พบผลลัพธ์ทั้งหมด 798 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวหลังทำสัญญาซื้อฝากแล้ว แม้มีการยักยอกก่อนหน้า สิทธิเรียกร้องย่อมระงับ
จำเลยได้ทำใบรับเงินให้แก่ผู้เสียหาย 1 ฉบับ มีข้อความว่าจำเลยได้รับเงินจากผู้เสียหาย 1 หมื่นบาทเพื่อซื้อแร่จากจังหวัดยะลามาให้ผู้เสียหายแล้วจำเลยได้กลับมาแจ้งแก่ผู้เสียหายว่าได้เอาเงิน 7000 บาท ไปวางมัดจำสำหรับทำสัญญาซื้อแร่ และได้นำเงินที่เหลือมาคืน ต่อมาจำเลยจึงได้ทำสัญญาขายฝากโรงงานถลุงแร่ของจำเลยแก่ผู้เสียหายจำนวนราคาขายฝากให้ถือเอาหลักฐานที่จำเลยทำไว้กับผู้เสียหาย คือสัญญากู้ยืม และรับเงินรวม 3 ฉบับและเงินจำนวน 1 หมื่นบาทดังกล่าวข้างต้นได้รวมอยู่เป็นค่าซื้อฝากโรงงานด้วย หลังจากทำสัญญาขายฝากแล้วผู้เสียหายจึงได้ทราบว่า จำเลยยักยอกเอาเงิน 7000 บาทซึ่งอ้างว่าไปวางมัดจำซื้อแร่นั้น เอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย
การที่ผู้เสียหายตกลงทำสัญญากับจำเลยเอาเงินที่หาว่าจำเลยยักยอกไปรวมเป็นราคาค่าซื้อฝากของโรงงานของจำเลยเสร็จไปแล้วนั้น ผู้เสียหายจะกลับรื้อฟื้นขึ้นมาว่ากล่าวฟ้องร้องไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งขอให้คืนเงินรายนี้หรือทางอาญาขอให้ลงโทษฐานยักยอก เพราะการตกลงกับจำเลยดังกล่าวข้างต้นนั้น มีผลเป็นการยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวในเงินรายนี้แล้ว
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงผิดจากพยานหลักฐานในท้องสำนวนศาลฎีกาไม่จำต้องถือตามและมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2491)
การที่ผู้เสียหายตกลงทำสัญญากับจำเลยเอาเงินที่หาว่าจำเลยยักยอกไปรวมเป็นราคาค่าซื้อฝากของโรงงานของจำเลยเสร็จไปแล้วนั้น ผู้เสียหายจะกลับรื้อฟื้นขึ้นมาว่ากล่าวฟ้องร้องไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งขอให้คืนเงินรายนี้หรือทางอาญาขอให้ลงโทษฐานยักยอก เพราะการตกลงกับจำเลยดังกล่าวข้างต้นนั้น มีผลเป็นการยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวในเงินรายนี้แล้ว
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงผิดจากพยานหลักฐานในท้องสำนวนศาลฎีกาไม่จำต้องถือตามและมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้รวมเงินที่ถูกยักยอกเป็นราคาสินค้า ทำให้สิทธิเรียกร้องในความผิดยักยอกระงับ
จำเลยได้ทำใบรับเงินให้แก่ผู้เสียหาย 1 ฉบับ มีข้อความว่าจำเลยได้รับเงินจากผู้เสียหาย 1 หมื่นบาท เพื่อซื้อแร่จากจังหวัดยะลามาให้ผู้เสียหาย แล้วจำเลยได้กลับมาแจ้งแก่ผู้เสียหายว่าได้เอาเงิน 7000 บาท ไปวางมัดจำสำหรับทำสัญญาซื้อแร่ และได้นำเงินที่เหลือมาคืน ต่อมาจำเลยจึงได้ทำสัญญาขายฝากโรงงานถลุงแร่ของจำเลยแก่ผู้เสียหาย จำนวนราคาขายฝากให้ถือเอาหลักฐานที่จำเลยทำไว้กับผู้เสียหาย คือ สัญญากู้ยืม และรับเงินรวม 3 ฉบับ และจำนวนเงิน 1 หมื่นบาท ดังกล่าวข้างต้นได้รวมอยู่เป็นค่าซื้อฝากโรงงานด้วย หลังจากทำสัญญาขายฝากแล้ว ผู้เสียหายจึงได้ทราบว่าจำเลยยักยอกเอาเงิน 7000 บาทซึ่งอ้างว่าไปวางมัดจำซื้อแร่นั้น เอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย
การที่ผู้เสียหายตกลงทำสัญญากับจำเลย เอาเงินที่หาว่าจำเลยยักยอกไปรวมเป็นราคาค่าซื้อฝากขอโรงงานของจำเลยเสร็จไปแล้วนั้น ผู้เสียหายจะกลับรื้อฟื้นขึ้นมาว่ากล่าวฟ้องร้องไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งขอให้คืนเงินรายนี้ หรือทางอาญาขอให้ลงโทษฐานยักยอก เพราะการตกลงกับจำเลยดังกล่าวข้างต้นนั้น มีผลเป็นการยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวในเงินรายนี้แล้ว
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงผิดจากพยานหลักฐานในท้องสำนวน ศาลฎีกาไม่จำต้องถือตามและมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้
การที่ผู้เสียหายตกลงทำสัญญากับจำเลย เอาเงินที่หาว่าจำเลยยักยอกไปรวมเป็นราคาค่าซื้อฝากขอโรงงานของจำเลยเสร็จไปแล้วนั้น ผู้เสียหายจะกลับรื้อฟื้นขึ้นมาว่ากล่าวฟ้องร้องไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งขอให้คืนเงินรายนี้ หรือทางอาญาขอให้ลงโทษฐานยักยอก เพราะการตกลงกับจำเลยดังกล่าวข้างต้นนั้น มีผลเป็นการยินยอมไม่ติดใจว่ากล่าวในเงินรายนี้แล้ว
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงผิดจากพยานหลักฐานในท้องสำนวน ศาลฎีกาไม่จำต้องถือตามและมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนา: การใช้มีดแทงจนถึงแก่ความตาย ศาลลดโทษจากเดิม
จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายในที่สำคัญโดยแรงจนทะลุลำใส้ขาดเป็นการที่อาจเห็นผลได้ว่า จะทำให้ผู้ตายถึงตาย และผู้ตายก็ได้ขาดใจตายในคืนนั้นเอง จำเลยจึงต้องมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าคนตายโดยเจตนาจากการแทงด้วยอาวุธมีด ศาลฎีกาพิพากษาแก้โทษ
จำเลยใช้มีดปลายแปลมแทงผู้ตายในที่สำคัญโดยแรงจนทะลุลำไส้ขาด เป็นการที่อาจเห็นผลได้ว่า จะทำให้ผู้ตายถึงตาย และผู้ตายก็ได้ขาดใจตายในคืนนั้นเอง จำเลยจึงต้องมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 985/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อธิบดีกรมป่าไม้มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้อาศัยที่ดินราชพัสดุในนามกรมป่าไม้ได้
อธิบดีกรมป่าไม้มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้อาศัยที่ดินราชพัสดุที่ใช้ในราชการของกรมป่าไม้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 985/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อธิบดีกรมป่าไม้มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้อาศัยที่ดินราชพัสดุที่ใช้ในราชการได้ โดยฟ้องในนามกรมป่าไม้
อธิบดีกรมป่าไม้มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้อาศัยที่ดินราชพัสดุที่ใช้ในราชการของกรมป่าไม้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งปริมาณข้าวเปลือกเกินกำหนด: ความรับผิดชอบของผู้มีข้าว และการแจ้งประกาศ
คณะกรมการจังหวัดประกาศให้ผู้มีข้าวเปลือกเกิน 50 ถังไปแจ้งปริมาณสถานที่เก็บภายในกำหนด 7 วัน โดยให้ผู้ใหญ่บ้านไปบอกแก่ราษฎรทีละคนสองคน จำเลยอยู่ห่างไกลอำเภอและจังหวัด ผู้ใหญ่บ้านไปบอกวันสุดท้าย จำเลยได้มาแจ้งความแต่เกินกำหนด 7 วันแล้ว ดังนี้จำเลยหามีความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งปริมาณข้าวเปลือกเกินกำหนด: ความรับผิดฐานฝ่าฝืนประกาศเมื่อการแจ้งข่าวสารไม่ทั่วถึง
คณะกรมการจังหวัดประกาศให้ผู้มีข้าวเปลือกเกิน 50 ถัง ไปแจ้งปริมาณสถานที่เก็บภายในกำหนด 7 วัน โดยให้ผู้ใหญ่บ้านไปบอกแก่ราษฎรทีละคนสองคน จำเลยอยู่ห่างไกลอำเภอและจังหวัด ผู้ใหญ่บ้านไปบอกวันสุดท้าย จำเลยได้มาแจ้งความแก่เกินกำหนด 7 วันแล้ว ดังนี้จำเลยหามีความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าใช้จ่ายงานแต่งงานไม่ถือเป็นค่าเตรียมการสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่ง
ค่าใช้จ่ายที่เสียไปในงานแต่งงาน ไม่ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการเตรียมการสมรส ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1439(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ: ข้อความไม่ตรงกับฟ้องและรายงานโดยสุจริต ไม่เข้าข่ายความผิด
ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรายงานไปว่า "นางสาวสมคิดไปเที่ยวกับผู้ชายในที่เปล่าเปลี่ยวสองต่อสอง" อันเป็นความเท็จและทำให้นางสาวสมคิดเสียหาย แต่ความจริงจำเลยรายงานว่า "ฯลฯ (นางสาวสมคิด) ไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ และการไปมาซึ่งนับว่าเปล่าเปลี่ยว ก็ไปกันกับหญิงกับชายซึ่งไม่มีญาติผู้ใหญ่ไปเป็นเพื่อน ฯลฯ" ซึ่งไม่ตรงกับคำฟ้อง ทั้งข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยรายงานไปโดยสุจริต จึงไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จหรือเบิกความเท็จ