คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 148

คดีฆ่าคนตายที่ยังไม่ได้ชันสูตรพลิกศพเพราะเหตุที่ไม่สามารถจะทำการชันสูตรได้ทันท่วงทีโดยศพผู้ตายได้ถูกเผาเสียก่อนแล้วนั้น โจทก์มีอำนาจฟ้องคดีนั้นได้ แม้จะยังไม่มีการชันสูตรตามกฎหมายเสียก่อนก็ตาม

ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยเป็น+กองกำกับการตำรวจเทศบาล มีหน้าที่เกี่ยวแก่การบัญชีพัสดุและการเงินสดในการเบิกจ่ายเครื่องใช้และเครื่องแบบตำรวจเทศบาล+ข้อความอันเป็นหลักฐาน+ลงในใบสั่งตัด เพื่อจะใช้เบิกเงินจากเทศบาล+กรุงเทพฯ และโจทก์เห็นว่าจำเลยมีหน้าที่สลัก+ใบสั่งตัดคืนให้ผู้รับเหมาเพื่อเบิกเงินทางเทศบาล+การสืบนอกฟ้องนอกประเด็น

โจทก์เคยฟ้องเรียกเงินมัดจำคืนโดยหาว่าจำเลยผิดสัญญาศาลยกฟ้องภายหลัง จำเลยตกอยู่ในฐานะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้โจทก์ก็ฟ้องเรียกเงินมัดจำคืนได้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเบิกความเท็จ แต่มิได้กล่าวว่าจำเลยเบิกความเท็จในสำนวนไหน เพราะมีคดีที่จำเลยได้เคยเบิกความเกี่ยวข้องกัน 2 สำนวนและทั้งมิได้กล่าวว่าจำเลยเบิกความเท็จในข้อไร ข้อไหนเป็นเท็จข้อไหนเป็นจริง ข้อไหนเป็นสาระสำคัญ ดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุม ศาลต้องยกฟ้อง ถ้าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมโจทก์ต้องยื่นคำร้องขอแก้ฟ้อง โจทก์จะแถลงอธิบายฟ้องลับหลังจำเลยมิได้

โจทก์ฟ้องแยกกันเป็น 2 สำนวน สำนวนหนึ่งว่าจำเลยสมคบกับพวกอีก 2 คนปล้นทรัพย์อีกสำนวนหนึ่งว่าจำเลยในสำนวนที่ 2 สมคบกับสำนวนแรกและพวกอีกคนหนึ่งปล้นทรัพย์รายเดียวกันทางพิจารณาปรากฎว่าจำเลยในสำนวนแรกทำผิดจริง แต่จำเลยในสำนวนหลังมิได้ทำผิดเช่นนี้ ลงโทษจำเลยในสำนวนแรกได้คดีไม่เข้า ม.192 ฎีกาอุทธรณ์ ฎีกาที่ระบุข้อเท็จจริงแต่เพียงย่อ ๆ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ในคดีเรื่องเบิกความเท็จฟ้องโจทก์กล่าวข้อความที่อ้างว่าจำเลยเบิกความเท็์จไว้แต่ในคำเบิกความของจำเลยไม่ปรากฎถ้อยคำเช่นนั้นจะลงโทษจำเลยมิได้

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดในเดือน 9 ปีพะยานโจทก์ 2 ปากให้การว่าความผิดเกิดในเดือน 8 ปรากฎว่าปีนั้นมีเดือน 8 สอง 8 และมีพะยานหลักฐานอื่น ๆ ชัดเจนว่าจำเลยทำผิดในเดือน 9 ตรงตามฟ้องของโจทก์ เหตุเท่านี้ไม่ทำให้คดีของโจทย์เสียไป