คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 77

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1506/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย การพิจารณาความรุนแรงของบาดแผล และการบังคับชำระค่าปรับ
จำเลยกับพวกร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายชกต่อยผู้เสียหายปรากฏตามรายงาน การตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์เพียงว่า คางข้างขวาบวม ไม่มีเขียว ไม่ช้ำ รักษาหายภายใน 3 วัน เป็นบาดแผลเล็กน้อย ไม่ถึงกับเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสองมิใช่วรรคสี่
การขอให้ศาลปรับผู้ปกครองในกรณีเด็กก่อเหตุร้ายขึ้นภายในเวลาในข้อกำหนดนั้น จะต้องร้องขอในคดีเดิมที่ศาลวางข้อกำหนดไว้ โจทก์จะมาขอในคดีนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1506/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย บาดแผลเล็กน้อยเข้าข่ายวรรคสองมาตรา 339 และการบังคับชำระค่าปรับจากศาล
จำเลยกับพวกร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายชกต่อยผู้เสียหายปรากฏตามรายงานการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์เพียงว่า คางข้างขวาบวม ไม่มีเขียว ไม่ช้ำ รักษาหายภายใน 3 วัน เป็นบาดแผลเล็กน้อย ไม่ถึงกับเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสอง มิใช่วรรคสี่
การขอให้ศาลปรับผู้ปกครองในกรณีเด็กก่อเหตุร้ายขึ้นภายในเวลาในข้อกำหนด นั้น จะต้องร้องขอในคดีเดิมที่ศาลวางข้อกำหนดไว้ โจทก์จะมาขอในคดีนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการไม่บังคับชำระเงินตามข้อกำหนดดูแลเด็กที่กระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 77
จำเลยอายุไม่เกิน 14 ปี กระทำความผิด ศาลได้สั่งให้มอบตัวแก่บิดาจำเลยรับไปดูแล หากจำเลยก่อเหตุร้ายขึ้นภายใน 3 ปี ให้บิดาจำเลยชำระเงินต่อศาลครั้งละ 500บาทต่อมาจำเลยกระทำผิดอีก ศาลจึงสั่งให้ปรับบิดาจำเลยตามข้อกำหนดดังกล่าว และต่อมาจำเลยยังได้กระทำความผิดอีกเป็นครั้งที่สองในเวลากระชั้นชิดกัน สุดความสามารถที่บิดาจะควบคุมดูแลได้กับปรากฏว่าบิดาจำเลยเป็นคนยากจนด้วยเช่นนี้ ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจไม่บังคับให้บิดาจำเลยชำระเงินตามข้อกำหนดสำหรับการก่อเหตุร้ายของจำเลยครั้งที่สองเสียได้
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 77 มิใช่บทบังคับเด็ดขาดว่า ในกรณีที่เด็กก่อเหตุร้ายขึ้นแล้ว ศาลจักต้องบังคับบิดาฯให้ชำระเงินตามข้อกำหนดเสมอไปโดยศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจเพียงให้ชำระเงินน้อยกว่าที่ได้กำหนดไว้เท่านั้น แต่ถ้าศาลเห็นว่ามีเหตุอันสมควรก็อาจไม่บังคับให้ชำระเงินเลยก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 709/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับโทษทางอาญาและผลกระทบเมื่อจำเลยเสียชีวิต: ศาลให้ปรับรวมและจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่เสียชีวิต
การนำของหนีภาษี ศาลให้ปรับจำเลยรวมกัน ไม่ใช่แยกรายตัว
ศาลอุทธรณ์ให้ปรับจำเลยสองคนรวมกันมา เมื่อปรากฏในชั้นฎีกาว่า จำเลยคนหนึ่งตาย ศาลก็ให้จำหน่ายคดีสำหรับคนที่ตาย โดยไม่ต้องแก้โทษสำหรับอีกคนหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ มรณะของจำเลยทำให้สิทธิในการเรียกร้องค่าปรับและแร่ของกลางระงับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ปรับจำเลยและริบแร่ของกลางจำเลยได้ชำระค่าปรับแล้วในระหว่างอุทธรณ์จำเลยตายดังนี้ ผู้จัดการมฤดกของจำเลยหมดความชอบธรรมที่จะร้องขอเงินค่าปรับและแร่ของกลางคืน
(หมายเหตุ เรื่องนี้มารดาจำเลยเคยร้องขอรับมฤดกความครั้งหนึ่งแล้วตามฎีกาที่ 1685/2479)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยถึงแก่ความตายระหว่างการพิจารณาคดี ทำให้คดีสิ้นสุด
จำเลยตายระหว่างพิจารณาคดี จำหน่ายคดีจากสารบบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับคดีอาญาเมื่อจำเลยถึงแก่ความตาย และผลกระทบต่อการริบของกลาง
ในคดีที่ศาลพิพากษาให้ปรับจำเลยตาม พ.ร.บ.จำกัดแร่ดีบุก แลให้ริบแร่ของกลางเสีย ระหว่างอุทธรณ์จำเลยถึงแก่ความตายดังนี้ ถือ+คดีเป็นระงับไป +ของจำเลยจะร้องให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาฉะเพาะเรื่องริบแร่ของกลางไม่ได้ พ.ร.บ.จำกัดแร่ดีบุก พ.ศ.2474 ม.27 การริบแร่หรือไม่ตาม พ.ร.บ.จำกัดแร่ดีบุกนั้นเป็นโทษทางอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับคดีอาญาเมื่อจำเลยยังมีชีวิตอยู่ และมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วในคดีก่อน
ตาม ม.77 แห่งกฎหมายอาญา ศาลจะสั่งระงับคดีในระวางที่จำเลยยังมีชีวิตอยู่ไม่ได้ วิธีพิจารณาความอาญา
จำเลยต้องคำพิพากษาเรื่องก่อนให้ประหารชีวิต แลได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว แต่เมื่อจำเลยยังมีชีวิตอยู่ ศาลจะสั่งระงับคดีเรื่องหลังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับคดีอาญาเมื่อจำเลยไม่ถูกประหารชีวิต แม้มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ตาม ม.77 แห่งกฎหมายอาญา ศาลจะสั่งระงับคดีในระวางที่จำเลยยังมีชีวิตอยู่ไม่ได้ วิธีพิจารณาอาญาจำเลยต้องคำพิพากษาเรื่องก่อนให้ประหารชีวิตแลได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว แต่เมื่อจำเลยยังมีชีวิตอยู่ศาลจะสั่งระงับคดีเรื่องหลังไม่ได้