คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุเมธ ทิพยมนตรี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 279 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระหนี้จากสินสมรสหลังบอกล้างสัญญาค้ำประกัน: ต้องแยกสินส่วนตัวก่อนยึด
เมื่อผู้ร้องซึ่งเป็นสามีได้บอกล้างสัญญาค้ำประกันซึ่งจำเลยที่ 2 ผู้เป็นภริยาทำไว้กับโจทก์แล้ว ย่อมมีผลทำให้สัญญาค้ำประกันนั้นในส่วนที่ผูกพันสินบริคณห์ตกเป็นโมฆะ แต่ยังสมบูรณ์อยู่เฉพาะในส่วนที่ผูกพันสินส่วนตัวของจำเลยที่ 2 โจทก์จะต้องบังคับชำระเอาจากสินส่วนตัวของจำเลยที่ 2 หากสินส่วนตัวของจำเลยที่ 2 ไม่มี หรือมีไม่พอ และโจทก์ประสงค์จะบังคับชำระหนี้เอาจากส่วนของจำเลยที่ 2 ในสินบริคณห์ โจทก์ต้องร้องต่อศาลให้แยกสินบริคณห์ระหว่างจำเลยที่ 2 กับผู้ร้องเสียก่อน แล้วจึงนำยึดส่วนของจำเลยที่ 2 เพื่อชำระหนี้ โจทก์จะนำยึดสินบริคณห์ก่อนขอแยกสินบริคณห์ออกเป็นส่วนของจำเลยที่ 2ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารรับรองโดยเจ้าหน้าที่: สันนิษฐานว่าเป็นหลักฐานแท้จริง
สำเนาทะเบียนบ้านซึ่งเจ้าหน้าที่รับรองว่ามารดาจำเลยคือเจ้ามรดก เอกสารนี้กฎหมายสันนิษฐานว่าแท้จริงและถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิรับมรดกของบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรอง
บุตรนอกกฎหมายซึ่งบิดารับรองโดยเลี้ยงดูร่วมบ้านให้เรียกว่าบิดา เป็นที่รู้กันทั่วไป รับมรดกของบิดาได้ตาม มาตรา 1627พี่น้องของเจ้ามรดกซึ่งเป็นทายาทลำดับถัดไปอ้างอายุความมาตัดบุตรซึ่งเป็นทายาทลำดับที่ 1 ไม่ได้ตามมาตรา 1755

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 104/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คลงวันที่ไม่สมบูรณ์, อายุความ และการเรียกเงินตามเช็ค
กู้เงินโดยออกเช็คให้แก่ผู้ให้กู้ เช็คนั้นมิได้ลงวันที่ ดังนี้ไม่ถือว่าได้ตกลงกันอยู่ในตัวว่าผู้กู้ผิดนัดลงเมื่อใด ผู้ให้กู้กรอกวันลงและนำเช็คไปขึ้นเงินได้ ผู้ให้กู้กรอกวันหลังจากออกเช็คกว่า 10 ปีธนาคารไม่จ่ายเงิน คดีขาดอายุความ 1 ปี ตาม มาตรา1002
คำฟ้องระบุข้อหาว่า ตั๋วเงิน กล่าวถึงกู้เงินโดยออกเช็คให้ไว้แล้วธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงิน ขอให้ใช้เงินกับดอกเบี้ยในต้นเงิน เป็นคำฟ้องเรียกเงินตามเช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเคลื่อนย้ายซากสัตว์เข้าเขตโรคระบาดที่มีใบอนุญาตแต่ขัดเงื่อนไข ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์มาตรา 34 มิใช่ความผิดตามมาตราที่ฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำซากสัตว์เคลื่อนย้ายผ่านเข้ามาในเขตโรคระบาดสัตว์และสงสัยว่ามีโรคระบาดสัตว์โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ มาตรา 17 และ 42 ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเคลื่อนย้ายซากสัตว์ผ่านเข้ามาในเขตโรคระบาดและสงสัยว่ามีโรคระบาดสัตว์โดยมีหนังสืออนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ใบอนุญาตดังกล่าวอนุญาตให้เคลื่อนย้ายซากสัตว์เข้าในหรือผ่านได้เฉพาะเขตปลอดโรคระบาด ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงฝ่าฝืนเงื่อนไขในใบอนุญาตอันเป็นความผิดตามมาตรา 34 วรรค 2 และ 49 ไม่เป็นความผิดตามบทมาตราที่โจทก์ฟ้องศาลจะลงโทษจำเลยไม่ได้เพราะข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณา ไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 3 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2499 มาตรา 13

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเคลื่อนย้ายซากสัตว์เข้าเขตโรคระบาดที่มีใบอนุญาตแต่ขัดเงื่อนไข ศาลยกฟ้องเนื่องจากความผิดตามที่ฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำซากสัตว์เคลื่อนย้ายผ่านเข้ามาในเขตโรคระบาดสัตว์ และสงสัยว่ามีโรคระบาดสัตว์โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ มาตรา 17 และ 42 ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเคลื่อนย้ายซากสัตว์ผ่านเข้ามาในเขตโรคระบาดและสงสัยว่ามีโรคระบาดสัตว์โดยมีหนังสืออนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วแต่ใบอนุญาตดังกล่าวอนุญาตให้เคลื่อนย้ายซากสัตว์เข้าในหรือผ่านได้เฉพาะเขตปลอดโรคระบาด ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงฝ่าฝืนเงื่อนไขในใบอนุญาตอันเป็นความผิดตามมาตรา 34 วรรค 2 และ 49 ไม่เป็นความผิดตามบทมาตราที่โจทก์ฟ้อง ศาลจะลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 3 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2499 มาตรา 13

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิถอนคำร้องทุกข์ในคดีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตกทอดแก่ทายาท ทำให้คดีระงับ
การถอนคำร้องทุกข์เป็นสิทธิซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 126 วรรค 1 บัญญัติให้ไว้แก่ผู้ร้องทุกข์ที่จะถอนคำร้องทุกข์เสียเมื่อใดก็ได้ และสิทธิถอนคำร้องทุกข์ในคดีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เป็นสิทธิเกี่ยวกับทรัพย์สินเมื่อผู้ร้องทุกข์ตายย่อมตกทอดแก่ทายาท ฉะนั้น เมื่อผู้ร้องทุกข์ในคดีดังกล่าวตาย มารดาผู้ร้องทุกข์ซึ่งเป็นทายาทจึงมีสิทธิถอนคำร้องทุกข์นั้นได้ แม้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 206/2488)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358ซึ่งมาตรา 361 บัญญัติว่าเป็นความผิดอันยอมความได้เมื่อได้ถอนคำร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) คำพิพากษาของศาลล่างก็ย่อมระงับไปในตัวไม่มีผลบังคับต่อไป ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิถอนฟ้องในคดีอาญา ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ผู้ตายมอบสิทธิให้ทายาทได้ ทำให้สิทธิฟ้องระงับ
การถอนคำร้องทุกข์เป็นสิทธิซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 126 วรรค 1 บัญญัติให้ไว้แก่ผู้ร้องทุกข์ที่จะถอนคำร้องทุกข์เสียเมื่อใดก็ได้ และสิทธิถอนคำร้องทุกข์ในคดีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เป็นสิทธิเกี่ยวกับทรัพย์สินเมื่อผู้ร้องทุกข์ตายย่อมตก ทอดแก่ทายาท ฉะนั้นเมื่อผู้ร้องทุกข์ในคดีดังกล่าวตาย มารดาผู้ร้องทุกข์ซึ่งเป็นทายาทจึงมีสิทธิถอนคำร้องทุกข์นั้นได้แม้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 206/2488)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ซึ่งมาตรา 361 บัญญัติว่าเป็นความผิดอันยอมความได้ เมื่อได้ถอนคำร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39 (2) คำพิพากษาของศาลล่างก็ย่อมระงับไปในตัวไม่มีผลบังคับต่อไป ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งในจำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2907-2928/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดครองที่สาธารณะโดยสำคัญผิดและใช้ประโยชน์ทำนา ไม่ถึงขั้นทำให้เสียทรัพย์
ที่ดินพิพาทที่จำเลยยึดถือครอบครอง แม้จะอยู่ในเขตที่สาธารณะแต่จำเลยเข้ายึดถือครอบครองมาหลายปีแล้วโดยสำคัญว่าตนมีสิทธิครอบครอง แม้จำเลยจะแผ้วถางก่นสร้าง ก็กระทำเพื่อมุ่งประสงค์จะทำนาในที่ดินนั้น ๆ อันเป็นการที่จำเลยใช้สิทธิในที่ดินตามสมควรในการทำนาตามสภาพปกติของที่ดินโดยที่ไม่ปรากฏความเสียหายที่แท้จริงหรือได้ทำลายทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ในที่ดินประการใดการเข้าทำนาตามสภาพของที่ดินเป็นการห่างไกลเกินความประสงค์ของเรื่องทำให้เสียทรัพย์ ทั้งจำเลยหาได้มีเจตนาโดยตรงที่จะทำให้เสียทรัพย์ไม่ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2907-2928/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดครองที่ดินสาธารณะโดยสำคัญผิดและใช้ประโยชน์ตามสภาพ ไม่ถึงขั้นทำให้เสียทรัพย์
ที่ดินพิพาทที่จำเลยยึดถือครอบครอง แม้จะอยู่ในเขตที่สาธารณะ แต่จำเลยเข้ายึดถือครอบครองมาหลายปีแล้วโดยสำคัญว่าตนมีสิทธิครอบครอง แม้จำเลยจะแผ้วถางก่นสร้างก็กระทำเพื่อมุ่งประสงค์จะทำนาในที่ดินนั้นๆ อันเป็นการที่จำเลยใช้สิทธิในที่ดินตามสมควรในการทำนาตามสภาพ ปกติของที่ดิน โดยที่ไม่ปรากฏความเสียหายที่แท้จริงหรือได้ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ในที่ดินประการใด การเข้าทำนาตามสภาพของที่ดินเป็นการห่างไกลเกินความประสงค์ของเรื่องทำให้เสียทรัพย์ ทั้งจำเลยหาได้มีเจตนาโดยตรงที่จะทำให้เสียทรัพย์ไม่ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360
of 28