พบผลลัพธ์ทั้งหมด 899 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการเริ่มนับอายุความ เมื่อเจ้าของเดิมไม่รู้การจดทะเบียนโอนขาย
ผู้ครอบครองที่ดินไม่รู้ว่าผู้อื่นเอาที่ที่ตนครอบครองไปจดทะเบียนโอนขายให้ผู้อื่นโดยไม่สุจริต แต่ได้ฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่วันรู้และจากถูกแย่งการครอบครอง ดังนี้แม้การโอนนั้นจะเกิน 1 ปีก็ไม่เกินกำหนดตาม ม.1375
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินด้วยหนังสือมอบฉันทะปลอม ผู้รับโอนไม่ได้รับสิทธิ
ผู้รับโอนที่ดินและจดทะเบียนการโอน โดยมีหนังสือมอบฉันทะ ซึ่งอ้างว่าเป็นของผู้โอนนั้นปลอม ไม่ถือว่า เป็นการโอนโดยสุจริต ผู้รับโอนไม่ได้สิทธิ ศาลสั่งเพิกถอนการโอนนั้นได้
ใบมอบฉันทะ ซึ่งแม้เดิมผู้มอบจะได้ลงชื่อทำขึ้นจริง แต่หากต่อมาผู้รับโอนอีกคนหนึ่งไปใส่ชื่อของตนเป็นผู้รับโอนที่ดินนั้น ภายหลัง และลับหลังผู้มอบทำให้หนังสือนั้นกลายเป็นหนังสือปลอม.
ใบมอบฉันทะ ซึ่งแม้เดิมผู้มอบจะได้ลงชื่อทำขึ้นจริง แต่หากต่อมาผู้รับโอนอีกคนหนึ่งไปใส่ชื่อของตนเป็นผู้รับโอนที่ดินนั้น ภายหลัง และลับหลังผู้มอบทำให้หนังสือนั้นกลายเป็นหนังสือปลอม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินด้วยหนังสือมอบฉันทะปลอม ทำให้การโอนเป็นโมฆะ ผู้รับโอนไม่ได้กรรมสิทธิ์
ผู้รับโอนที่ดินและจดทะเบียนการโอน โดยมีหนังสือมอบฉันทะซึ่งอ้างว่าเป็นของผู้โอนนั้นปลอมไม่ถือว่า เป็นการโอนโดยสุจริตผู้รับโอนไม่ได้สิทธิ ศาลสั่งเพิกถอนการโอนนั้นได้
ใบมอบฉันทะ ซึ่งแม้เดิมผู้มอบจะได้ลงชื่อทำขึ้นจริงแต่หากต่อมาผู้รับโอนอีกคนหนึ่งไปใส่ชื่อของตนเป็นผู้รับโอนที่ดินนั้น ภายหลังและลับหลังผู้มอบทำให้หนังสือนั้นกลายเป็นหนังสือปลอม
ใบมอบฉันทะ ซึ่งแม้เดิมผู้มอบจะได้ลงชื่อทำขึ้นจริงแต่หากต่อมาผู้รับโอนอีกคนหนึ่งไปใส่ชื่อของตนเป็นผู้รับโอนที่ดินนั้น ภายหลังและลับหลังผู้มอบทำให้หนังสือนั้นกลายเป็นหนังสือปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การซื้อขายโดยสุจริต และผลกระทบต่อเจ้าของเดิม
เจ้าของสวนยางร่วมกันคนหนึ่ง ยกส่วนของตนตีใช้หนี้แก่อีกคนหนึ่ง โดยมิได้จดทะเบียน ภายหลังผู้ที่รับตีใช้หนี้โอนขายสวนยาง ผู้ซื้อรับซื้อไว้โดยสุจริต ดังนี้เจ้าของเดิมมาฟ้องเรียกสวนยางคืนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในทรัพย์สินร่วมกันโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผลกระทบต่อผู้ซื้อโดยสุจริต
เจ้าของสวนยางร่วมกันคนหนึ่ง ยกส่วนของตนตีใช้หนี้แก่อีกคนหนึ่ง โดยมิได้จดทะเบียน ภายหลังผู้ที่รับตีใช้หนี้โอนขายสวนยาง ผู้ซื้อรับซื้อไว้โดยสุจริต ดังนี้ เจ้าของเดิมมาฟ้องเรียกสวนยางคืนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยสมยอม ศาลมีอำนาจเพิกถอนได้ แม้ผู้รับโอนอ้างสุจริต
แม้ว่าจำเลยได้โอนกรรมสิทธิที่ดินไปยังผู้ร้องขัดทรัพย์ แต่ปรากฎว่านิติกรรมการโอนนั้นได้ทำโดยสมยอม ศาลมีอำนาจเพิกถอนการโอนได้.
ผู้รับโอนที่พิพาทไว้โดยเป็นการกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
ผู้รับโอนที่พิพาทไว้โดยเป็นการกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเนื่องจากสมยอมกันเพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้
แม้ว่าจำเลยได้โอนกรรมสิทธิที่ดินไปยังผู้ร้องขัดทรัพย์ แต่ปรากฏว่านิติกรรมการโอนนั้นได้ทำโดยสมยอม ศาลมีอำนาจเพิกถอนการโอนได้
ผู้รับโอนที่พิพาทไว้โดยเป็นการกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ผู้รับโอนที่พิพาทไว้โดยเป็นการกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์จากนิติกรรมขายฝากไม่สมบูรณ์: เจตนาคู่กรณีและการแสดงสิทธิของเจ้าของเดิม
ที่พิพาทเดิมเป็นของบิดามารดาโจทก์ ได้เอามาขายฝากโดยทำสัญญากันเองไว้แก่บิดามารดาจำเลย บิดามารดาจำเลยตายแล้วจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทเกิน 10 ปีแล้ว และเมื่อบิดามารดาโจทก์ตายโจทก์ก็มิได้จัดการจดทะเบียนรับมรดกปล่อยให้ฝ่ายจำเลยครอบครองมาเกิน 10 ปี จนจำเลยได้มาร้องต่อศาลให้แสดงกรรมสิทธิ์ว่าเป็นของจำเลย ศาลก็ได้สั่งแสดงกรรมสิทธิ์ไปแล้ว ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าแม้นิติกรรมการขายฝากไม่สมบูรณ์ก็พึงเห็นเจตนาของคู่กรณีได้ว่า บิดามารดาโจทก์มอบที่ดินให้บิดามารดาจำเลยดังเช่นขาย แต่สงวนไว้เพียงสิทธิไถ่ถอน ฉะนั้นจะเรียกว่าบิดามารดาจำเลยยึดถือที่ดินไว้ในฐานผู้แทนผู้ครอบครองตามมาตรา1381 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ยังไม่ได้ กรณีเช่นนี้เรียกได้ว่าบิดามารดาจำเลยเข้าครอบครองเพื่อตนโดยอาศัยการอนุญาตของเจ้าของ จึงมีปัญหาข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาว่าฝ่ายจำเลยได้ครอบครองมาโดยสงบเปิดเผยและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาจนเกิน 10 ปีหรือไม่ การที่จะแสวงหาความจริงข้อนี้ ต้องพิเคราะห์กิริยาอาการของฝ่ายโจทก์ผู้มอบที่ดินให้นั้นด้วยเพราะถ้าเจ้าของเดิมไม่แสดงอาการเป็นเจ้าของเกี่ยวข้องกับที่นั้นเลย สละละทิ้งไปจนเกินเวลาอันสมควรแล้ว ก็พึงเห็นเจตนาของคู่กรณีได้ว่าทั้งสองฝ่ายยินยอมให้ฝ่ายครอบครองทำการครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเพื่อผู้ครอบครองนั้นเองตั้งแต่ต้นมาทั้งนี้ได้เคยมีคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยไว้แล้วว่าทำสัญญากันเองเป็นทำนองขายฝากนั้นเจ้าของเดิมจะมาฟ้องเอาที่คืนโดยอ้างข้อสัญญาที่ให้ไถ่นั้นหาได้ไม่ (ฎีกาที่ 5/2465,352/2492) สำหรับคดีนี้โจทก์จะชนะคดีได้ก็ด้วยการแสดงว่าโจทก์มีสิทธิดีกว่าตามข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น แต่คดีนี้โจทก์อ้างว่าโจทก์ยังคงแสดงสิทธิเป็นเจ้าของอยู่ ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานเสียนั้นยังไม่สมควรจึงต้องพิพากษายก ให้ศาลชั้นต้นดำเนินต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนองที่ดินตามทะเบียน: การทำต่างดอกเบี้ยไม่ทำให้กลายเป็นขายฝาก
นิติกรรมจำนองที่ดินทำขึ้นภายหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 3 ถือเอานิติกรรมที่ปรากฏ ตามทะเบียนเป็นสำคัญ หากจะมีการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องเปลี่ยนทางทะเบียน พฤติการณ์ที่ผู้จำนองให้ผู้รับจำนองทำต่างดอกเบี้ย จึงหาทำให้นิติกรรมกลายเป็นขายฝากไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 973/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทมรดก: สัญญาต่างตอบแทนกับการถือครองที่ดินโดยทายาท ผู้รับมรดกมีหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์
โจทก์ฟ้องว่า ช. บิดาโจทก์จำเลยได้เอาที่ดินเนื้อที่ 19 ไร่เศษมาตีเป็นทองคำหมั้นให้แก่ ข. 6 ไร่ในเวลาที่โจทก์กับ ข. สมรสกัน. และกองทุนให้โจทก์กับข. อีก 4 ไร่ รวมเป็น 10 ไร่. โจทก์กับ ข.มีบุตรคนหนึ่ง. ข. ตาย ที่ 10 ไร่จึงตกได้แก่โจทก์และบุตร. จึงขอให้ศาลแสดงว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่นา 10 ไร่ ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง. ดังนี้ ต้องแปลฟ้องโจทก์ว่า โจทก์มิได้ฟ้องขอให้บังคับจำเลยในฐานะผู้รับมรดก ช.ให้โอนที่ให้แก่โจทก์ตามสัญญาที่ช.ทำไว้กับโจทก์และ ข.. แต่ฟ้องโดยถือว่าที่ตกเป็นของ ข. และโจทก์แล้ว 10 ไร่.