พบผลลัพธ์ทั้งหมด 279 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานมีวัตถุระเบิด และการปรับบทลงโทษฐานบุกรุก
ความผิดฐานมีวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ นั้น เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจมีลูกระเบิดขว้างชนิดสังหารแบบ 88 บ. 61 จำนวน 1 ลูก อันเป็นลูกระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ก็เป็นฟ้องที่ครบถ้วนองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 3, 5 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 7(พ.ศ. 2501)(12) แล้วไม่จำต้องบรรยายว่า.เป็นลูกระเบิดที่ใช้ขว้างและระเบิดได้
ความผิดฐานบุกรุก เมื่อศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 แล้ว ก็ไม่จำต้องยกมาตรา 362 และ 364 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก
ความผิดฐานบุกรุก เมื่อศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 แล้ว ก็ไม่จำต้องยกมาตรา 362 และ 364 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจริบเสื่อใช้ปูรองเล่นพนัน แม้เป็นของใช้ทั่วไป แต่ใช้ประกอบการกระทำผิดได้
เสื่อผืนของกลางแม้โดยสภาพจะใช้รองนั่งนอนก็ดี แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้จากคำฟ้องของโจทก์และคำให้การรับของจำเลยว่าเสื่อของกลางได้ใช้ปูรองเล่นการพนันแปดเก้าบนพื้นดินใต้ร่มมะขาม เป็นเครื่องที่ใช้ในการกระทำผิดในวงเล่นการพนัน จึงถือได้ว่าเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้ใช้ เป็นเครื่องมือประกอบในการกระทำผิดเล่นการพนัน ศาลย่อมมีอำนาจริบได้ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 10 ประกอบกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจริบของกลาง: เสื่อใช้ปูรองเล่นพนันเป็นเครื่องมือประกอบการกระทำผิดได้
เสื่อผืนของกลางแม้โดยสภาพจะใช้รองนั่งนอนก็ดี แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้จากคำฟ้องของโจทก์และคำให้การรับของจำเลย ว่า เสื่อของกลางได้ใช้ปูรองเล่นการพนันแปดเก้าบนพื้นดินใต้ร่มมะขามเป็นเครื่องที่ใช้ในการกระทำผิดในวงเล่นการพนัน จึงถือได้ว่าเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้ใช้เป็นเครื่องมือประกอบในการกระทำผิดเล่นการพนัน ศาลย่อมมีอำนาจริบได้ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 10 ประกอบกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีละเมิด: ความเพียงพอของข้ออ้างตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
การฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดอันเกิดจากความประมาทเลินเล่อในคดีแพ่งนั้น ต่างกับการฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกระทำผิดอาญาโดยประมาท ซึ่งโจทก์จะต้องบรรยายฟ้องถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดโดยแน่ชัด ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 สำหรับคดีแพ่ง เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องแสดงว่าการละเมิดของผู้ทำละเมิดเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ก็พอทำให้เข้าใจได้แล้วว่าข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์มีอย่างไร
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังในการขับรถยนต์ของผู้ขับขี่รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ล.บ.03951 ของจำเลยที่ 3 กับ ย. ลูกจ้างขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ส.ค.00331 ของจำเลยที่ 1, 2 เป็นเหตุให้รถยนต์ทั้งสองคันดังกล่าวชนกัน และเนื่องจากการชนกันนี้เป็นเหตุให้ถังบรรจุขวดเบียร์และโซดาซึ่งบรรทุกอยู่บนรถยนต์บรรทุกคันหมายเลขทะเบียน ส.ค.00331 หล่นลงบนรถยนต์คันที่โจทก์ขับและเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายสาหัสเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังในการขับรถยนต์ของผู้ขับขี่รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ล.บ.03951 ของจำเลยที่ 3 กับ ย. ลูกจ้างขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ส.ค.00331 ของจำเลยที่ 1, 2 เป็นเหตุให้รถยนต์ทั้งสองคันดังกล่าวชนกัน และเนื่องจากการชนกันนี้เป็นเหตุให้ถังบรรจุขวดเบียร์และโซดาซึ่งบรรทุกอยู่บนรถยนต์บรรทุกคันหมายเลขทะเบียน ส.ค.00331 หล่นลงบนรถยนต์คันที่โจทก์ขับและเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายสาหัสเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีละเมิดจากความประมาทเลินเล่อในคดีแพ่ง ต้องแสดงให้เห็นการกระทำที่ประมาทโดยชัดเจน
การฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดอันเกิดจากความประมาทเลินเล่อในคดีแพ่งนั้น ต่างกับการฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกระทำผิดอาญาโดยประมาท ซึ่งโจทก์จะต้องบรรยายฟ้องถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดโดยแน่ชัดดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158สำหรับคดีแพ่ง เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องแสดงว่าการละเมิดของผู้ทำละเมิดเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ก็พอทำให้เข้าใจได้แล้วว่าข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์มีอย่างไร
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังในการขับรถยนต์ของผู้ขับขี่รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ล.บ.03951ของจำเลยที่ 3 กับ ย. ลูกจ้างขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียนส.ค.00331 ของจำเลยที่ 1, 2 เป็นเหตุให้รถยนต์ทั้งสองคันดังกล่าวชนกัน และเนื่องจากการชนกันนี้เป็นเหตุให้ถังบรรจุขวดเบียร์และโซดาซึ่งบรรทุกอยู่บนรถยนต์บรรทุกคันหมายเลขทะเบียน ส.ค.00331 หล่นลงบนรถยนต์คันที่โจทก์ขับและเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายสาหัสเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังในการขับรถยนต์ของผู้ขับขี่รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ล.บ.03951ของจำเลยที่ 3 กับ ย. ลูกจ้างขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียนส.ค.00331 ของจำเลยที่ 1, 2 เป็นเหตุให้รถยนต์ทั้งสองคันดังกล่าวชนกัน และเนื่องจากการชนกันนี้เป็นเหตุให้ถังบรรจุขวดเบียร์และโซดาซึ่งบรรทุกอยู่บนรถยนต์บรรทุกคันหมายเลขทะเบียน ส.ค.00331 หล่นลงบนรถยนต์คันที่โจทก์ขับและเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายสาหัสเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีละเมิดทางแพ่ง ความประมาทเลินเล่อ เพียงระบุการกระทำโดยรวมก็เพียงพอแล้ว
การฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดอันเกิดจากความประมาทเลินเล่อในทางแพ่งต่างกับการฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกระทำผิดอาญาโดยประมาท ซึ่งโจทก์จะต้องบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดโดยแน่ชัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 สำหรับคดีแพ่งเมื่อโจทก์ได้บรรยายฟ้องแสดงว่าการละเมิดของผู้ทำละเมิดเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ก็พอให้เข้าใจได้แล้วว่า ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์มีอย่างไร
โจทก์บรรยายฟ้องว่า นายย้าผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกเลขทะเบียน ส.ค. 00331 ซึ่งบรรทุกเบียร์และโซดา ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับรถยนต์เลขทะเบียน ล.บ. 03951 เป็นเหตุให้ลังเบียร์และโซดากระเด็นตกจากรถ ถูกรถยนต์หมายเลขทะเบียน ก.ท. ก 5252 ที่เอาประกันภัยไว้กับโจทก์เสียหาย เหตุที่รถเฉี่ยวชนกันเกิดขึ้นเพราะความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์เลขทะเบียน ส.ค. 00221 และผู้ขับขี่รถยนต์เลขทะเบียน ล.บ. 03951 ดังนี้ เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 แล้ว
โจทก์บรรยายฟ้องว่า นายย้าผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกเลขทะเบียน ส.ค. 00331 ซึ่งบรรทุกเบียร์และโซดา ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับรถยนต์เลขทะเบียน ล.บ. 03951 เป็นเหตุให้ลังเบียร์และโซดากระเด็นตกจากรถ ถูกรถยนต์หมายเลขทะเบียน ก.ท. ก 5252 ที่เอาประกันภัยไว้กับโจทก์เสียหาย เหตุที่รถเฉี่ยวชนกันเกิดขึ้นเพราะความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์เลขทะเบียน ส.ค. 00221 และผู้ขับขี่รถยนต์เลขทะเบียน ล.บ. 03951 ดังนี้ เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีละเมิด: เพียงแสดงความประมาทเลินเล่อก็เพียงพอแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
การฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดอันเกิดจากความประมาทเลินเล่อในทางแพ่งต่างกับการฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกระทำผิดอาญาโดยประมาท ซึ่งโจทก์จะต้องบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดโดยแน่ชัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 สำหรับคดีแพ่งเมื่อโจทก์ได้บรรยายฟ้องแสดงว่าการละเมิดของผู้ทำละเมิดเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ก็พอให้เข้าใจได้แล้วว่า ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์มีอย่างไร
โจทก์บรรยายฟ้องว่า นายย้าผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกเลขทะเบียนส.ค. 00331 ซึ่งบรรทุกเบียร์และโซดา ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับรถยนต์เลขทะเบียน ล.บ. 03951 เป็นเหตุให้ลังเบียร์และโซดากระเด็นตกจากรถ ถูกรถยนต์หมายเลขทะเบียน ก.ท.ก 5252 ที่เอาประกันภัยไว้กับโจทก์เสียหาย เหตุที่รถเฉี่ยวชนกันเกิดขึ้นเพราะความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์เลขทะเบียน ส.ค.00221 และผู้ขับขี่รถยนต์เลขทะเบียน ล.บ. 03951 ดังนี้ เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 แล้ว
โจทก์บรรยายฟ้องว่า นายย้าผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกเลขทะเบียนส.ค. 00331 ซึ่งบรรทุกเบียร์และโซดา ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับรถยนต์เลขทะเบียน ล.บ. 03951 เป็นเหตุให้ลังเบียร์และโซดากระเด็นตกจากรถ ถูกรถยนต์หมายเลขทะเบียน ก.ท.ก 5252 ที่เอาประกันภัยไว้กับโจทก์เสียหาย เหตุที่รถเฉี่ยวชนกันเกิดขึ้นเพราะความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์เลขทะเบียน ส.ค.00221 และผู้ขับขี่รถยนต์เลขทะเบียน ล.บ. 03951 ดังนี้ เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาตามยอมต่อผู้เยาว์โดยผู้แทนเฉพาะคดี การบังคับคดีตามคำพิพากษา
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยโอนที่ดินและเรือนให้โจทก์ กับให้ขับไล่จำเลยออกไปแล้วโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมออกจากทรัพย์พิพาทและยอมโอนให้โจทก์ ศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว แม้จำเลยบางคนจะเป็นผู้เยาว์ แต่คำพิพากษาตามยอมนั้นก็มีผลผูกพันคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 จำเลยซึ่งเป็นผู้เยาว์เป็นคู่ความในคดีอยู่แล้ว โดยมี ก. เป็นผู้แทนเฉพาะคดี และไม่มีอุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมจนคดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีแก่จำเลยตามคำพิพากษาตามยอมได้ ศาลจะปฏิเสธการบังคับคดีแก่จำเลยซึ่งเป็นผู้เยาว์โดยอ้างว่า ก.ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์โดยมิได้รับอนุญาตจากศาลก่อน ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546(4) ดังนี้ หาชอบไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาตามยอมต่อผู้เยาว์โดยมีผู้แทนเฉพาะคดี ศาลอนุญาตให้ทำสัญญาประนีประนอมได้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยโอนที่ดินและเรือนให้โจทก์กับให้ขับไล่จำเลยออกไปแล้วโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยจำเลยยอมออกจากทรัพย์พิพาทและยอมโอนให้โจทก์ ศาลได้พิพากษาตามยอมแล้วแม้จำเลยบางคนจะเป็นผู้เยาว์ แต่คำพิพากษาตามยอมนั้นก็มีผลผูกพันคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 จำเลยซึ่งเป็นผู้เยาว์เป็นคู่ความในคดีอยู่แล้วโดยมี ก. เป็นผู้แทนเฉพาะคดี และไม่มีอุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมจนคดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีแก่จำเลยตามคำพิพากษาตามยอมได้ ศาลจะปฏิเสธการบังคับคดีแก่จำเลยซึ่งเป็นผู้เยาว์โดยอ้างว่า ก.ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์โดยมิได้รับอนุญาตจากศาลก่อน ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546(4) ดังนี้ หาชอบไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมียาเสพติดเพื่อขาย ศาลฎีกาแก้โทษปรับบทเกินกว่าที่กฎหมายบัญญัติ
จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อขายหรือจำหน่าย เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465มาตรา 20 ทวิ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504มาตรา 6 ศาลอุทธรณ์ปรับบทตามมาตรา 20 ตรี แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวมาด้วย เป็นการเกินไป