คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1330

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 196 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3030/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์ก่อนขายทอดตลาด: การตีความ 'ก่อนที่ได้เอาทรัพย์สินออกขายทอดตลาด' และการคุ้มครองผู้ซื้อสุจริต
คำว่า "ก่อนที่ได้เอาทรัพย์สินเช่นว่านี้ออกขายทอดตลาด"ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 หมายความถึงการขายทอดตลาดบริบูรณ์โดยเจ้าพนักงานบังคับคดีมีการตกลงด้วยการเคาะไม้หรือด้วยกิริยาอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งตามจารีตประเพณีในการขายทอดตลาด หรือศาลมีคำสั่งให้ขายแล้ว
เจ้าพนักงานบังคับคดีเพียงแต่นำเรือนพิพาทออกดำเนินการขายทอดตลาด 2 ครั้งแล้วเลื่อนไปประกาศขายทอดตลาดอีกเป็นครั้งที่สาม การดำเนินการขายทอดตลาดทั้งสองครั้งยังถือไม่ได้ว่าเป็นการขายทอดตลาด ผู้ร้องจึงมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขัดทรัพย์ก่อนการขายทอดตลาดในครั้งที่สามได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดที่ดิน สินสมรส การซื้อทอดตลาดโดยไม่สุจริต และผลกระทบต่อการจดทะเบียน
การขออายัดที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 83 นั้น เมื่อเจ้าหน้าที่รับอายัดไว้แล้ว ผู้ขออายัดต้องไปดำเนินการ ทางศาลภายในเวลาที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ ถ้าไม่ดำเนินการทางศาล การอายัดก็สิ้นผลเมื่อพ้นเวลา ดังกล่าว แต่ถ้าผู้ขออายัดดำเนินการทางศาล ภายในเวลาดังกล่าว การอายัดก็ยังคงมีผลอยู่ต่อไปจนกว่าศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษา
โจทก์ซื้อที่ดินตามฟ้องในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล โดย รู้อยู่ว่าที่ดินนั้นเป็นสินสมรสระหว่าง ต. กับจำเลยที่ 2 และคดีที่จำเลยที่ 2 ฟ้อง ต. ขอหย่าและขอ แบ่งที่ดินนั้น กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล และโจทก์ยังซื้อโดยคบคิดกับ ต. และพวก เพื่อหลีกเลี่ยงการ แบ่งที่ดินนั้นให้แก่จำเลยที่ 2 ตามที่จำเลยที่ 2 ฟ้องขอแบ่งไว้ ดังนั้นจะถือว่าโจทก์ซื้อที่ดินนั้น โดยสุจริตในการขายทอดตลาด ตามคำสั่งศาลไม่ได้ โจทก์จึง ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1330 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดที่ดิน สินสมรส การซื้อที่ดินในการขายทอดตลาดโดยไม่สุจริต ไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
การขออายัดที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 83 นั้น เมื่อเจ้าหน้าที่รับอายัดไว้แล้วผู้ขออายัดต้องไปดำเนินการ ทางศาลภายในเวลาที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ถ้าไม่ดำเนินการทางศาล การอายัดก็สิ้นผลเมื่อพ้นเวลาดังกล่าวแต่ถ้าผู้ขออายัดดำเนินการทางศาล ภายในเวลาดังกล่าวการอายัดก็ยังคงมีผลอยู่ต่อไปจนกว่าศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษา
โจทก์ซื้อที่ดินตามฟ้องในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดย รู้อยู่ว่าที่ดินนั้นเป็นสินสมรสระหว่าง ต. กับจำเลยที่2 และคดีที่จำเลยที่ 2 ฟ้อง ต. ขอหย่าและขอแบ่งที่ดินนั้น กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลและโจทก์ยังซื้อโดยคบคิดกับ ต. และพวก เพื่อหลีกเลี่ยงการแบ่งที่ดินนั้นให้แก่จำเลยที่ 2 ตามที่จำเลยที่ 2ฟ้องขอแบ่งไว้ดังนั้นจะถือว่าโจทก์ซื้อที่ดินนั้น โดยสุจริตในการขายทอดตลาด ตามคำสั่งศาลไม่ได้โจทก์จึง ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1330 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3355/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อที่ดินจากการบังคับคดี: กรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อเมื่อศาลยกเลิกการขายทอดตลาด
จำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ได้นำ เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของ ส. ซึ่งได้นำมาประกันหนี้ของจำเลยต่อศาลตามที่ได้อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ และ ได้นำออกขายทอดตลาด ผู้ร้องที่ 1 เป็นผู้ซื้อที่ดินได้ต่อมา ส. ยื่นคำร้องว่าการขายทอดตลาดของ เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ศาลมีคำสั่ง ยกเลิกการขายทอดตลาดนั้น ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องพร้อมส่ง สำเนาคำร้องกับแจ้งวันนัดให้ผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ร้องที่ 1 ทราบ ผู้ร้องที่ 1 ยื่นคำแถลงว่า ผู้ร้อง ที่ 1 เป็นผู้ซื้อที่ดินพิพาทโดยชอบ ขอให้ยกคำร้อง ของ ส. และผู้ร้องที่ 1 จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ที่ดินพิพาทให้ผู้ร้องที่ 2 แล้วผู้ร้องที่ 2 โอนให้ผู้ร้องที่ 3ต่อมาศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิก การขายทอดตลาดที่ดินพิพาทมีการอุทธรณ์ฎีกาต่อมา โดยผู้ร้องทั้งสามมิได้อุทธรณ์ฎีการะหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ผู้ร้องทั้งสามยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่ง เพิกถอนคำสั่งที่ให้ยกเลิกการขายทอดตลาดนั้นเสีย เช่นนี้เห็นได้ว่า ผู้ร้องที่ 1 เป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี หากเสียหายอย่างไรก็ชอบที่จะยื่นคำร้องและ ขอสืบพยานเสียแต่ในชั้นไต่สวนคำร้อง ขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดของ ส.หรืออุทธรณ์ฎีกาคำสั่ง ของศาลชั้นต้นที่ให้ยกเลิกการขายทอดตลาดนั้นได้ แต่ ผู้ร้องที่ 1 ก็มิได้กระทำ ผู้ร้องที่ 1 จึงต้องผูกพันในผลแห่งคำสั่งศาลที่ว่าการขายทอดตลาดที่ดิน พิพาทไม่ชอบตามคำสั่งศาลที่ถึงที่สุด เมื่อการขายทอดตลาดที่ดินพิพาทไม่ชอบผู้ร้องที่ 1 ย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น ผู้ร้องที่ 2 ที่ 3เป็นผู้รับซื้อที่ดินพิพาทมาจากผู้ร้องที่ 1 ย่อมไม่ มีสิทธิดีกว่าผู้ร้องที่ 1 ผู้โอน จึงไม่ได้กรรมสิทธิด้วยเช่นกัน ศาลชอบที่จะสั่งยกคำร้องของผู้ร้องทั้ง สาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3355/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการโอนกรรมสิทธิ์: ผลของการยกเลิกการขายทอดตลาดต่อผู้ซื้อและผู้รับโอนสิทธิ
จำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ได้นำ เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของ ส. ซึ่งได้นำมาประกันหนี้ ของจำเลยต่อศาลตามที่ได้อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ และ ได้นำออกขายทอดตลาด ผู้ร้องที่ 1 เป็นผู้ซื้อที่ดินได้ต่อมา ส. ยื่นคำร้องว่าการขายทอดตลาดของ เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ศาลมีคำสั่ง ยกเลิกการขายทอดตลาดนั้น ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องพร้อมส่ง สำเนาคำร้องกับแจ้งวันนัดให้ผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ร้องที่ 1 ทราบ ผู้ร้องที่ 1 ยื่นคำแถลงว่า ผู้ร้อง ที่ 1 เป็นผู้ซื้อที่ดินพิพาทโดยชอบ ขอให้ยกคำร้อง ของ ส. และผู้ร้องที่ 1 จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ที่ดินพิพาทให้ผู้ร้องที่ 2 แล้วผู้ร้องที่ 2 โอนให้ผู้ร้องที่ 3 ต่อมาศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิก การขายทอดตลาดที่ดินพิพาท มีการอุทธรณ์ฎีกาต่อมา โดย ผู้ร้องทั้งสามมิได้อุทธรณ์ฎีกา ระหว่างพิจารณาของ ศาลฎีกา ผู้ร้องทั้งสามยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่ง เพิกถอนคำสั่งที่ให้ยกเลิกการขายทอดตลาดนั้นเสีย เช่นนี้ เห็นได้ว่า ผู้ร้องที่ 1 เป็นผู้มีส่วนได้เสียในการ บังคับคดีหากเสียหายอย่างไรก็ชอบที่จะยื่นคำร้องและ ขอสืบพยานเสียแต่ในชั้นไต่สวนคำร้อง ขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดของ ส. หรืออุทธรณ์ฎีกาคำสั่ง ของศาลชั้นต้นที่ให้ยกเลิกการขายทอดตลาดนั้นได้ แต่ ผู้ร้องที่ 1 ก็มิได้กระทำ ผู้ร้องที่ 1 จึงต้อง ผูกพันในผลแห่งคำสั่งศาลที่ว่าการขายทอดตลาดที่ดิน พิพาทไม่ชอบตามคำสั่งศาลที่ถึงที่สุด เมื่อการ ขายทอดตลาดที่ดินพิพาทไม่ชอบผู้ร้องที่ 1 ย่อมไม่ได้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น ผู้ร้องที่ 2 ที่ 3เป็นผู้รับซื้อที่ดินพิพาทมาจากผู้ร้องที่ 1 ย่อมไม่ มีสิทธิดีกว่าผู้ร้องที่ 1 ผู้โอน จึงไม่ได้กรรมสิทธิ ด้วยเช่นกัน ศาลชอบที่จะสั่งยกคำร้องของผู้ร้องทั้ง สาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดโดยไม่สุจริต และสิทธิของผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินป่าสงวน
ที่พิพาทอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งต้องห้ามมิให้ยึดถือครอบครองหากโจทก์ซื้อโดยทราบอยู่ก่อนว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองทำประโยชน์ การซื้อของโจทก์ย่อมเป็นไปโดยไม่สุจริตแม้เป็นการซื้อมาจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโจทก์ก็ไม่ได้สิทธิในที่พิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330นอกจากนี้ในระหว่างราษฎรด้วยกันจำเลยซึ่งเป็นผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาทย่อมมีสิทธิดีกว่าโจทก์การที่จำเลยแถลงรับในชั้นชี้สองสถานว่าจำเลยไม่มีน.ส.3 สำหรับที่พิพาทยังไม่เพียงพอที่ศาลจะวินิจฉัยให้จำเลยแพ้คดีคดีจึงจำต้องทำการสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปให้สิ้นกระแสความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2788/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์จากการขายทอดตลาด: แม้มีคดีเพิกถอน แต่กรรมสิทธิ์ยังสมบูรณ์จนกว่าศาลจะมีคำสั่ง
โจทก์ซื้อที่ดินและตึกแถวจากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีทั้งได้จดทะเบียนการได้มาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว โจทก์จึงเป็นผู้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวพิพาทโดยสมบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 และมาตรา 1330 แม้ต่อมา ก.ได้ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ก็เป็นเรื่องการเพิกถอนการขายทอดตลาด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 อีกส่วนหนึ่ง หาใช่เรื่องการขายทอดตลาดตกเป็นโมฆะไม่ เมื่อศาลยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาด โจทก์ย่อมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวพิพาทโดยสมบูรณ์ จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยผู้อยู่อาศัยในที่ดินและตึกแถวพิพาทโดยไม่มีสิทธิให้ออกไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ซื้อจากการขายทอดตลาด แม้ทรัพย์สินไม่ใช่ของจำเลย ศาลสั่งออกใบแทน น.ส.3 ได้
สิทธิของผู้ซื้อที่พิพาทจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยสุจริตย่อมไม่เสียไป แม้ภายหลังจะพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินนั้นมิใช่ของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 และแม้ผู้ร้องยึดถือ น.ส.3 ก. สำหรับที่ดินดังกล่าวโดยชอบ เมื่อไม่ยอมมอบต่อศาล ศาลก็มีอำนาจสั่งให้นายอำเภอออกใบแทน น.ส.3 ก. สำหรับที่พิพาทเพื่อจดทะเบียนโอนสิทธิในที่ดินให้แก่ผู้ซื้อจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ซื้อจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล แม้ทรัพย์สินพิสูจน์ภายหลังว่าไม่ใช่ของลูกหนี้
สิทธิของผู้ซื้อที่พิพาทจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยสุจริตย่อมไม่เสียไป แม้ภายหลังจะพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินนั้นมิใช่ของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330และแม้ผู้ร้องยึดถือ น.ส.3 ก. สำหรับที่ดินดังกล่าวโดยชอบ เมื่อไม่ยอมมอบต่อศาล ศาลก็มีอำนาจสั่งให้นายอำเภอออกใบแทนน.ส.3 ก. สำหรับที่พิพาทเพื่อจดทะเบียนโอนสิทธิในที่ดินให้แก่ผู้ซื้อจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 482/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งเรื่องความไม่สุจริตในการซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาด ศาลรับฟ้องได้ เพราะเกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่าได้มาโดยซื้อจากการขายทอดตลาดของศาลในคดีหนึ่ง จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทครึ่งหนึ่งตามคำพิพากษาฎีกาที่ได้พิพากษาในคดีที่โจทก์อ้าง และโจทก์ไม่สุจริตซื้อที่ดินพิพาททั้ง ๆ ที่ทราบว่าจำเลยครอบครองเป็นส่วนสัดมาเป็นเวลาร่วม 20 ปี จึงฟ้องแย้งขอให้เพิกถอนการซื้อขายที่ดินพิพาทเฉพาะส่วนของจำเลย ดังนี้ เป็นฟ้องแย้งที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมโดยตรง เพราะเป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างถึงความไม่สุจริตของโจทก์ในการซื้อที่ดินพิพาท อันจะทำให้โจทก์ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม ป.พ.พ. ม.1330 จึงชอบที่ศาลจะรับฟ้องแย้งไว้พิจารณาต่อไป
of 20