คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สว่าง ภูวะปัจฉิม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 469 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848-850/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงทุนร่วมทุนกับจำเลย ไม่ถือเป็นการยักยอกทรัพย์ แม้จะไม่ได้คืนเงิน
จำเลยชักชวนผู้เสียหายให้นำเงินมาให้จำเลยนำไปเป็นทุนซื้อข้าวสารมากักตุนไว้ขายให้ตำรวจ และให้ตำรวจกู้และจะแบ่งผลกำไรและดอกเบี้ยให้ผู้เสียหายตกลงด้วย จึงมอบเงินให้ไปดังนี้ เป็นเรื่องการเข้ารวมทุนกันให้จำเลยจัดการหาผลประโยชน์เสมือนหนึ่งเป็นเงินของจำเลยเองกรณีไม่เรียกว่าจำเลยรับมอบครอบครองทรัพย์ผู้เสียหายไว้อันจะเข้าเกณฑ์เป็นความผิดฐานยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงื่อนไขชำระหนี้จากการยืมเงิน: คำรับรองขายที่ดินไม่ใช่เงื่อนไขตามกฎหมาย
หนี้ตามเอกสารหมาย จ.1 มีความที่จำเลยเขียนไว้ว่า'ได้รับยืมเงินคุณพระ (โจทก์)60,000บาท จะใช้คืนทั้งหมดในเมื่อรับเงินขายที่ 24 ไร่ได้ จะคืนคุณพระหมด'หนี้ตามเอกสารหมาย จ.3 มีความว่า'ขอกวนใจช่วยอีก 20,000 บาทเท่ากับให้ผมยืมก่อน และเวลาขายที่นาของผมได้ ผมก็จะอนุญาตให้คุณพระหักไปเลย' ดังนี้ข้อความที่จำเลยเขียนระบุไว้นั้น เป็นเพียงคำปรารภหรือคำกล่าวอ้างของจำเลยในเวลายืมรับรองว่าจะชำระหนี้คืน เมื่อจำเลยขายที่ดินของจำเลยได้ เนื่องจากจำเลยยังมีที่ดินพอจะขายเอาเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ได้เท่านั้นคำรับรองดังกล่าวหาใช่เงื่อนไขในการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา144 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้เงินยืมมีเงื่อนไขชำระเมื่อขายที่ดิน ข้อความในเอกสารเป็นเพียงคำรับรอง ไม่ใช่เงื่อนไขตามกฎหมาย
หนี้ตามเอกสารหมาย จ.1 มีความที่จำเลยเขียนไว้ว่า'ได้รับยืมเงินคุณพระ (โจทก์) 60,000บาท จะใช้คืนทั้งหมดในเมื่อรับเงินขายที่ 24 ไร่ได้ จะคืนคุณพระหมด'หนี้ตามเอกสารหมาย จ.3 มีความว่า'ขอกวนใจช่วยอีก 20,000 บาทเท่ากับให้ผมยืมก่อน และเวลาขายที่นาของผมได้ ผมก็จะอนุญาตให้คุณพระหักไปเลย' ดังนี้ข้อความที่จำเลยเขียนระบุไว้นั้น เป็นเพียงคำปรารภหรือคำกล่าวอ้างของจำเลยในเวลายืมรับรองว่าจะชำระหนี้คืน เมื่อจำเลยขายที่ดินของจำเลยได้ เนื่องจากจำเลยยังมีที่ดินพอจะขายเอาเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ได้เท่านั้น คำรับรองดังกล่าวหาใช่เงื่อนไขในการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา144 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับรองการชำระหนี้เมื่อขายที่ดิน ไม่ใช่เงื่อนไขตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
หนี้ตามเอกสารหมาย จ.1 มีความที่จำเลยเขียนไว้ว่า.'ได้รับยืมเงินคุณพระ (โจทก์)60,000บาท จะใช้คืนทั้งหมดในเมื่อรับเงินขายที่ 24 ไร่ได้ จะคืนคุณพระหมด'.หนี้ตามเอกสารหมาย จ.3 มีความว่า'ขอกวนใจช่วยอีก 20,000 บาทเท่ากับให้ผมยืมก่อน และเวลาขายที่นาของผมได้ ผมก็จะอนุญาตให้คุณพระหักไปเลย'. ดังนี้ข้อความที่จำเลยเขียนระบุไว้นั้น เป็นเพียงคำปรารภหรือคำกล่าวอ้างของจำเลยในเวลายืมรับรองว่าจะชำระหนี้คืน. เมื่อจำเลยขายที่ดินของจำเลยได้ เนื่องจากจำเลยยังมีที่ดินพอจะขายเอาเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ได้เท่านั้น. คำรับรองดังกล่าวหาใช่เงื่อนไขในการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา144 ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความที่ได้พิพากษาตามยอมแล้ว ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วยสัญญาใหม่นอกศาล
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมใช้หนี้ให้โจทก์และศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว ภายหลังจำเลยจะอ้างว่าได้ทำสัญญาประนีประนอมกันใหม่นอกศาลโดยโจทก์ยอมผ่อนเวลาชำระหนี้ให้จำเลย ซึ่งโจทก์ปฏิเสธ เพื่อเป็นเหตุมิให้ศาลดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่ 417/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมนอกศาลใช้ไม่ได้แก้คำพิพากษาตามยอม ศาลต้องบังคับคดีตามเดิม
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมใช้หนี้ให้โจทก์และศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว ภายหลังจำเลยจะอ้างว่าได้ทำสัญญาประนีประนอมกันใหม่นอกศาล โดยโจทก์ยอมผ่อนเวลาชำระหนี้ให้จำเลย ซึ่งโจทก์ปฏิเสธ เพื่อเป็นเหตุมิให้ศาลดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาหาได้ไม่ อ้างฎีกาที่ 417/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันตามคำพิพากษา การอ้างสัญญาใหม่นอกศาลเพื่อหลีกเลี่ยงบังคับคดีเป็นโมฆะ
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมใช้หนี้ให้โจทก์และศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว. ภายหลังจำเลยจะอ้างว่าได้ทำสัญญาประนีประนอมกันใหม่นอกศาล. โดยโจทก์ยอมผ่อนเวลาชำระหนี้ให้จำเลย ซึ่งโจทก์ปฏิเสธ เพื่อเป็นเหตุมิให้ศาลดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาหาได้ไม่. อ้างฎีกาที่ 417/2504).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาถึงที่สุดหลังขาดนัดสืบพยาน โจทก์ขอพิจารณาคดีใหม่ไม่ได้
เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ และว่าโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดของจำเลยตามฟ้องได้จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์โจทก์มิได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงเป็นอันยุติ ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว โจทก์กลับยื่นคำร้องขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ศาลจะยกขึ้นพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ไม่ได้เพราะมิใช่เป็นเรื่องศาลชั้นต้นยกฟ้องเพราะเหตุโจทก์ขาดนัด(อ้างฎีกาที่ 872/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษายกฟ้องเป็นยุติแล้ว โจทก์ขอพิจารณาคดีใหม่มิได้ แม้มีเหตุจำเป็น
เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ และว่าโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดของจำเลยตามฟ้องได้ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์มิได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงเป็นอันยุติ ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว โจทก์กลับยื่นคำร้องขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ศาลจะยกขึ้นพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ไม่ได้ เพราะมิใช่เป็นเรื่องศาลชั้นต้นยกฟ้องเพราะเหตุโจทก์ขาดนัด (อ้างฎีกาที่ 872/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษายกฟ้องเป็นอันยุติแล้ว ไม่สามารถขอพิจารณาคดีใหม่ได้ หากไม่ใช่กรณีขาดนัด
เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ. และว่าโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดของจำเลยตามฟ้องได้. จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์. โจทก์มิได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น. คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงเป็นอันยุติ. ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว โจทก์กลับยื่นคำร้องขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่. ศาลจะยกขึ้นพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ไม่ได้. เพราะมิใช่เป็นเรื่องศาลชั้นต้นยกฟ้องเพราะเหตุโจทก์ขาดนัด.(อ้างฎีกาที่ 872/2492).
of 47