พบผลลัพธ์ทั้งหมด 154 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาขัดแย้ง: จำเลยไม่เข้าใจข้อหาฐานยักยอกหรือลักทรัพย์ ศาลยกฟ้องตาม ป.วิ.อาญา ม.158(5)
ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานยักยอกหรือลักทรัพย์โดยบรรยายฟ้องในตอนต้นกล่าวหาว่า จำเลยรับมอบทรัพย์แล้ยักยอกทรัพย์ แต่ตอนหลังกลับกล่าวหาว่าจำเลยลักทรัพย์แล้วอ้างบทมาตราขอให้ลงโทษทั้งความผิดฐานลักทรัพย์แลยักยอก ดังนี้ เป็นฟ้องที่ขัดแย้งกันอยู่ในตัว ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามฟ้องเป็นอย่างไรแน่ และจำเลยต้องหาว่าได้กระทำการอย่างใดแน่ อันจะเป็นความผิดฐานยักยอกหรือลักทรัพย์ คำฟ้องเช่นนี้จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158( 5 ) วรรคแรก ศาลจะรับไว้พิจารณาเอาโทษจำเลยมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของเงินที่แท้จริงมีสิทธิฟ้องร้องยักยอกทรัพย์ ผู้รับมอบเงินแต่ยังไม่ได้ส่งมอบให้เจ้าของเดิมไม่มีสิทธิมอบคดี
ผู้ซื้อนามอบเงินราคาค่านาที่ซื้อขายกันให้แก่จำเลยนำไปมอบแก่ผู้ขาย จำเลยกลับยักยอกเอาเงินนั้นเอาไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเสียเช่นนี้ เจ้าของเงินผู้เสียหายก็คือผู้ซื้อ ไม่ใช่ผู้ขาย ฉะนั้น ผู้ขายจะร้องทุกข์มอบคดีในความผิดฐานยักยอกนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1795/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความความผิดฐานลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์จากข้อความในฟ้อง การลงโทษตามความผิดที่ระบุในฟ้อง
ฟ้องของโจทก์บรรยายว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต ลักเอาทรัพย์สิ่งของของโจทก์ซึ่งมีผู้ฝากจำเลยมาให้โจทก์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 288 แม้จะมีคำว่า ลักและมีคำขอให้ลงโทษตามมาตรา 288 ก็ตาม แต่ข้อความในฟ้องย่อมมีความหมายว่า จำเลยกระทำผิดฐานยักยอกตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 314 ฉะนั้นโจทก์จะฎีกาขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1795/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำแนกความผิดฐานลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์ พิจารณาจากข้อความในฟ้อง
ฟ้องของโจทก์บรรยายว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต ลักเอาทรัพย์สิ่งของของโจทก์ ซึ่งมีผู้ฝากจำเลยมา ให้โจทก์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 288 แม้จะมีคำว่า ลัก และมีคำขอให้ลงโทษตามมาตรา 288 ก็ตาม แต่ข้อความในฟ้องย่อมมีความหมายว่าจำเลยกระทำผิดฐานยักยอกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314ฉะนั้นโจทก์จะฎีกาขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1740/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีแพ่งและอาญาปนกัน ศาลฎีกาต้องใช้ข้อเท็จจริงเดิมจากคดีอาญาที่ยุติแล้วในการพิจารณาคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ ขอให้ลงโทษทางอาญาและเรียกทรัพย์คืนมีราคาเกิน 2,000 บาท ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยผิดสัญญาทางแพ่งไม่ผิดฐานยักยอก จึงพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้คดีส่วนอาญาย่อมถือว่ายุติ คู่ความคงฎีกาได้เฉพาะคดีส่วนทางแพ่งเท่านั้น และในการพิจารณาคดีส่วนแพ่งในชั้นฎีกานี้ ศาลฎีกาย่อมต้องฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลล่างที่ได้ฟังไว้ในคดีส่วนอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1740/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีอาญาและแพ่งปนกัน ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงสอดคล้องกับศาลล่างในส่วนอาญา แม้ฎีกาเฉพาะแพ่ง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยยักยอกทรัพย์ ขอให้ลงโทษทางอาญาและเรียกทรัพย์คืนมีราคา เกิน 2,000 บาท ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยผิดสัญญาทางแพ่งไม่ผิดฐานยักยอก จึงพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้คดีส่วนอาญาย่อมถือว่ายุติ คู่ความคงฎีกาได้เฉพาะคดีส่วนทางแพ่งเท่านั้น และในการพิจารณาคดีส่วนแพ่งในชั้นฎีกานี้ ศาลฎีกาย่อมต้องฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลล่างที่ได้ฟังไว้ในคดีส่วนอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญาคดีลักทรัพย์ เนื่องจากการระบุวันเวลาการกระทำผิดไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกข้าวสารของโจทก์ แต่ในฟ้องระบุแต่เพียงวันที่จำเลยได้รับมอบข้าวไปจากโจทก์ มิได้ระบุวันเวลาที่หาว่า จำเลยยักยอกข้าวไว้เลย และจะตีความว่าโจทก์หาเอาวันที่มอบข้าวเป็นวันกระทำผิด ก็ไม่ได้แล้ว ก็ต้องถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความขัดแย้งในการบรรยายฟ้องฉ้อโกงและยักยอก ทำให้ฟ้องไม่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยเอาความเท็จ มาหลอกลวงผู้เสียหายว่า จะเอารถยนต์ซึ่งจำเลยเอามามอบให้ผู้เสียหายไว้เป็นประกันเงินกู้ไปบรรทุกผลไม้ เจ้าทุกข์หลงเชื่อ จึงมอบรถให้ไปหรือเจ้าทุกข์มอบรถยนต์ให้จำเลยโดยจำเลยยืมเอาไปรับจ้างบรรทุกผลไม้แล้วจะส่งคืน แล้วจำเลยจึงเอาไปขายเสีย ขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304,314 ดังนี้ เป็นฟ้องที่บรรยายการกระทำของจำเลยขัดกันอยู่ในตัวและขาดองค์ความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกเป็นฟ้องไม่ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องฉ้อโกง/ยักยอกขัดแย้งในตัวเอง ขาดองค์ความผิด
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยเอาความเท็จ มาหลอกลวงผู้เสียหายว่าจะเอารถยนต์ซึ่งจำเลยเอามามอบให้ผู้เสียหายไว้เป็นประกันกู้ไปบรรทุกผลไม้เจ้าทุกข์หลงเชื่อ จึงมอบรถให้ไปหรือเจ้าทุกข์มอบรถยนต์ให้จำเลยโดยจำเลยยืมเอาไปรับจ้างบรรทุกผลไม้แล้วจะส่งคืน แล้วจำเลยจึงเอาไปขายเสีย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 304, 314 ดังนี้เป็นฟ้องที่บรรยายการกระทำของจำเลยขัดกันอยู่ในตัวและขาดองค์ความผิดฐานฉ้อฏดงและยักยอกเป็นฟ้อง ไม่ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1049/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ผ่านทนาย: การมอบเงินให้ทนายในฐานะตัวแทนเจ้าหนี้ ไม่ถือเป็นการมอบหมายให้ชำระหนี้แทนลูกหนี้
ทนายความของเจ้าหนี้มีหนังสือถึงลูกหนี้ว่า เจ้าหนี้มอบให้ทนายฟ้องเรียกเงินหนี้ให้เจ้าหนี้ จึงให้ลูกหนี้นำเงินไปชำระเสีย ลูกหนี้จึงนำเงินหนี้ไปชำระแก่ทนายความของเจ้าหนี้ ดังนี้ตามคำฟ้อง เห็นได้ว่าทนายเจ้าหนี้รับเงินไว้ในฐานเป็นตัวแทนเจ้าหนี้ ไม่ใช่ฐานเป็นตัวแทนลูกหนี้เพื่อเอาเงินนั้นไปชำระแก่เจ้าหนี้ ลูกหนี้จะฟ้องหาว่า ทนายยักยอกเงินนั้นในทางอาญาไม่ได้