พบผลลัพธ์ทั้งหมด 798 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1793/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการขังจำเลย: ศาลไม่อนุญาตขังหากมีวิธีบังคับคดีอื่น
การสั่งขังจำเลยเพื่อให้ปฏิบัติตามคำพิพากษานั้นต้องไม่มีวิธีบังคับทางอื่นได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1793/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการขังจำเลย: ต้องไม่มีวิธีบังคับอื่นอีก
การสั่งขังจำเลยเพื่อให้ปฎิบัติตามคำพิพากษานั้นต้องไม่มีวิธีบังคับทางอื่นได้อีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ร่วมสามีภริยาและการบังคับชำระหนี้จากสินบริคณห์ กรณีสามีไม่ได้ยินยอมและบอกล้าง
ที่จะถือว่าเป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยาได้นั้นโจทก์จะต้องนำสืบให้เห็นว่า เป็นหนี้ที่ต้องด้วยลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ตาม มาตรา 1482
หากเป็นหนี้ที่ภริยาไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมอนุญาต และสามีได้บอกล้างแล้ว เจ้าหนี้จะยึดสินบริคณห์ทั้งหมดมาชำระหนี้มิได้ เจ้าหนี้ต้องขอแบ่งแยกสินบริคณห์ส่วนของภริยาออกชำระหนี้ทางศาล ตามมาตรา 1483ถ้าเจ้าหนี้มิได้ขอแบ่งสินบริคณห์ ศาลจะสั่งแยกไปทีเดียวไม่ได้
หากเป็นหนี้ที่ภริยาไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมอนุญาต และสามีได้บอกล้างแล้ว เจ้าหนี้จะยึดสินบริคณห์ทั้งหมดมาชำระหนี้มิได้ เจ้าหนี้ต้องขอแบ่งแยกสินบริคณห์ส่วนของภริยาออกชำระหนี้ทางศาล ตามมาตรา 1483ถ้าเจ้าหนี้มิได้ขอแบ่งสินบริคณห์ ศาลจะสั่งแยกไปทีเดียวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ร่วมสามีภริยาและการบังคับชำระหนี้จากสินบริคณห์
ที่จะถือว่าเป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยาได้นั้น โจทก์จะต้องนำสืบให้เห็นว่า เป็นหนี้ที่ต้องด้วยลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ตาม ม.1482
หากเป็นหนี้ที่ภริยาไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมอนุญาต และสามีได้บอกล้างแล้ว เจ้าหนี้จะยึดสินบริคณห์ทั้งหมดมาชำระหนี้มิได้ เจ้าหนี้ต้องขอแบ่งแยกสินบริคณห์ส่วนของภริยาออกชำระหนี้ทางศาล ตาม ม.1483 ถ้าเจ้าหนี้มิได้ขอแบ่งสินบริคณห์ ศาลจะสั่งแยกไปทีเดียวไม่ได้
หากเป็นหนี้ที่ภริยาไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมอนุญาต และสามีได้บอกล้างแล้ว เจ้าหนี้จะยึดสินบริคณห์ทั้งหมดมาชำระหนี้มิได้ เจ้าหนี้ต้องขอแบ่งแยกสินบริคณห์ส่วนของภริยาออกชำระหนี้ทางศาล ตาม ม.1483 ถ้าเจ้าหนี้มิได้ขอแบ่งสินบริคณห์ ศาลจะสั่งแยกไปทีเดียวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1790/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาแล้ว บิดามารดาผู้ตายไม่อาจฟ้องคดีเดิมซ้ำได้
ภรรยาผู้ตายได้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าฆ่าผู้ตาย โดยเจตนา ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้ไต่สวนมูลฟ้องแล้ว ต่อมาศาลได้อนุญาตให้ภรรยาผู้ตายถอนฟ้องแล้ว บิดามารดาของผู้ตายจะกลับมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานเดียวกันหาได้ไม่ เพราะถือว่าได้ถอนคดีอาญาไปจากศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 36
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1790/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาแล้ว บิดามารดาผู้ตายจะฟ้องซ้ำไม่ได้ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 36
ภรรยาผู้ตายได้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าฆ่าผู้ตาย โดยเจตนา ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้ไต่สวนมูลฟ้องแล้ว ต่อมาศาลได้อนุญาตให้ภรรยาผู้ตายถอนฟ้องแล้ว บิดามารดาของผู้ตายจะกลับมาฟ้องขอให้ลงโทษ จำเลยในความผิดฐานเดียวกันหาได้ไม่ เพราะถือว่าได้ถอนคดีอาญาไปจากศาลตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 36.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำท้าสืบพยานร่วม: การเบิกความไม่ตรงตามคำท้าทำให้คู่ความไม่ชนะคดีตามที่ตกลง
คำพะยานร่วมที่คู่ความท้ากันว่าหากเบิกความสมข้างฝ่ายใด ให้ผู้นั้นชนะคดี เมื่อพะยานที่ท้ากันเบิกความไม่สมข้างฝ่ายใด ก็ต้องดำเนินการพิจารณาต่อไป
คู่ความท้ากันว่า หากพะยานที่มาเบิกความนั้นเบิกความว่าจำนำกันก่อนผู้มีชื่อตาย โจทก์ยอมแพ้ หากจำนำภายหลังจำเลยยอมแพ้ หมายความว่าจำนำกันก่อนหรือหลัง ส่วนใครเป็นผู้จำนำไม่อยู่ในคำท้า.
คู่ความท้ากันว่า หากพะยานที่มาเบิกความนั้นเบิกความว่าจำนำกันก่อนผู้มีชื่อตาย โจทก์ยอมแพ้ หากจำนำภายหลังจำเลยยอมแพ้ หมายความว่าจำนำกันก่อนหรือหลัง ส่วนใครเป็นผู้จำนำไม่อยู่ในคำท้า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการท้าพยานร่วม: คำให้การต้องตรงกับประเด็นที่ท้า หากไม่ตรง สิทธิในการชนะคดีตามคำท้าเป็นอันตกไป
คำพยานร่วมที่คู่ความท้ากันว่าหากเบิกความสมข้างฝ่ายใดชนะคดีนั้น เมื่อพยานที่ท้ากันเบิกความไม่สมข้างฝ่ายใดก็ต้องดำเนินการพิจารณาต่อไป
คู่ความท้ากันว่า หากพยานที่มาเบิกความนั้นเบิกความว่าจำนำกันก่อนผู้มีชื่อตาย โจทก์ยอมแพ้ หากจำนำภายหลังจำเลยยอมแพ้ หมายความว่าจำนำกันก่อนหรือหลังส่วนใครเป็นผู้จำนำไม่อยู่ในคำท้า
คู่ความท้ากันว่า หากพยานที่มาเบิกความนั้นเบิกความว่าจำนำกันก่อนผู้มีชื่อตาย โจทก์ยอมแพ้ หากจำนำภายหลังจำเลยยอมแพ้ หมายความว่าจำนำกันก่อนหรือหลังส่วนใครเป็นผู้จำนำไม่อยู่ในคำท้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าตึกเพื่อค้าและอยู่อาศัย ไม่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า หากมีวัตถุประสงค์หลักคือการค้า
การเช่าตึกแถวเพื่อประกอบธุระกิจการค้า แม้จะอาศัยอยู่ในตึกด้วย ก็ไม่อยู่ในความคุ้มครองของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน.
โจทก์ฟ้องขับไล่อ้างว่าจำเลยเช่าตึกเพื่อการค้า จำเลยให้การว่า จำเลยอาศัยอยู่ในตึกด้วย ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้า ซึ่งไม่อยู่ในความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
(อ้างฎีกาที่ 218/2488 และฎีกาที่ 1099-1147/2491)
โจทก์ฟ้องขับไล่อ้างว่าจำเลยเช่าตึกเพื่อการค้า จำเลยให้การว่า จำเลยอาศัยอยู่ในตึกด้วย ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้า ซึ่งไม่อยู่ในความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
(อ้างฎีกาที่ 218/2488 และฎีกาที่ 1099-1147/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าเพื่อค้าและอยู่อาศัย ไม่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า หากมีวัตถุประสงค์หลักคือการค้า
การเช่าตึกแถวเพื่อประกอบธุระกิจการค้า แม้จะอาศัยอยู่ในตึกด้วย ก็ไม่อยู่ในความคุ้มครองของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
โจทก์ฟ้องขับไล่อ้างว่าจำเลยเช่าตึกเพื่อการค้า จำเลยให้การว่า จำเลยอาศัยอยู่ในตึกด้วย ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้า ซึ่งไม่อยู่ในความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ (อ้างฎีกาที่ 218/2488 และฎีกาที่ 1099-1147/2491)
โจทก์ฟ้องขับไล่อ้างว่าจำเลยเช่าตึกเพื่อการค้า จำเลยให้การว่า จำเลยอาศัยอยู่ในตึกด้วย ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้า ซึ่งไม่อยู่ในความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ (อ้างฎีกาที่ 218/2488 และฎีกาที่ 1099-1147/2491)