พบผลลัพธ์ทั้งหมด 798 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ – รายงานความจริงโดยสุจริต ไม่เข้าข่ายความผิด
ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรายงานไปว่า "นางสาวสมคิดไปเที่ยวกับผู้ชายในที่เปล่าเปลี่ยวสองต่อสอง" อันเป็นความเท็จและทำให้นางสาวสมคิดเสียหาย แต่ความจริงจำเลยรายงานว่า"ฯลฯ(นางสาวสมคิด) ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และการไปมาซึ่งนับว่าเปล่าเปลี่ยวก็ไปกันกับหญิงกับชายซึ่งไม่มีญาติผู้ใหญ่ไปเป็นเพื่อน ฯลฯ" ซึ่งไม่ตรงกับคำฟ้อง ทั้งข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยรายงานไปโดยสุจริต จึงไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จหรือเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างระหว่างค้างชำระค่าเช่ากับการผิดนัดชำระค่าเช่ามีผลต่อสิทธิในการฟ้องขับไล่
การค้างชำระค่าเช่ากับการผิดนัดไม่ชำระค่าเช่านั้นต่างกัน จำเลยค้างชำระค่าเช่า 12 เดือน จะถือว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า 2 คราวยังไม่ได้ เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยผิดนัดเพียงครั้งเดียว กรณีจึงไม่เข้าข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489 มาตรา 16(1) ที่จะฟ้องขับไล่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้างชำระค่าเช่ากับการผิดนัดชำระค่าเช่ามีความแตกต่างกัน และมีผลต่อสิทธิในการฟ้องขับไล่
การค้างชำระค่าเช่ากับการผิดนัดไม่ชำระค่าเช่านั้นต่างกัน จำเลยค้างชำระค่าเช่า 12 เดือน จะถือว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าถึง 2 คราวยังไม่ได้ เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยผิดนัดเพียงครั้งเดียวกรณีจึงไม่เข้าข้อยกเว้นตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489มาตรา 16(1) ที่จะฟ้องขับไล่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การแทงซ้ำเมื่อถูกทำร้ายและมีอาวุธ
ผู้ตายจะทำชำเราจำเลย และมีอาวุธถือในมือจะแทงจำเลย จำเลยเป็นหญิง ได้แทงผู้ตาย 4 ที ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่เกินสมควรแก่เหตุ จึงไม่เป็นผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินแก่เหตุ: การแทงซ้ำเพื่อป้องกันการทำร้ายซ้ำสำหรับผู้ถูกทำร้าย
ผู้ตายจะทำชำเราจำเลยและมีอาวุธถือในมือจะแทงจำเลยจำเลยเป็นหญิง ได้แทงผู้ตาย 4 ที ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้การกระทำของจำเลยไม่เกินสมควรแก่เหตุจึงไม่เป็นผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากตัวการเป็นสมรู้: ศาลลงโทษได้หากมีเหตุผลรองรับ
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานตัวการ แต่ศาลเห็นว่า จำเลยมีผิดฐานสมรู้เท่านั้น ศาลก็ลงโทษฐานสมรู้ ซึ่งมีโทษเบากว่าตัวการได้ หาเป็นการนอกฟ้องหรือเกินคำขอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานสมรู้เมื่อฟ้องฐานตัวการ ศาลไม่ถือว่านอกฟ้องเกินคำขอ
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานตัวการ แต่ศาลเห็นว่า จำเลยมีผิดฐานสมรู้เท่านั้น ศาลก็ลงโทษฐานสมรู้ ซึ่งมีโทษเบากว่าตัวการได้ หาเป็นการนอกฟ้องเกินคำขอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการงดพยานบุคคลเมื่อข้อเท็จจริงตรงกันกับที่รับสารภาพ
เมื่อปรากฏว่า พยานที่จำเลยขอให้ส่งประเด็นไปสืบนั้น ตรงตามที่รับกันแล้ว ศาลมีอำนาจสั่งงดไม่สืบเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการงดสืบพยานเมื่อพยานตรงกับที่รับกันแล้วในคดีอาญา
เมื่อปรากฏว่า พยานที่จำเลยขอให้ส่งประเด็นไปสืบนั้นตรงตามที่รับกันแล้ว ศาลมีอำนาจสั่งงดไม่สืบเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อแตกต่างเล็กน้อยในคำฟ้องไม่ถึงขั้นทำให้ศาลต้องยกฟ้อง หากไม่เป็นสาระสำคัญ
การต่างกันในข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณากับที่ปรากฏในฟ้อง ซึ่งเป็นเหตุให้ศาลต้องยกฟ้องตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 192 วรรค 2 นั้น จะต้องเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญในคำฟ้อง
ในคดีลักทรัพย์ การแตกต่างเพียงคำนำหน้าชื่อเจ้าทรัพย์ว่า "นาย" หรือ "นาง" นั้น เป็นข้อปลีกย่อย หาทำให้จำเลยหลงผิดในการต่อสู้คดีอย่างใดไม่
ในคดีลักทรัพย์ การแตกต่างเพียงคำนำหน้าชื่อเจ้าทรัพย์ว่า "นาย" หรือ "นาง" นั้น เป็นข้อปลีกย่อย หาทำให้จำเลยหลงผิดในการต่อสู้คดีอย่างใดไม่