คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1330

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 196 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2683/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินจากการซื้อจากผู้ซื้อจากการขายทอดตลาด โดยสุจริต
จำเลยทั้งสองเพียงเข้าครอบครองที่ดินพิพาทแทนเจ้าของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เมื่อโจทก์ได้ซื้อที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งมีที่ดินพิพาทรวมอยู่ด้วยจากนาง ส. ซึ่งซื้อมาจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยสุจริต โจทก์ย่อมได้สิทธิในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่ง-และพาณิชย์ มาตรา 1330

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1939/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์จากการประมูลซื้อและการละเมิดจากการไม่ยอมออกจากที่ดินหลังแจ้งให้ขนย้าย
โจทก์เป็นผู้ประมูลซื้อที่ดินและอาคารโรงงานได้จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งศาลชั้นต้นโดยสุจริตโจทก์ย่อมได้สิทธิในที่ดินและอาคารโรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1330แม้หลังจากทำการขายทอดตลาดไปแล้วจำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดและคดีส่วนที่คัดค้านยังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ก็เป็นเรื่องการเพิกถอนการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296อีกส่วนหนึ่งหาใช่เรื่องการขายทอดตลาดเป็นโมฆะไม่เมื่อศาลยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดโจทก์ย่อมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารโรงงานโดยสมบูรณ์เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิมซึ่งยังคงอาศัยอยู่ได้อยู่อาศัยในที่ดินและอาคารโรงงานต่อไปและได้แจ้งให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจำเลยเพิกเฉยการกระทำของจำเลยย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1939/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์จากการประมูลซื้อ และการละเมิดจากการไม่ยอมขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่ดิน
โจทก์เป็นผู้ประมูลซื้อที่ดินและอาคารโรงงานได้จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งศาลชั้นต้นโดยสุจริต โจทก์ย่อมได้สิทธิในที่ดินและอาคารโรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 แม้หลังจากทำการขายทอดตลาดไปแล้ว จำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดและคดีส่วนที่คัดค้านยังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ก็เป็นเรื่อง การเพิกถอนการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 อีกส่วนหนึ่งหาใช่เรื่องการขายทอดตลาดเป็นโมฆะไม่ เมื่อศาลยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนการ ขายทอดตลาด โจทก์ย่อมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารโรงงานโดยสมบูรณ์ เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิมซึ่งยังคงอาศัยอยู่ ได้อยู่อาศัยในที่ดินและอาคารโรงงานต่อไป และได้แจ้งให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไป จำเลยเพิกเฉย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 886/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์จากการซื้อขายทอดตลาด & สิทธิการฟ้องขับไล่ แม้มีคดีเพิกถอนการขายทอดตลาดค้างอยู่
โจทก์ทั้งสองซื้อที่ดินและบ้านพิพาทโดยสุจริตจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลและจดทะเบียนรับโอนแล้วโจทก์ทั้งสองย่อมได้กรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1330แม้จำเลยที่2ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและคดียังอยู่ ระหว่างพิจารณาก็เป็นเรื่องการเพิกถอนการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296เมื่อคดีดังกล่าวศาลยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่ง เพิกถอนการขายทอดตลาดโจทก์ทั้งสองย่อมมี อำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 886/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์จากการขายทอดตลาดสมบูรณ์แม้มีคดีเพิกถอน โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่
โจทก์ทั้งสองซื้อที่ดินและบ้านพิพาทได้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลจึงมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายแม้ต่อมาจำเลยที่2ได้ยื่นคำร้องขอให้ เพิกถอน การขายทอดตลาดและคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีก็ตามแต่ก็เป็นเรื่องการเพิกถอนการขายทอดตลาดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา296เมื่อศาลยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็น เจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านพิพาทย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6267/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินจากการซื้อขายทอดตลาดและการครอบครองแทน ย่อมไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิครอบครองเหนือโจทก์
การยกให้ที่พิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่มีเพียง น.ส.3ระหว่าง ช. กับจำเลย มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย แม้จำเลยจะเข้าครอบครองที่พิพาทตลอดมา ก็เป็นการครอบครองแทน ช. มิใช่เป็นการยึดถือครอบครองในฐานะเจ้าของ จำเลยจึงไม่มีสิทธิครอบครองในที่พิพาท เมื่อโจทก์เป็นผู้ซื้อที่ดินตาม น.ส.3 ดังกล่าวได้จากการขายทอดตลาดของศาล โจทก์จึงเป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่พิพาทโดยชอบ และแม้โจทก์ยังปล่อยให้จำเลยอยู่ในที่พิพาทนับแต่วันที่โจทก์ซื้อที่พิพาทจนถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้บอกกล่าวเจตนาเปลี่ยนแปลงลักษณะการครอบครองที่พิพาท จำเลยจึงไม่มีสิทธิครอบครองในที่พิพาทแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6071/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการครอบครองที่ดินจากการซื้อขายทอดตลาด จำเลยมีสิทธิพิสูจน์ว่าโจทก์ทราบการครอบครองก่อนซื้อ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3.) ที่ได้มาจากการขายทอดตลาดของศาลชั้นต้น จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทจากการขายทอดตลาดของศาลโดยไม่สุจริตและด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงโจทก์ทราบดีอยู่แล้วว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่พิพาทตลอดมาเช่นนี้ ข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทและโจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทในขณะที่ซื้อทรัพย์จึงเป็นข้อเท็จจริงที่จะนำไปสู่การวินิจฉัยว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทมาโดยสุจริตหรือไม่ซึ่งเป็นประเด็นข้อพิพาท จำเลยมีสิทธินำสืบข้อเท็จจริงดังกล่าวได้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยในประเด็นเรื่องการครอบครองนั้นไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5256/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาด: สิทธิของผู้รับโอนทรัพย์สินที่ถูกเพิกถอน
ป. ประมูลซื้อทรัพย์พิพาท คือ ที่ดินพร้อมตึกแถวได้จากการขายทอดตลาดในการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาล จำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและขณะที่คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล ป. ได้โอนขายทรัพย์พิพาทให้ผู้ร้องโดยผู้ร้องได้รับโอนโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนโดยสุจริต ต่อมาศาลพิพากษาให้เพิกถอนการขายทอดตลาดต้องถือเสมือนว่าไม่มีการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทและไม่มีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทให้แก่ ป. และผู้ร้อง แม้ ป. เองก็ยังไม่ได้รับความคุ้มครอง เพราะกรณีไม่ต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1330 ผู้ร้องไม่อาจอ้างว่าผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอกได้ซื้อทรัพย์พิพาทมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนโดยสุจริตคำพิพากษาที่เพิกถอนการขายทอดตลาดไม่ผูกพันผู้ร้องได้ เมื่อ ป.ผู้โอนไม่มีสิทธิในทรัพย์สินพิพาทแล้ว ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน และอีกประการหนึ่งการที่มีการโอนทรัพย์พิพาทดังกล่าว ก็เป็นการโอนทรัพย์พิพาทไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 แต่การเพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทเป็นเรื่องการเพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง ซึ่งเป็นกรณีอีกเรื่องหนึ่งหาเกี่ยวข้องกันไม่ผู้ร้องจึงไม่ได้รับความคุ้มครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5137/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลดีกว่าการซื้อจากผู้จัดสรรที่ถูกพิทักษ์ทรัพย์
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและตึกแถวพิพาทโดยอ้างว่าอาจให้เช่าได้เดือนละ 20,000 บาท ศาลชั้นต้นกำหนดค่าเสียหายส่วนนี้ให้เดือนละ 3,000 บาท โจทก์มิได้อุทธรณ์ จึงฟังได้ว่าที่ดินและตึกแถวพิพาทอาจให้เช่าได้เดือนละ 3,000 บาท แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระค่าเสียหายที่โจทก์ถูกผู้ซื้อที่ดินและตึกแถวพิพาทปรับอีก 100,000 บาท ทุนทรัพย์ที่พิพาทในส่วนนี้ก็ไม่เกิน 200,000 บาท ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่จำเลยฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 กำหนดเรื่องการขายทอดตลาดทรัพย์สินตามคำสั่งศาลหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไว้เป็นกรณีพิเศษไม่อยู่ในข่ายของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปที่บัญญัติเรื่องแบบนิติกรรมไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 ดังนั้น แม้จำเลยซื้อที่ดินและตึกแถวพิพาทมาจากลูกหนี้เมื่อลูกหนี้ถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อนจดทะเบียนการโอนที่ดินและตึกแถวพิพาทให้แก่จำเลยกรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวพิพาทยังเป็นของลูกหนี้อยู่ โจทก์ซื้อที่ดินและตึกแถวพิพาทจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ โจทก์จึงมีสิทธิในที่ดินและตึกแถวพิพาทดีกว่าจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5137/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการซื้อขายจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลเหนือกว่าสิทธิของผู้ซื้อเดิมที่ยังไม่ได้จดทะเบียน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 ได้กำหนดเรื่องการขายทอดตลาดทรัพย์สินตามคำสั่งศาลหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไว้เป็นกรณีพิเศษ ไม่อยู่ในข่ายของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปดังที่บัญญัติเรื่องแบบนิติกรรมไว้ตามมาตรา 456 แม้จำเลยกับพวกเป็นผู้ซื้อที่ดินและตึกแถวพิพาทมาจากห้างหุ้นส่วนจำกัด อ.แต่เมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดอ. ถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อนจดทะเบียนการโอนที่ดินและตึกแถวพิพาทให้แก่จำเลยกับพวก กรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวพิพาทยังเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด อ. อยู่ โจทก์ได้ที่ดินและตึกแถวพิพาทโดยการขายทอดตลาดตามคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 โจทก์จึงมีสิทธิในที่ดินและตึกแถวพิพาทดีกว่าจำเลยและมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้
of 20