พบผลลัพธ์ทั้งหมด 71 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานปลอมแปลงเอกสารและการใช้เอกสารปลอม: ความชัดเจนของคำฟ้อง
คำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวหาว่า จำเลยบังอาจปลอมหนังสือซื้อขายที่ดินขึ้น หรือใช้หนังสือปลอมนั้น เป็นหลักฐานว่า จำเลยขายที่ดินให้โจทก์ ซึ่งไม่ใช่เป็นความจริง ดังนี้ หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของคำฟ้องในคดีปลอมแปลงเอกสารสิทธิ การบรรยายฟ้องต้องระบุชัดเจนถึงการกระทำความผิด
คำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยบังอาจปลอมหนังสือซื้อขายที่ดินขึ้นหรือใช้หนังสือปลอมนั้น เป็นหลักฐานว่า จำเลยขายที่ดินให้โจทก์ ซึ่งไม่ใช่เป็นความจริงดังนี้ หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร ความเสียหาย หรือความอาจเสียหายเพียงพอให้ฟ้องสมบูรณ์
ข้อความที่โจทก์ได้บรรยายว่า ในฟ้องในความผิดฐานปลอมหนังสือนั้น เมื่ออ่านแล้วเข้าใจได้ว่า การกระทำของจำเลยกระทำให้โจทก์ต้องเสียหาย หรืออาจเกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้ ซึ่งจำเลยก็เข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องของโจทก์ย่อมสมบูรณ์ โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายทุก ๆ คำจนครบถ้วนตามตัวบทกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีอาญา: การบรรยายฟ้องที่ทำให้เข้าใจถึงความเสียหาย
ข้อความที่โจทก์ได้บรรยายมาในฟ้องในความผิดฐานปลอมหนังสือนั้นเมื่ออ่านแล้วเข้าใจได้ว่า การกระทำของจำเลยกระทำให้โจทก์ต้องเสียหายหรือ อาจเกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้ ทั้งจำเลยก็เข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องของโจทก์ย่อมสมบูรณ์ โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายฟ้องทุกๆ คำจนครบถ้วนตามตัวบทกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งหนังสือตามสมมติของผู้เสียหาย ไม่ถือเป็นการปลอมแปลงเอกสาร
จำเลยทำหนังสือสัญญาให้ผู้เสียหายหนึ่งฉบับมีข้อความว่าผู้เสียหายเช่าเรือนายประเสริฐ จ่ายค่าเช่าให้นายประเสริฐแล้วครึ่งหนึ่งหกพันบาทอีกครึ่งหนึ่งจะจ่ายทีหลังท้ายหนังสือสัญญาช่องผู้ให้เช่า จำเลยลงชื่อแต่ลงชื่อว่าประเสริฐ สุวรรณรังษีไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของจำเลย แล้วมอบสัญญาให้ผู้เสียหายไปทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้เสียหายในการที่จะเอาสัญญานี้ไปแสดงต่อสามีขอเงินมาทำทุนการค้า ดังนี้ เป็นเพียงจำเลยแต่งหนังสือขึ้นฉบับหนึ่งอาศัยเนื้อเรื่องที่ผู้เสียหายนึกสมมุติขึ้นมิใช่เป็นการปลอมหนังสือจึงหามีความผิดฐานปลอมหนังสือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริต-การปลอมหนังสือ: ปัญหาข้อเท็จจริง-ไม่มีความผิด
การกระทำของจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกับศาลชั้นต้น แต่แก้กำหนดโทษจาก 2 ปีเหลือ 1 ปี ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยไม่มีความผิดโจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
คนขายสุราของบริษัทเอาน้ำสุราไปขายที่อื่นแล้ว ทำบิลว่านำสุราส่งไปขายให้แก่ร้านค้าปลีกของบริษัท ถือว่าเป็นการทำหนังสือเท็จ ไม่เป็นความผิด ฐานปลอมหนังสือ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกับศาลชั้นต้น แต่แก้กำหนดโทษจาก 2 ปีเหลือ 1 ปี ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยไม่มีความผิดโจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
คนขายสุราของบริษัทเอาน้ำสุราไปขายที่อื่นแล้ว ทำบิลว่านำสุราส่งไปขายให้แก่ร้านค้าปลีกของบริษัท ถือว่าเป็นการทำหนังสือเท็จ ไม่เป็นความผิด ฐานปลอมหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมหนังสือจากการแก้ไขสมุดลงเวลามาทำงานโดยจงใจ
ข้าราชการขีดฆ่าข้อความที่พนักงานเจ้าหน้าที่เขียนและหมายเหตุไว้ตามหน้าที่ในสมุดลงเวลามาทำงาน แล้วตกเติมข้อความใหม่เปลี่ยนความหมายแห่งถ้อยคำให้เป็นอย่างอื่นโดยจงใจเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงในสมุดนั้น เพื่อใช้เป็นหลักฐานลวงให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าความจริงเป็นดังที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้น เป็นความผิดฐานปลอมหนังสือตามมาตรา 224
โจทก์ฟ้องขอให้ลงจำเลยตามมาตรา 230 แต่ความผิดของจำเลยต้องด้วยมาตรา 224 ซึ่งเป็นบทมีอัตราโทษเบากว่าศาลย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 224 ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงจำเลยตามมาตรา 230 แต่ความผิดของจำเลยต้องด้วยมาตรา 224 ซึ่งเป็นบทมีอัตราโทษเบากว่าศาลย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 224 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาฐานปลอมแปลงเอกสารต้องระบุเวลาที่กระทำผิดโดยละเอียดเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
ฟ้องว่าจำเลยปลอมหนังสือซึ่งโจทก์กู้เงินจำเลย ฟ้องของโจทก์กล่าวถึงวันที่โจทก์ไปร้องต่ออำเภอขอชำระหนี้แก่จำเลยอย่างเดียวดังนี้ ถือว่าฟ้องไม่ระบุเวลาที่หาว่ากระทำผิดตามสมควร ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาต้องระบุรายละเอียดข้อหาชัดเจน หากไม่ส่งเอกสารสำคัญประกอบการฟ้อง ถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยปลอมหนังสือรวม 43 ฉะบับ แต่มิได้ส่งสำเนาให้จำเลย และมิได้ระบุรายละเอียดว่า ฉะบับไหนใครทำ และทำเมื่อใด แม้โจทก์จะได้ระบุไว้ในฟ้องว่า จะส่งเอกสารในวันพิจารณาก็ดี แต่เมื่อจำเลยคัดค้านโจทก์ก็ยังยืนยันตามฟ้องเดิมไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ ต้องถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาต้องระบุรายละเอียดเอกสารที่ถูกกล่าวหา หากไม่ส่งเอกสารประกอบการฟ้อง แม้ศาลเสนอให้ส่ง ก็ถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยปลอมหนังสือรวม 43 ฉบับ แต่มิได้ส่งสำเนาให้จำเลย และมิได้ระบุรายละเอียดว่าฉบับไหนใครทำ และทำเมื่อใดแม้โจทก์จะได้ระบุไว้ในฟ้องว่า จะส่งเอกสารในวันพิจารณาก็ดี แต่เมื่อจำเลยคัดค้านโจทก์ก็ยังยืนยันตามฟ้องเดิมไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ ต้องถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม