิพาทระหว่างจำเลยทั้งสอง ทั้งเมื่อ ม. ขายที่พิพาท และมอบการครอบครองให้ ช. ไปแล้วโจทก์ย่อมฟ้องขอให้บังคับ ม. ไปจดทะเบียนสิทธิตามคำพิพากษาตามยอมอีกมิได้ เพราะที่พิพาทไม่ได้เป็นของ ม. แล้วศาลย่อมพิพากษายกฟ้อง คดีหลังด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1290-1291/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าประเด็นทางพิพาท, การครอบครองปรปักษ์, ที่ดินมือเปล่า และการจดทะเบียนภารจำยอม
โจทก์จำเลยท้ากันว่า ถ้าพยานคนหนึ่งเบิกความว่าทางพิพาทมีมาเกิน 10 ปี จำเลยยอมแพ้ถ้าไม่มีทางพิพาทมาก่อนโจทก์ยอมแพ้คำสั่งไม่อนุญาตให้ยกเลิกคำท้าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาพยานเบิกความว่ามีทางมา 20 ปี จำเลยต้องแพ้ข้อที่ว่าจำเลยครอบครองมากว่า 10 ปีไม่มีประเด็นในคำท้า แต่เป็นที่ดิน ส.ค.1 โอนทางทะเบียนไม่ได้ศาลไม่พิพากษาให้จดทะเบียนภารจำยอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069-1070/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการยกข้อต่อสู้กรรมสิทธิ์ของผู้รับมรดก
โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินมาโดยการรับมรดกต้องรับไปทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ โจทก์จึงไม่ใช่บุคคลภายนอกผู้ได้กรรมสิทธิ์มาโดยเสียค่าตอบแทนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 จำเลยจึงยกกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทอันได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ แม้จำเลยจะยังมิได้จดทะเบียนการได้มาก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดิน: การโอนตามคำพิพากษา vs. ครอบครองปรปักษ์ที่ยังไม่ได้จดทะเบียน
โจทก์ได้กรรมสิทธิที่พิพาทโดยจดทะเบียนโอนตามคำพิพากษาแล้ว จำเลยอ้างว่าได้ครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์ แต่ไม่ได้จดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยจึงไม่อาจใช้สิทธิดังกล่าวเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์ซึ่งได้ที่พิพาทโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับซื้อฝากจากผู้ไม่มีสิทธิและผลของการทำนิติกรรมจากพินัยกรรมปลอม
จำเลยที่ 1 นำพินัยกรรมปลอมไปจดทะเบียนรับมรดกที่ดิน เฉพาะส่วนของเจ้ามรดกมาเป็นของตนโดยทุจริต จำเลยที่ 1 ย่อมไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนนั้น และไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินนั้นได้ จำเลยที่ 2 รับซื้อฝากที่ดินดังกล่าวจากจำเลยที่ 1 แม้จะพ้นกำหนดเวลาไถ่ถอนการขายฝากแล้ว จำเลยที่ 2 ก้ไม่ได้กรรมสิทธิ์และจะยกเหตุที่กระทำโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนขึ้นอ้างหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมปลอมและผลกระทบต่อการซื้อขายฝาก: ผู้ซื้อฝากไม่ได้รับกรรมสิทธิ์แม้สุจริตและเสียค่าตอบแทน
จำเลยที่ 1 นำพินัยกรรมปลอมไปจดทะเบียนรับมรดกที่ดินเฉพาะส่วนของเจ้ามรดกมาเป็นของตนโดยทุจริตจำเลยที่ 1ย่อมไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนนั้นและไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินนั้นได้จำเลยที่2 รับซื้อฝากที่ดินดังกล่าวจากจำเลยที่ 1แม้จะพ้นกำหนดเวลาไถ่ถอนการขายฝากแล้วจำเลยที่ 2 ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์และจะยกเหตุที่กระทำโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนขึ้นอ้างหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแลกเปลี่ยนที่ดินก่อนได้รับมรดก และการสละสิทธิครอบครองหลังได้รับมรดก
โจทก์ตกลงแลกเปลี่ยนที่พิพาทกับที่ดินของจำเลย ขณะตกลงแลกเปลี่ยนโจทก์ยังไม่มีสิทธิในที่พิพาท และที่พิพาทเป็นทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมที่บิดายกให้โจทก์ ข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่มีผลเป็นการแลกเปลี่ยน ทั้งเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนมรดกก่อนเจ้ามรดกตาย ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619 แต่ภายหลังที่บิดาตายแล้วจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทเป็นของตนตลอดมาโดยโจทก์ไม่เกี่ยวข้อง ย่อมเป็นปริยายว่าโจทก์สละสิทธิครอบครองที่พิพาทให้แก่จำเลยภายหลังที่ที่พิพาทตกเป็นของโจทก์แล้ว โดยมีเจตนาแลกเปลี่ยนที่ดินกันดังเดิม จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครองที่พิพาท โจทก์ต้องไปจดทะเบียนการโอนที่พิพาทให้จำเลย และจำเลยต้องไปจดทะเบียนโอนที่นาของตนที่แลกเปลี่ยนกับที่พิพาทให้โจทก์
ศาลล่างพิพากษาบังคับโจทก์โดยไม่บังคับจำเลยให้โอนที่ดินให้โจทก์ตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 แม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ให้ถูกต้องได้เพราะเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาต่างตอบแทน (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 2430/2516)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแลกเปลี่ยนที่ดินก่อนได้รับมรดก & การสละสิทธิครอบครองหลังได้รับมรดก ศาลแก้ไขคำพิพากษาให้ถูกต้อง
โจทก์ตกลงแลกเปลี่ยนที่พิพาทกับที่ดินของจำเลย ขณะตกลงแลกเปลี่ยนโจทก์ยังไม่มีสิทธิในที่พิพาท และที่พิพาทเป็นทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมที่บิดายกให้โจทก์ ข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่มีผลเป็นการแลกเปลี่ยน ทั้งเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนมรดกก่อนเจ้ามรดกตาย ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619 แต่ภายหลังที่บิดาตายแล้วจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทเป็นของตนตลอดมาโดยโจทก์ไม่เกี่ยวข้อง ย่อมเป็นปริยายว่าโจทก์สละสิทธิครอบครองที่พิพาทให้แก่จำเลยภายหลังที่ที่พิพาทตกเป็นของโจทก์แล้ว โดยมีเจตนาแลกเปลี่ยนที่ดินกันดังเดิม จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครองที่พิพาท โจทก์ต้องไปจดทะเบียนการโอนที่พิพาทให้จำเลย และจำเลยต้องไปจดทะเบียนโอนที่นาของตนที่แลกเปลี่ยนกับที่พิพาทให้โจทก์
ศาลล่างพิพากษาบังคับโจทก์โดยไม่บังคับจำเลยให้โอนที่ดินให้โจทก์ตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 แม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ให้ถูกต้องได้ เพราะเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาต่างตอบแทน (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 2430/2516)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมย่อมมีอยู่แม้จำเลยซื้อที่ดินโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิ โดยไม่ทราบถึงภารจำยอม
โจทก์ใช้ทางผ่านที่ดินจำเลยมากว่า 10 ปี ได้ภารจำยอมจำเลยอ้างว่าจดทะเบียนซื้อที่ดินมาโดยสุจริตไม่ทราบว่ามีทางภารจำยอมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2652/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินจากการซื้อขายจะซื้อขาย และอำนาจฟ้องร้องกรณีบุกรุก
ที่ดิน น.ส.3 เจ้าของทำสัญญาขายให้ผู้ซื้อโดยทำหนังสือสัญญากันเอง ได้มีการชำระราคากันบางส่วน ที่เหลือจะชำระหมดในวันจดทะเบียนการโอน แม้จะมีข้อตกลงว่าให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองได้ในระหว่างยังไม่ได้โอนที่พิพาทนั้นก็ตาม ก็เป็นเพียงสัญญาจะซื้อขายและเป็นการมอบที่ดินให้เข้าครอบครองแทนกันไปก่อน สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับเจ้าของ เจ้าของจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์เมื่อมีผู้บุกรุกที่ดินดังกล่าวได้
of 90