พบผลลัพธ์ทั้งหมด 798 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1929/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความไม่สมบูรณ์เมื่อมีการถอนข้อตกลงก่อนการยินยอมของทุกฝ่าย
ข้อตกลงซึ่งโจทก์กับจำเลยบางคนได้ตกลงกันและผูกพันถึงจำเลยบางคนที่ไม่มาศาล และไม่ได้ทำความตกลงด้วย แม้ภายหลังจำเลยที่ไม่มาศาลได้มายอมรับตามข้อตกลงนั้น แต่จำเลยอื่นที่ตกลงไว้ก่อนได้ขอถอนข้อตกลงเสียก่อนนั้นแล้ว ดังนี้ ศาลจะพิพากษาคดีไปตามข้อตกลงนั้นไม่ได้ เพราะได้มีการขอถอนเสียก่อนที่ข้อตกลงนั้นจะใช้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความโดยสมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1929/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงก่อนการยอมความสมบูรณ์และการถอนข้อตกลง: ศาลไม่สามารถบังคับตามข้อตกลงเดิมได้หากมีการถอนก่อนการยอมความ
ข้อตกลงซึ่งโจทก์กับจำเลยบางคนได้ตกลงกันและผูกพันถึงจำเลยบางคนที่ไม่มาศาล และไม่ได้ทำความตกลงด้วย แม้ภายหลังจำเลยที่ไม่มาศาลได้มายอมรับตามข้อตกลงนั้น แต่จำเลยอื่นที่ตกลงไว้ก่อนได้ขอถอนข้อตกลงเสียก่อนนั้นแล้ว ดังนี้ ศาลจะพิพากษาคดีไปตามข้อตกลงนั้นไม่ได้ เพราะได้มีการขอถอนเสียก่อนที่ข้อตกลงนั้นจะใช้เป็นสัญญาปราณีประนอมยอมความโดยสมบูรณ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1918-1919/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดสมคบกันปล้นทรัพย์และพยายามปล้นทรัพย์: ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
คดีที่หาว่า จำเลยปล้นทรัพย์ 2 ราย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดจริงดังข้อหาทั้ง 2 ราย พิพากษารวมกะทงให้จำคุกจำเลยคนละ 10 ปี ลดกึ่งหนึ่งคงเหลือ 5 ปี ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยพยายามปล้นทรัพย์รายเดียวพิพากษาแก้ให้จำคุกคนละ 6 ปี 8 เดือน ลด 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 4 ปี 5 เดือน 10 วัน ยกฟ้องรายหนึ่ง ดังนี้ โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1918-1919/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดสมคบกันปล้นทรัพย์และการพยายามปล้นทรัพย์ ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น
คดีที่หาว่า จำเลยปล้นทรัพย์ 2 ราย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดจริงดังข้อหาทั้ง 2 รายพิพากษารวมกระทงให้จำคุกจำเลยคนละ 10 ปี ลดกึ่งหนึ่งคงเหลือ 5 ปี ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยพยายามปล้นทรัพย์รายเดียวพิพากษาแก้ให้จำคุกคนละ 6 ปี 8 เดือน ลด 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 4 ปี 5 เดือน 10 วัน ยกฟ้องรายหนึ่ง ดังนี้ โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1916/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วม การแบ่งทรัพย์สิน และอำนาจศาลในการบังคับแบ่ง
เมื่อคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยได้ความชัดแล้วว่าทั้งสองฝ่ายเป็นของกรรมสิทธิ์ร่วมกัน และจำเลยก็ยอมให้แบ่ง ครั้นถึงวันเปรียบเทียบต่างแถลงจะแบ่งเอาตรงนั้นเอาตรงนี้อ้างว่าเคยปกครองมา ดังนี้ ถือว่าที่แถลงดังนั้นไม่ทำให้ประเด็นแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไป เมื่อแบ่งกันไม่ตกลงศาลมีอำนาจให้แบ่งโดยประมูลราคาหรือขายทอดตลาดได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1916/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิร่วม การแบ่งทรัพย์สิน และอำนาจศาลในการบังคับให้แบ่งหรือขายทอดตลาด
เมื่อคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยได้ความชัดแล้วว่า ทั้งสองฝ่ายเป็นของกรรมสิทธิร่วมกัน และจำเลยก็ยอมให้แบ่ง ครั้นถึงวันเปรียบเทียบต่างแถลงจะแบ่งเอาตรงนั้นเอาตรงนี้ อ้างว่าเคยปกครองมา ดังนี้ ถือว่าที่แถลงดังนั้นไม่ทำให้ประเด็นแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไป เมื่อแบ่งกันไม่ตกลง ศาลมีอำนาจให้แบ่งโดยประมูลราคาหรือขาดทอดตลาดได้ตาม ป.พ.พ.ม.1364.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1909/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางในคดี พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ต้องมีผู้กระทำผิดตามมาตรา 10 จึงจะริบได้
ข้าวและเรือที่ใช้บรรทุกข้าวของกลางในคดีที่หาว่า ทำผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว จะริบได้ต่อเมื่อปรากฏว่ามีผู้หนึ่งผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 10 หากยังไม่ปรากฏว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 แล้วจะริบมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1909/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางในคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ต้องมีผู้กระทำผิดตามมาตรา 10 เท่านั้น
ข้าวและเรือที่ใช้บรรทุกข้าวของกลางในคดีที่หาว่า ทำผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว จะริบได้ต่อเมื่อปรากฎว่ามีผู้หนึ่งผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 หากยังไม่ปรากฎว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 แล้วจะริบมิได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1903/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากไม่สามารถส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยได้ แม้คดีเกี่ยวข้องกับเงินรางวัลนำจับ
แม้โจทก์ฎีกาในเรื่องเงินรางวัลนำจับอย่างเดียว ถ้าส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาก็สั่งจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1903/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากจำเลยถูกเนรเทศและไม่สามารถส่งสำเนาฎีกาให้ได้
แม้โจทก์ฎีกาในเรื่องเงินรางวัลนำจับอย่างเดียว ถ้าส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาก็สั่งจำหน่ายคดี.