คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1330

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 196 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 493/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดที่สมบูรณ์เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีพิจารณาแล้วว่าราคาสมควร ผู้ซื้อได้สิทธิโดยชอบ
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ขายทอดตลาดได้พิจารณาเห็นว่ามีผู้ให้ราคาสมควร และได้เคาะไม้ตกลงขายแล้ว การขายทอดตลาดเป็นอันสมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 509 ผู้ซื้อทอดตลาดได้สิทธินั้นโดยชอบตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 และไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษา อันจะเป็นเหตุให้จำเลยยกขึ้นคัดค้านได้ ดังที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 จำเลยจึงไม่มีอำนาจที่จะร้องขอให้ขายทอดตลาดใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2898/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคุ้มครองสิทธิผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยสุจริต แม้ผู้ขายไม่มีสิทธิในทรัพย์สิน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 บัญญัติขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดของศาลโดยสุจริต แม้ภายหลังโจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินที่แท้จริง จะขอนำสืบพิสูจน์ว่าที่ดินพิพาทมิใช่ของจำเลยที่ 3 ก็ไม่อาจทำให้จำเลยที่ 2 ผู้ซื้อทรัพย์นั้นเสียสิทธิไปถ้าจำเลยที่ 2 สุจริต โจทก์มิได้นำสืบว่าจำเลยที่ 2 ไม่สุจริตอย่างไร ดังนั้น โจทก์ผู้ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทที่แจ้ง จะอ้างประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 ขอให้บังคับให้จำเลยที่ 2 คืนหรือใช้ราคาที่ดินพิพาท หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2898/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ซื้อสุจริตจากการขายทอดตลาด: คุ้มครองแม้เจ้าของที่แท้จริงพิสูจน์ได้ภายหลัง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 บัญญัติขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดของศาลโดยสุจริต แม้ภายหลังโจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินที่แท้จริง จะขอนำสืบพิสูจน์ว่าที่ดินพิพาทมิใช่ของจำเลยที่ 3 ก็ไม่อาจทำให้จำเลยที่ 2 ผู้ซื้อทรัพย์นั้นเสีย สิทธิไปถ้า จำเลยที่ 2 สุจริต โจทก์มิได้นำสืบว่าจำเลยที่ 2 ไม่สุจริตอย่างไร ดังนั้นโจทก์ผู้ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทที่แท้จริง จะอ้างประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 ขอให้บังคับให้จำเลยที่ 2 คืนหรือใช้ราคาที่ดินพิพาท หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 542/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดโดยผู้ซื้อทราบถึงข้อจำกัดด้านกรรมสิทธิ์เดิมของผู้ขายสิทธิครอบครอง
โจทก์ซื้อที่ดินจากศาลขายทอดตลาดรับโอนมาทั้งแปลงทั้ง ๆ ที่ทราบอยู่แล้วว่าเคยมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นบางส่วนโดยการครอบครองดังนี้ในส่วนที่จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์นั้น โจทก์ไม่อาจอาศัย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1330 ใช้ยันจำเลยเพื่อคุ้มครองสิทธิโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2622/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสาธารณสมบัติของแผ่นดินจากการขายทอดตลาดไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ซื้อสุจริตก็ไม่ได้รับสิทธิ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 ที่บัญญัติถึงสิทธิของบุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลหรือคำสั่งเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ในคดีล้มละลายนั้น ใช้บังคับเฉพาะทรัพย์สินที่มิใช่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน
โจทก์ซื้อส่วนหนึ่งของที่ดินของนิคมสร้างตนเองอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล ซึ่งโจทก์นำยึดโดยอ้างว่าเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาแม้โจทก์จะซื้อมาโดยสุจริต โจทก์ผู้รับโอนมาก็ไม่มีสิทธิในที่ดินนั้น เพราะการโอนมิได้อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายหรือพระราชกฤษฎีกาไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305 จำเลยครอบครองที่ดินดังกล่าวอยู่ก่อน ย่อมมีสิทธิดีกว่าโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2622/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายทรัพย์สินสาธารณสมบัติของแผ่นดินจากการบังคับคดี การโอนสิทธิไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 ที่บัญญัติถึงสิทธิของบุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลหรือคำสั่งเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ในคดีล้มละลายนั้น ใช้บังคับเฉพาะทรัพย์สินที่มิใช่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน
โจทก์ซื้อส่วนหนึ่งของที่ดินของนิคมสร้างตนเองอันเป็น สาธารณสมบัติของแผ่นดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล ซึ่งโจทก์นำยึดโดยอ้างว่าเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาแม้โจทก์จะซื้อมาโดยสุจริต โจทก์ผู้รับโอนมาก็ไม่มีสิทธิในที่ดินนั้นเพราะ การโอนมิได้อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายหรือพระราชกฤษฎีกา ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1305 จำเลย ครอบครองที่ดินดังกล่าวอยู่ก่อน ย่อมมีสิทธิดีกว่าโจทก์ โจทก์ ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2571/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องขับไล่หลังประมูลทอดตลาด: สิทธิของเจ้าของรวมที่ประมูลได้ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้บุกรุก แม้ยังไม่วางเงินส่วนได้
โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกและในฐานะส่วนตัวประมูลซื้อที่ดินพิพาทซึ่งตนถือกรรมสิทธิ์รวมอยู่ได้โดยสุจริตจากการประมูลระหว่างทายาทตามคำสั่งศาล แม้ศาลยังมิได้จัดการโอนทะเบียนมาเป็นชื่อโจทก์ก็ตาม โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยกับพวกทายาทซึ่งเป็นเจ้าของรวมคนอื่นๆ ได้ ส่วนการวางเงินส่วนได้ของจำเลยเนื่องจากการประมูลขายทอดตลาดนั้นโจทก์จะวางก่อนหรือหลังจากที่ฟ้องขับไล่จำเลย ก็ไม่กระทบถึงอำนาจฟ้องของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 70/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินจากการซื้อขายทอดตลาด: สุจริตของผู้ซื้อและการหมดสิทธิของเจ้าของเดิม
ที่พิพาทเป็นที่งอกริมตลิ่งหน้าที่ดินมีโฉนดของโจทก์ ส.เคยปลูกเรือนอยู่ในที่พิพาทและแจ้งการครอบครองไว้ว่าเป็นที่ของตน ต่อมา ส. ถูกเจ้าหนี้ฟ้องบังคับให้ชำระหนี้เงินกู้และถูกศาลบังคับคดียึดที่พิพาทประกาศขายทอดตลาด จ. เป็นผู้ซื้อได้และชำระราคาที่ดินแล้ว ต่อมา จ. ขายที่พิพาทให้จำเลยจำเลยเข้าครอบครองปลูกบ้านอยู่ โจทก์จึงมาฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่พิพาท ดังนี้ ปัญหาที่ว่าจ. ได้สิทธิในที่พิพาทหรือไม่นั้นอยู่ที่ว่า จ. ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตหรือไม่ โจทก์เพียงแต่อ้างว่าไม่ทราบว่ามีการยึดที่พิพาทขายทอดตลาด แต่โจทก์หาได้กล่าวอ้างหรือนำสืบให้เห็นว่า จ. ได้ซื้อที่พิพาทไว้โดยไม่สุจริตแต่อย่างใดไม่โจทก์เพิ่งคัดค้านเมื่อเจ้าพนักงานที่ดินรังวัดที่พิพาทภายหลังที่ศาลมีคำสั่งขายที่พิพาทให้ จ. ไปหลายปีแล้ว ไม่เป็นพฤติการณ์ให้ฟังได้ว่า จ. ซื้อที่พิพาทจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยไม่สุจริต จ. ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 และได้ขายที่พิพาทให้จำเลยเข้าครอบครองแล้ว โจทก์ย่อมหมดสิทธิในที่ดินพิพาทและไม่มีทางชนะคดีจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สุจริตในการซื้อขายทอดตลาด: พิจารณาพฤติการณ์ก่อนและขณะซื้อได้
คำว่า โดยสุจริตของผู้ซื้อทรัพย์สินในการขายทอดตลาดของศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1330 นั้น หมายความว่า ผู้ซื้อไม่รู้ว่ามิใช่ทรัพย์ของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลผู้ล้มละลาย และในการวินิจฉัยว่าผู้ซื้อสุจริตหรือไม่ย่อมอาศัยพฤติการณ์ต่างๆ ทั้งก่อนและในขณะซื้อประกอบกัน หาใช่ต้องพิจารณาเฉพาะแต่ในเวลาซื้อเท่านั้นไม่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์รู้มาแต่แรกก่อนเข้าประมูลซื้อแล้วว่าที่พิพาทที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดมิใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ย่อมฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ซื้อโดยสุจริตในการขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยไม่สุจริต ผู้ซื้อไม่ได้รับสิทธิในทรัพย์นั้น
คำว่า โดยสุจริตของผู้ซื้อทรัพย์สินในการขายทอดตลาดของศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1330 นั้น หมายความว่า ผู้ซื้อไม่รู้ว่ามิใช่ทรัพย์ของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลผู้ล้มละลาย และในการวินิจฉัยว่าผู้ซื้อสุจริตหรือไม่ย่อมอาศัยพฤติการณ์ต่างๆ ทั้งก่อนและในขณะซื้อประกอบกัน หาใช่ต้องพิจารณาเฉพาะแต่ในเวลาซื้อเท่านั้นไม่ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์รู้มาแต่แรกก่อนเข้าประมูลซื้อแล้วว่าที่พิพาทที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดมิใช่ของลูกหนี้ ตามคำพิพากษา ย่อมฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ซื้อโดยสุจริตในการขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าว
of 20