พบผลลัพธ์ทั้งหมด 798 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือยนต์ที่ใช้ขนย้ายข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
เรือยนต์ที่ใช้ในการบรรทุกข้าวขนย้ายออกนอกขตต์โดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) 2489 มาตรา 13 ทวิ (2) บัญญัติให้ริบเสีย มิได้บัญญัติให้อยู่ในดุลยพินิจของศาลว่าจะริบหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 839/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในคดีอาญาที่มีอัตราโทษสูง แม้รับสารภาพ ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนพอใจและลงโทษตามพฤติการณ์ที่กระทำ
คดีอาญาที่มีอัตราโทษอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่า จำเลยได้กระทำผิดจริง เมื่อศาลฟังพยานโจทก์ได้ความว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินแก่เหตุ ศาลย่อมลงโทษเท่าที่จำเลยได้กระทำผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 839/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในคดีอาญาอัตราโทษสูง แม้รับสารภาพ ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนพอใจว่าจำเลยกระทำผิดจริง
คดีอาญาที่มีอัตราโทษอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่า จำเลยได้กระทำผิดจริง เมื่อศาลฟังพยานโจทก์ได้ความว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินแก่เหตุศาลย่อมลงโทษเท่าที่จำเลยได้กระทำผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุปริมาณข้าวที่กักกันตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว การฟ้องต้องระบุจำนวนที่แน่นอนเกิน 1,000 กิโลกรัม
คำว่าปริมาณใน พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 5 หมายถึงจำนวน
ฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า จำเลยบังอาจกักกันข้าวไว้ประมาณ 1,260 กิโลกรัมคำว่าประมาณกลายเป็นไม่ใช่ยืนยันว่า จำเลยกักกันข้าวไว้เกิน 1,000 กิโลกรัมดังนี้ จึงไม่เป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ลงโทษจำเลยไม่ได้
ฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า จำเลยบังอาจกักกันข้าวไว้ประมาณ 1,260 กิโลกรัมคำว่าประมาณกลายเป็นไม่ใช่ยืนยันว่า จำเลยกักกันข้าวไว้เกิน 1,000 กิโลกรัมดังนี้ จึงไม่เป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปริมาณข้าวที่กักกันตาม พ.ร.บ.สำรวจข้าว: การระบุปริมาณที่แน่นอนในฟ้องคดี
คำว่าปริมาณใน พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 5 หมายถึงจำนวน
ฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า จำเลยบังอาจกักกันข้าวไว้ประมาณ 1260 กิโลกรัม คำว่าประมาณกลายเป็นไม่ใช่ยืนยันว่า จำเลยกักกันข้าวไว้เกิน 1000 กิโลกรัม ดังนี้ จึงไม่เป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 ลงโทษจำเลยไม่ได้
ฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า จำเลยบังอาจกักกันข้าวไว้ประมาณ 1260 กิโลกรัม คำว่าประมาณกลายเป็นไม่ใช่ยืนยันว่า จำเลยกักกันข้าวไว้เกิน 1000 กิโลกรัม ดังนี้ จึงไม่เป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 833/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของประกาศควบคุมข้าว: พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคยังใช้ได้ แม้มีกฎหมายอื่น แต่ต้องมีหลักฐานการออกประกาศ
พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆ ในภาวะคับขัน 2488ไม่ได้ถูกทับโดย พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 และพ.ร.บ.การค้าข้าว 2489
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรมการจังหวัดที่ออกโดยอาศัยอำนาจ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆในภาวะคับขัน 2488 เมื่อไม่ปรากฏว่าประกาศของคณะกรมการจังหวัดได้ออกโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.นี้ และสำเนาประกาศสำหรับเรื่องนี้จะแสดงข้อเท็จจริงบางประการให้เด่นชัด ก็ไม่มีในสำนวน จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรมการจังหวัดที่ออกโดยอาศัยอำนาจ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆในภาวะคับขัน 2488 เมื่อไม่ปรากฏว่าประกาศของคณะกรมการจังหวัดได้ออกโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.นี้ และสำเนาประกาศสำหรับเรื่องนี้จะแสดงข้อเท็จจริงบางประการให้เด่นชัด ก็ไม่มีในสำนวน จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 833/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชอบธรรมของประกาศควบคุมการค้าข้าวภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค และการพิสูจน์อำนาจตามกฎหมาย
พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่น ๆ ในภาวะคับขัน 2488 ไม่ได้ถูกทับ โดย พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 และ พ.ร.บ.การค้าข้าว 2489
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการจังหวัดที่ออกโดยอาศัยอำนาจ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่น ๆ ในภาวะคับขัน 2488 เมื่อไม่ปรากฏว่า ประกาศขอคณะกรรมการจังหวัดได้ออกโดอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.นี้ และสำเนาประกาศสำหรับเรื่องนี้จะแสดงข้อเท็จจริงบางประการให้เด่นชัด ก็ไม่มีในสำนวน จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการจังหวัดที่ออกโดยอาศัยอำนาจ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่น ๆ ในภาวะคับขัน 2488 เมื่อไม่ปรากฏว่า ประกาศขอคณะกรรมการจังหวัดได้ออกโดอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.นี้ และสำเนาประกาศสำหรับเรื่องนี้จะแสดงข้อเท็จจริงบางประการให้เด่นชัด ก็ไม่มีในสำนวน จะลงโทษจำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากผิดสัญญา คำนวณจากราคาขายจริงที่จำเลยคาดหมายได้ แม้กรรมสิทธิ์ยังไม่ส่งมอบ
โจทก์ซื้อเกลือจากจำเลย ชำระเงินแล้วแต่ยังไม่ได้รับเกลือไป จำเลยทำผิดสัญญาโดยเอาเกลือส่วนหนึ่งไปขายให้แก่ทางราชการทหาร โจทก์กล่าวในฟ้องว่า "โจทก์ยินยอมไม่ว่ากล่าวในจำนวนเกลือที่จำเลยขายให้แก่ทางราชการทหาร แต่จะขอรับเงินเท่าที่จำเลยขายให้แก่ทางราชการทหาร" ดังนี้ถือว่า โจทก์ติดใจจะเอาค่าเสียหายแก่จำเลย โดยถือเอาราคาที่จำเลยขายให้แก่ทางราชการทหาร เป็นราคาที่จะคำนวณค่าเสียหายให้แก่โจทก์
โจทก์จำเลยมีสัญญาต่อกันค่าปรับที่โจทก์ต้องเสียให้แก่บุคคลภายนอก เนื่องจากจำเลยทำผิดสัญญาต่อโจทก์ เป็นกรณีเกิดจากพฤตติการณ์พิเศษ โจทก์ไม่แจ้งให้จำเลยทราบว่า โจทก์จะไปทำสัญญากับบุคคลภายนอก จำเลยไม่ต้องรับผิดในค่าปรับนั้น
การคำนวณค่าเสียหายในกรณีมีการทำผิดสัญญานั้น ไม่ใช่ถือเอาจำนวนค่าเสียหายที่ผู้ทำผิดสัญญาได้คาดหรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ในเวลาทำสัญญาอย่างอื่น หากเป็นค่าเสียหายในขณะผิดสัญญา ซึ่งผู้กระทำผิดสัญญาย่อมคาดได้หรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ ว่าการที่ตนกระทำผิดจะเป็นผลให้เกิดการเสียหายแก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งอย่างใดแล้ว ก็ต้องรับผิดในค่าเสียหายนั้นตามมาตรา 222
ดอกเบี้ยในจำนวนเงินค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดผลกำไร ศาลเห็นสมควรจะให้คิดตั้งแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จก็ได้
โจทก์จำเลยมีสัญญาต่อกันค่าปรับที่โจทก์ต้องเสียให้แก่บุคคลภายนอก เนื่องจากจำเลยทำผิดสัญญาต่อโจทก์ เป็นกรณีเกิดจากพฤตติการณ์พิเศษ โจทก์ไม่แจ้งให้จำเลยทราบว่า โจทก์จะไปทำสัญญากับบุคคลภายนอก จำเลยไม่ต้องรับผิดในค่าปรับนั้น
การคำนวณค่าเสียหายในกรณีมีการทำผิดสัญญานั้น ไม่ใช่ถือเอาจำนวนค่าเสียหายที่ผู้ทำผิดสัญญาได้คาดหรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ในเวลาทำสัญญาอย่างอื่น หากเป็นค่าเสียหายในขณะผิดสัญญา ซึ่งผู้กระทำผิดสัญญาย่อมคาดได้หรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ ว่าการที่ตนกระทำผิดจะเป็นผลให้เกิดการเสียหายแก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งอย่างใดแล้ว ก็ต้องรับผิดในค่าเสียหายนั้นตามมาตรา 222
ดอกเบี้ยในจำนวนเงินค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดผลกำไร ศาลเห็นสมควรจะให้คิดตั้งแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาซื้อขายเกลือ: การคำนวณจากราคาขายจริงที่จำเลยขายได้ และการคาดการณ์ความเสียหาย
โจทก์ซื้อเกลือจากจำเลยชำระเงินแล้วแต่ยังไม่ได้รับเกลือไป จำเลยทำผิดสัญญาโดยเอาเกลือส่วนหนึ่งไปขายให้แก่ทางราชการทหารโจทก์กล่าวในฟ้องว่า "โจทก์ยินยอมไม่ว่ากล่าวในจำนวนเกลือที่จำเลยขายให้แก่ทางราชการทหารแต่จะขอรับเงินเท่าที่จำเลยขายให้แก่ทางราชการทหาร" ดังนี้ ถือว่า โจทก์ติดใจจะเอาค่าเสียหายแก่จำเลยโดยถือเอาราคาที่จำเลยขายให้แก่ทางราชการทหารเป็นราคาที่จะคำนวณค่าเสียหายให้แก่โจทก์
โจทก์จำเลยมีสัญญาต่อกัน ค่าปรับที่โจทก์ต้องเสียให้แก่บุคคลภายนอกเนื่องจากจำเลยทำผิดสัญญาต่อโจทก์ เป็นกรณีเกิดจากพฤติการณ์พิเศษ โจทก์ไม่แจ้งให้จำเลยทราบว่าโจทก์จะไปทำสัญญากับบุคคลภายนอก จำเลยไม่ต้องรับผิดในค่าปรับนั้น
การคำนวณค่าเสียหายในกรณีมีการทำผิดสัญญานั้น ไม่ใช่ถือเอาจำนวนค่าเสียหายที่ผู้ทำผิดสัญญาได้คาดหรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ในเวลาทำสัญญาอย่างเดียวหากเป็นค่าเสียหายในขณะผิดสัญญา ซึ่งผู้กระทำผิดสัญญาย่อมคาดได้หรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ว่า การที่ตนกระทำผิดจะเป็นผลให้เกิดการเสียหายแก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งอย่างใดแล้วก็ต้องรับผิดในค่าเสียหายนั้นตามมาตรา 222
ดอกเบี้ยในจำนวนเงินค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดผลกำไร ศาลเห็นสมควรจะให้คิดตั้งแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จก็ได้
โจทก์จำเลยมีสัญญาต่อกัน ค่าปรับที่โจทก์ต้องเสียให้แก่บุคคลภายนอกเนื่องจากจำเลยทำผิดสัญญาต่อโจทก์ เป็นกรณีเกิดจากพฤติการณ์พิเศษ โจทก์ไม่แจ้งให้จำเลยทราบว่าโจทก์จะไปทำสัญญากับบุคคลภายนอก จำเลยไม่ต้องรับผิดในค่าปรับนั้น
การคำนวณค่าเสียหายในกรณีมีการทำผิดสัญญานั้น ไม่ใช่ถือเอาจำนวนค่าเสียหายที่ผู้ทำผิดสัญญาได้คาดหรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ในเวลาทำสัญญาอย่างเดียวหากเป็นค่าเสียหายในขณะผิดสัญญา ซึ่งผู้กระทำผิดสัญญาย่อมคาดได้หรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ว่า การที่ตนกระทำผิดจะเป็นผลให้เกิดการเสียหายแก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งอย่างใดแล้วก็ต้องรับผิดในค่าเสียหายนั้นตามมาตรา 222
ดอกเบี้ยในจำนวนเงินค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดผลกำไร ศาลเห็นสมควรจะให้คิดตั้งแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิจารณาข้อคัดค้านการตั้งผู้จัดการมฤดก และการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ในเรื่องร้องขอเป็นผู้จัดมฤดก แม้ผู้คัดค้านไม่มีอำนาจศาลย่อมระลึกถึงข้องที่ผู้ร้องเรียกตลอดจนการเรียกพะยานเพื่อประกอบการพิจารณาได้
คำพิพากษาตามปกติย่อมเข้าใจว่า เป็นคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นหมดการพิจารณาสำหรับคดีนั้น ถ้ายังไม่ยุตติการพิจารณาคดีนี้ ก็ชอบที่จะใช้เป็นคำสั่งซึ่งในทางปฏิบัติเรียกว่าคำสั่งระหว่างพิจารณา
(ม.226 ป.ม.วิ.แพ่ง)
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ดำเนินคดีไปอย่างคดีมีข้อพิพาท ศาลชั้นต้นจะพิพากษาหรือสั่งว่าผู้คัดค้านไม่มีสิทธิเป็นคู่ความไม่ได้ เพราะขัดต่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินการพิจารณาไปอย่างคดีมีข้อพิพาท
คำพิพากษาตามปกติย่อมเข้าใจว่า เป็นคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นหมดการพิจารณาสำหรับคดีนั้น ถ้ายังไม่ยุตติการพิจารณาคดีนี้ ก็ชอบที่จะใช้เป็นคำสั่งซึ่งในทางปฏิบัติเรียกว่าคำสั่งระหว่างพิจารณา
(ม.226 ป.ม.วิ.แพ่ง)
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ดำเนินคดีไปอย่างคดีมีข้อพิพาท ศาลชั้นต้นจะพิพากษาหรือสั่งว่าผู้คัดค้านไม่มีสิทธิเป็นคู่ความไม่ได้ เพราะขัดต่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินการพิจารณาไปอย่างคดีมีข้อพิพาท