พบผลลัพธ์ทั้งหมด 196 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63-64/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ซื้อจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล แม้ทรัพย์สินไม่ใช่ของจำเลย เจ้าของอันแท้จริงไม่มีสิทธิเรียกคืน
กรณีที่ผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล แม้ภายหลังเจ้าของอันแท้จริงพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินนั้นมิใช่ของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษา สิทธิของผู้ซื้อก็มิเสียไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 กรณีเช่นนี้เจ้าของอันแท้จริงจะอ้างมาตรา 1332 ขอบังคับให้ผู้ซื้อคืนทรัพย์ที่ซื้อนั้นโดยเจ้าของจะชดใช้ราคาตามที่ซื้อมาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63-64/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยสุจริต แม้ทรัพย์สินไม่ใช่ของผู้ถูกบังคับคดี สิทธิผู้ซื้อยังคงอยู่
กรณีที่ผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล แม้ภายหลังเจ้าของอันแท้จริงพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินนั้นมิใช่ของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาสิทธิของผู้ซื้อก็มิเสียไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1330 กรณีเช่นนี้เจ้าของอันแท้จริงจะอ้างมาตรา 1332ขอบังคับให้ผู้ซื้อคืนทรัพย์ที่ซื้อนั้นโดยเจ้าของจะชดใช้ราคาตามที่ซื้อมาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องแย่งการครอบครองที่ดินมือเปล่า และสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายที่เกี่ยวข้อง
โจทก์ซื้อที่ดินมือเปล่าจากการขายทอดตลาดของศาลเมื่อพ.ศ.2492 โดยโจทก์มิได้เข้าครอบครองเลย โจทก์เคยถูกจำเลยที่ 1 ฟ้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดที่พิพาทดังกล่าว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องคดีถึงที่สุดเพียงชั้นศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2497 ต่อมาวันที่ 16 มิถุนายน 2499 โจทก์มาฟ้องว่าระหว่างพ.ศ.2492 ถึง 2499 จำเลยทั้งสามบุกรุกเข้าทำนาในที่พิพาท ขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย จำเลยต่อสู้เรื่องอายุความ เช่น นี้ถือว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะโจทก์ไม่ฟ้องคดีเสียภายใน 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
เมื่อศาลวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิจะเรียกร้องค่าเสียหายได้
ในกรณีดังกล่าวข้างต้น โจทก์จะอ้างว่าโจทก์มีสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ว่า ชอบที่จะร้องได้ภายใน 10 ปี หาได้ไม่ เพราะมาตรา 271 เป็นบทบัญญัติถึงสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาตามที่โจทก์ถูกจำเลยที่ 1 ฟ้องในคดีก่อนและศาลยกฟ้องไปนั้น มิได้ทำให้โจทก์มีสิทธิในฐานะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเหนือจำเลยในคดีนี้อย่างใด กรณีไม่เข้าบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271
เมื่อศาลวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิจะเรียกร้องค่าเสียหายได้
ในกรณีดังกล่าวข้างต้น โจทก์จะอ้างว่าโจทก์มีสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ว่า ชอบที่จะร้องได้ภายใน 10 ปี หาได้ไม่ เพราะมาตรา 271 เป็นบทบัญญัติถึงสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาตามที่โจทก์ถูกจำเลยที่ 1 ฟ้องในคดีก่อนและศาลยกฟ้องไปนั้น มิได้ทำให้โจทก์มีสิทธิในฐานะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเหนือจำเลยในคดีนี้อย่างใด กรณีไม่เข้าบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินธรณีสงฆ์ขายทอดตลาด: จำเลยไม่ต้องรับผิดชำระเงินคืน แม้โจทก์ซื้อแล้ว เพราะไม่ใช่ความผิดจำเลย
โจทก์ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดของศาลเงินได้ชำระให้แก่เจ้าหนี้ของจำเลยตามคำพิพากษาไปหมดแล้ว ภายหลังปรากฏว่า ที่ดินที่ขายทอดตลาดของศาลเป็นที่ธรณีสงฆ์ โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้โดยไม่ใช่ความผิดของจำเลย ตั้งแต่ยึดจนกระทั่งขาย คือ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นฝ่ายนำยึดศาลสั่งขาย จำเลยหาได้เกี่ยวข้องด้วยไม่ ทั้งจำเลยไม่ได้รับเงินค่าซื้อขายที่ดินอันไม่มีมูลหนี้จะต้องใช้คืนแก่โจทก์ จำเลยไม่ได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด คดีไม่เข้าลักษณะลาภมิควรได้ โจทก์จะเรียกเงินคืนจากจำเลยไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2503)
ผู้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกต้องเสียหาย เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีก่อนควรเป็นผู้รับผิดชอบในการยึดและขายทรัพย์สินโดยมิชอบนี้ หาใช่จำเลยไม่
ผู้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกต้องเสียหาย เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีก่อนควรเป็นผู้รับผิดชอบในการยึดและขายทรัพย์สินโดยมิชอบนี้ หาใช่จำเลยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินธรณีสงฆ์ขายทอดตลาด: จำเลยไม่ต้องรับผิดคืนเงินค่าที่ดิน ผู้เสียหายควรเรียกร้องจากเจ้าหนี้
โจทก์ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดของศาล เงินได้ชำระให้แก่เจ้าหนี้ของจำเลยตามคำพิพากษาไปหมดแล้ว ภายหลังปรากฏว่า ที่ดินที่ขายทอดตลาดของศาลเป็นที่ธรณีสงฆ์ โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ โดยไม่ใช่ความผิดของจำเลย ตั้งแต่ยึดจนกระทั้งขาย คือ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นฝ่ายนำยึด ศาลสั่งขาย จำเลยหาได้เกี่ยวข้องด้วยไม่ ทั้งจำเลยไม่ได้รับเงินค่าซื้อขายที่ดินอันไม่มีมูลหนี้จะต้องใช้คืนแก่โจทก์ จำเลยไม่ได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด คดีไม่เข้าลักษณะลาภมิควรได้ โจทก์จะเรียกเงินคืนจากจำเลยไม่ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2503)
ผู้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกต้องเสียหาย เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีก่อนควรเป็นผู้รับผิดชอบในการยึดและขายทรัพย์สินโดยมิชอบนี้ หาใช่จำเลยไม่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2503)
ผู้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกต้องเสียหาย เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีก่อนควรเป็นผู้รับผิดชอบในการยึดและขายทรัพย์สินโดยมิชอบนี้ หาใช่จำเลยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายทอดตลาดโดยไม่สุจริตของผู้ซื้อรู้ว่าทรัพย์สินมีข้อพิพาท ทำให้ผู้ซื้อไม่ได้รับกรรมสิทธิ์แม้จดทะเบียน
การขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล ในกรณีที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายฝากนำยึดทรัพย์ที่ขายฝากแต่หลุดเป็นสิทธิของผู้ซื้อฝากแล้วนั้น หากก่อนการขายทอดตลาด ผู้ซื้อฝากมาคัดค้านว่าทรัพย์ที่ขายทอดตลาดเป็นของตน ผู้ซื้อรู้แล้วยังขืนซื้อไป ถือว่าผู้ซื้อ ซื้อการขายทอดตลาดโดยไม่สุจริตและแม้จะจดทะเบียนโดยชอบแล้วก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1300
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายทอดตลาดโดยไม่สุจริต แม้จดทะเบียนแล้วก็ไม่เกิดกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อรู้ว่าทรัพย์สินมีข้อพิพาท
การขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล ในกรณีที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายฝากนำยึดทรัพย์ที่ขายฝากแต่หลุดเป็นสิทธิของผู้ซื้อฝากแล้วนั้นหากก่อนการขายทอดตลาด ผู้ซื้อฝากมาคัดค้านว่าทรัพย์ที่ขายทอดตลาดเป็นของตน ผู้ซื้อรู้แล้วยังขืนซื้อไป ถือว่าผู้ซื้อ ซื้อการขายทอดตลาดโดยไม่สุจริตและแม้จะจดทะเบียนโดยชอบแล้วก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด: การบังคับใช้ ป.พ.พ. มาตรา 1330 และ 1332
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ซื้อทรัพย์ของโจทก์ไปจากการขายทอดตลาดของศาล โจทก์ประสงค์จะขอซื้อทรัพย์คืนจากจำเลย คำฟ้องเช่นนี้จะนำ ป.พ.พ. ม.1332 มาบังคับใช้ในคดีนี้หาได้ไม่เพราะ ม.1332 เป็นเรื่องซื้อทรัพย์ในการขายทอดตลาดหรือในท้องตลาดหรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น ไม่เกี่ยวกับการซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาลซึ่ง ป.พ.พ. ม.1330 บัญญัติได้โดยเฉพาะแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการซื้อคืนทรัพย์จากการขายทอดตลาด: มาตรา 1330 vs. 1332
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ซื้อทรัพย์ของโจทก์ไปจากการขายทอดตลาดของศาลโจทก์ประสงค์จะขอซื้อทรัพย์คืนจากจำเลยคำฟ้องเช่นนี้จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1332 มาบังคับใช้ในคดีนี้หาได้ไม่เพราะ มาตรา1332 เป็นเรื่องซื้อทรัพย์ในการขายทอดตลาดหรือในท้องตลาดหรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้นไม่เกี่ยวกับการซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาลซึ่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1330 บัญญัติได้โดยเฉพาะแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ซื้อจากการขายทอดตลาด vs สิทธิผู้ครอบครอง: ศาลไม่อาจบังคับทำสัญญาเช่าได้
ผู้ครอบครองที่ดินจะรู้หรือไม่รู้ว่ามีการขายทอดตลาด ก็หาเป็นเหตุที่จะยกขึ้นต่อสู้สิทธิของผู้ซื้อที่ดินนั้นในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1330 ได้ไม่
เจ้าของที่ดินมีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่ผู้ที่อาศัยในที่ดินของตนให้ออกไปได้ แต่ไม่มีสิทธิจะบังคับให้ผู้นั้นต้องคำสัญญาเช่ากับตน
เจ้าของที่ดินมีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่ผู้ที่อาศัยในที่ดินของตนให้ออกไปได้ แต่ไม่มีสิทธิจะบังคับให้ผู้นั้นต้องคำสัญญาเช่ากับตน