คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สว่าง ภูวะปัจฉิม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 469 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทจากการใช้ปืนที่ไม่ปลอดภัยเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
อย่างไรจึงถือว่ากระทำโดยประมาท
อาวุธปืนของจำเลยเป็นปืนแก๊ปชนิดทำขึ้นเองที่ไม่มีความมั่นคงแข็งแรง จำเลยได้บรรจุแก๊ปดินปืน กระสุนปืน ทั้งยังได้ขึ้นไกปืนไว้อีกด้วย การที่จำเลยนำปืนแก๊ปที่ไม่ปลอดภัยดังกล่าวนี้ไปพิงไว้ที่ฝาห้องใกล้ประตูเข้าออกย่อมเห็นได้ว่าเสี่ยงต่ออันตรายที่ไกปืนซึ่งขึ้นไว้ หากถูกกระเทือนเข้ากระสุนปืนที่จำเลยบรรจุไว้ก็จะลั่นออกไปอย่างนี้ จึงหาใช่วิสัยของปกติชนจะพึงกระทำไม่ ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำโดยประมาท ต่อมาจำเลยได้ปิดประตูห้องโดยแรง ปืนที่พิงอยู่ได้ล้มกระแทกพื้น ทำให้ปืนลั่น กระสุนจึงถูกผู้เสียหายซึ่งอยู่ใกล้เคียงบริเวณนั้นได้รับอันตรายสาหัส ดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทจากการใช้ปืนที่ไม่ปลอดภัยทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
อย่างไรจึงถือว่ากระทำโดยประมาท
อาวุธปืนของจำเลยเป็นปืนแก๊ปชนิดทำขึ้นเอง ที่ไม่มีความมั่นคงแข็งแรงจำเลยได้บรรจุแก๊ปดินปืนกระสุนปืนทั้งยังได้ขึ้นไกปืนไว้อีกด้วย การที่จำเลยนำปืนแก๊ปที่ไม่ปลอดภัยดังกล่าวนี้ไปพิงไว้ที่ฝาห้องใกล้ประตูเข้าออกย่อมเห็นได้ว่าเสี่ยงต่ออันตรายที่ไกปืนที่ซึ่งขึ้นไว้ หากถูกกระเทือนเข้ากระสุนปืนที่จำเลยบรรจุไว้ก็จะลั่นออกไปอย่างนี้ จึงหาใช่วิสัยของปกติชนจะพึงกระทำไม่ ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำโดยประมาท ต่อมาจำเลยได้ปิดประตูห้องโดยแรง ปืนที่พิงอยู่ได้ล้มกระแทกพื้นทำให้ปืนลั่น กระสุนจึงถูกผู้เสียหายซึ่งอยู่ใกล้เคียงบริเวณนั้นได้รับอันตรายสาหัส ดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โมฆะภาพหนังสือมอบอำนาจและสัญญาให้ที่ดิน: สภาพจิตของผู้มอบอำนาจสำคัญกว่าการอ้างว่าเป็นมรดกของบิดา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ที่พิพาทเป็นมรดกของมารดา ขอให้ศาลสั่งทำลายหนังสือมอบอำนาจและเพิกถอนนิติกรรมสัญญาให้ที่พิพาทซึ่งทำตามหนังสือมอบอำนาจ เพราะหนังสือมอบอำนาจเป็นโมฆะ เนื่องจากมารดาพิมพ์ลายนิ้วมือขณะที่มีสติฟั่นเฟือนไม่รู้สึกผิดชอบ ดังนี้ โจทก์จะฎีกาว่าที่พิพาทเป็นมรดกของบิดา มารดาไม่มีสิทธิ์ยกที่พิพาทส่วนที่เป็นมรดกของบิดานั้นหาได้ไม่ เพราะเป็นฎีกานอกประเด็นจากที่กล่าวในฟ้อง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจและยกที่ดิน: ประเด็นความสามารถในการทำนิติกรรมของผู้มอบอำนาจและขอบเขตการฟ้องร้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ที่พิพาทเป็นมรดกของมารดา ขอให้ศาลสั่งทำลายหนังสือมอบอำนาจและเพิกถอนนิติกรรมสัญญาให้ที่พิพาทซึ่งทำตามหนังสือมอบอำนาจ เพราะหนังสือมอบอำนาจเป็นโมฆะเนื่องจากมารดาพิมพ์ลายนิ้วมือขณะที่มีสติฟั่นเฟือนไม่รู้สึกผิดชอบดังนี้ โจทก์จะฎีกาว่าที่พิพาทเป็นมรดกของบิดา มารดาไม่มีสิทธิยกที่พิพาทที่เป็นมรดกของบิดานั้นหาได้ไม่ เพราะเป็นฎีกานอกประเด็นจากที่กล่าวในฟ้อง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบเพื่อพิสูจน์การรับฝากทรัพย์ และหน้าที่ตามสัญญา หากมีสัญญาชัดเจน การซื้อขายหรือการรับฝากไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย
ฟ้องว่าโจทก์นำข้าวเปลือก 10 เกวียน 50 ถัง ฝากในยุ้งจำเลย โจทก์นำสืบว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ ได้ตกลงเอาข้าวเปลือกชำระหนี้แทนเงินที่ติดค้างโจทก์อยู่ และที่โจทก์ซื้อจากจำเลยด้วยเงินสดด้วย รวม 10 เกวียน 50 ถังแล้วตกลงทำสัญญาฝากไว้ในยุ้งจำเลย ดังนี้ มิใช่นำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าทำสัญญาหมาย จ.1 จริงซึ่งจำเลยสัญญาว่าจะคืนข้าวที่รักษาไว้แก่โจทก์จำเลยมีหน้าที่จะต้องส่งมอบข้าวเปลือกนั้นคืนให้แก่โจทก์ตามสัญญาหรือใช้ราคาให้โจทก์ โดยไม่จำเป็นจะต้องก้าวล่วงไปวินิจฉัยถึงปัญหาการซื้อขายและการรับฝากข้าวเปลือกว่าชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 460 และ 657 หรือไม่ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้ง 14/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาฝากรักษาข้าว: การนำสืบการได้มาซึ่งข้าวไม่เป็นการนอกฟ้อง และจำเลยมีหน้าที่คืนข้าวตามสัญญา
ฟ้องว่าโจทก์นำข้าวเปลือก 10 เกวียน 50 ถัง ฝากในยุ้งจำเลย โจทก์นำสืบว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ได้ตกลงเอาข้าวเปลือกชำระหนี้ แทนเงินที่ติดค้างโจทก์อยู่ และที่โจทก์ซื้อจากจำเลยด้วยเงินสดด้วย รวม 10 เกวียน 50 ถังแล้วตกลงทำสัญญาฝากไว้ในยุ้งจำเลย ดังนี้มิใช่นำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าทำสัญญาหมาย จ.1 จริงซึ่งจำเลยสัญญาว่าจะคืนข้าวที่รักษาไว้แก่โจทก์ จำเลยมีหน้าที่จะต้องส่งมอบข้าวเปลือกนั้นคืนให้แก่โจทก์ตามสัญญาหรือใช้ราคาให้โจทก์ โดยไม่จำเป็นจะต้องก้าวล่วงไปวินิจฉัยถึงปัญหาการซื้อขายและการรับฝากข้าวเปลือกว่าชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 460 และ 657 หรือไม่ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินและการครอบครองปรปักษ์: คำให้การที่มีเหตุผลย่อมใช้ได้ แม้ยังไม่ชัดเจนว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของใคร
เขตที่ดินตามโฉนดของโจทก์และจำเลยอยู่ติดต่อกัน โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยรุกล้ำ จำเลยให้การว่าที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินตามโฉนดของจำเลยหรือหากว่าที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินตามโฉนดของโจทก์ จำเลยก็ได้ครอบครองที่นั้นมาโดยปรปักษ์ เป็นคำให้การที่ใช้ได้เพราะขณะจำเลยให้การยังไม่สามารถกำหนดได้โดยแน่ชัดว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของใครแน่ คำให้การของจำเลยจึงมีเหตุผลในการต่อสู้คดีและไม่มีนัยขัดกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดิน: คำให้การที่อ้างกรรมสิทธิ์หรือครอบครองปรปักษ์ไม่ขัดแย้งกัน
เขตที่ดินตามโฉนดของโจทก์และจำเลยอยู่ติดต่อกัน โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยรุกล้ำ จำเลยให้การว่าที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินตามโฉนดของจำเลยหรือหากว่าที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินตามโฉนดของโจทก์ จำเลยก็ได้ครอบครองที่นั้นมาโดยปรปักษ์ เป็นคำให้การที่ใช้ได้ เพราะขณะจำเลยให้การยังไม่สามารถกำหนดได้โดยแน่ชัดว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของใครแน่ คำให้การของจำเลยจึงมีเหตุผลในการต่อสู้คดีและไม่มีนัยขัดกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อรถจากผู้ขายที่ไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริง ผู้ซื้อมีสิทธิเรียกร้องราคาคืนจากเจ้าของเดิม หากเจ้าของเดิมไม่ชดใช้
ซื้อรถจักรยานยนต์จากผู้ที่ตั้งร้านค้าขายรถประเภทเดียวกัน ซึ่งถือเป็นพ่อค้าขายของชนิดนั้น แม้จะปรากฏว่ารถคันที่ซื้อมานั้นผู้ขายผิดสัญญาเช่าซื้อกับเจ้าของเดิม ผู้ซื้อก็ยังมีสิทธิ์ที่จะยังไม่คืนรถให้แก่เจ้าของเดิม เว้นแต่เจ้าของเดิมจะชดใช้ราคาให้แก่ผู้ซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อรถจากผู้ขายที่ไม่มีสิทธิในกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหากถูกรบกวนการครอบครอง
ซื้อรถจักรยานยนต์จากผู้ที่ตั้งร้านค้าขายรถประเภทเดียวกัน ซึ่งถือเป็นพ่อค้าขายของชนิดนั้น แม้จะปรากฏว่ารถคันที่ซื้อมานั้นผู้ขายผิดสัญญาเช่าซื้อกับเจ้าของเดิม ผู้ซื้อก็ยังมีสิทธิที่จะยังไม่คืนรถให้แก่เจ้าของเดิม เว้นแต่เจ้าของเดิมจะชดใช้ราคาให้แก่ผู้ซื้อ
of 47