พบผลลัพธ์ทั้งหมด 798 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาตามยอมเด็ดขาดแล้ว ไม่อาจอ้างกฎหมายเฉพาะมาเปลี่ยนแปลงผลได้
ศาลได้พิพากษาตามยอมและมีคำสั่งท้ายคำพิพากษานั้นว่าบังคับตามยอมและต่อมาออกหมายบังคับคดีต่อจำเลยอีก ดังนี้แสดงว่า มีคำบังคับแล้ว
เมื่อจำเลยทำยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากที่เช่า และศาลพิพากษาตามยอม ดังนี้เป็นคำพิพากษาที่เด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว จะอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่ามาเปลี่ยนแปลงผลแห่งคำพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้
เมื่อจำเลยทำยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากที่เช่า และศาลพิพากษาตามยอม ดังนี้เป็นคำพิพากษาที่เด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว จะอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่ามาเปลี่ยนแปลงผลแห่งคำพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาตามยอมเด็ดขาดแล้ว ไม่อาจอ้างกฎหมายมาเปลี่ยนแปลงผลได้
ศาลได้พิพากษาตามยอม และมีคำสั่งท้ายคำพิพากษานั้นว่า บังคับตามยอมและต่อมาออกหมายบังคับคดีต่อจำเลยอีก ดังนี้แสดงว่า มีคำบังคับแล้ว
เมื่อจำเลยทำยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากที่เช่า และศาลพิพากษาตามยอม ดังนี้เป็นคำพิพากษาที่เด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว จะอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า มาเปลี่ยนแปลงผลแห่งคำพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้
เมื่อจำเลยทำยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากที่เช่า และศาลพิพากษาตามยอม ดังนี้เป็นคำพิพากษาที่เด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว จะอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า มาเปลี่ยนแปลงผลแห่งคำพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกคัดค้านการบังคับคดี กรณีจำเลยไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ศาลต้องพิจารณาคำร้อง
ในชั้นบังคับคดี บุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีที่อ้างว่าจำเลยไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินซึ่งศาลสั่งบังคับคดีไปตามคำพิพากษา ชอบที่จะยื่นคำร้องขอต่อศาลได้ตามนัยแห่งบทบัญญัติ มาตรา 7(2),288, และ 296ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ร้องจะต้องไปฟ้องเป็นคดีเรื่องใหม่
การร้องคัดค้านว่าศาลสั่งบังคับคดีเอาทรัพย์สินของตนซึ่งเป็นคนภายนอกนั้น ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามคำร้องขอ
ศาลมีอำนาจสั่งคืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ฎีกาได้
การร้องคัดค้านว่าศาลสั่งบังคับคดีเอาทรัพย์สินของตนซึ่งเป็นคนภายนอกนั้น ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามคำร้องขอ
ศาลมีอำนาจสั่งคืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากเจตนาเป็นประมาท ส่งผลต่อการพิจารณาคดี
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยประมาท โจทก์จะฎีกาในข้อที่ว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนาอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 219 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์กล่าวในฟ้องและมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาแต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่าจำเลยฆ่าคนโดยประมาทซึ่งลักษณะความผิดและโทษต่างกันห่างไกลมาก เรียกได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษต้องตามนัยของมาตรา 192 วรรค 2 และ 3 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ลงโทษจำเลยไม่ได้
โจทก์กล่าวในฟ้องและมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาแต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่าจำเลยฆ่าคนโดยประมาทซึ่งลักษณะความผิดและโทษต่างกันห่างไกลมาก เรียกได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษต้องตามนัยของมาตรา 192 วรรค 2 และ 3 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากเจตนาเป็นประมาท: โจทก์ไม่สามารถฎีกาในข้อหาเดิมได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยประมาท โจทก์จะฎีกาในข้อที่ว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนาอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 219 ป.วิ.อาญา
โจทก์กล่าวในฟ้องและมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา แต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่า จำเลยฆ่าคนโดยประมาท ซึ่งลักษณะความผิดและโทษต่างกันห่างไกลมาก เรียกได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษ ต้องตามนัยของมาตรา 192 วรรค 2 และ 3 แห่ง ป.วิ.อาญา ลงโทษจำเลยไม่ได้
โจทก์กล่าวในฟ้องและมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา แต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่า จำเลยฆ่าคนโดยประมาท ซึ่งลักษณะความผิดและโทษต่างกันห่างไกลมาก เรียกได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษ ต้องตามนัยของมาตรา 192 วรรค 2 และ 3 แห่ง ป.วิ.อาญา ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานไม่แจ้งปริมาณข้าว ไม่จำต้องระบุว่าเป็นผู้ค้าข้าว
ความผิดฐานไม่แจ้งปริมาณสถานที่เก็บข้าวนั้น ฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุว่าจำเลยเป็นผู้ค้าข้าวหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งปริมาณข้าว: ไม่จำต้องระบุสถานะผู้ค้าข้าวในการฟ้อง
ความผิดฐานไม่แจ้งปริมาณสถานที่เก็บข้าวนั้น ฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุว่าจำเลยเป็นผู้ค้าข้าวหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆาตกรรมเจ้าพนักงานต่อหน้าสาธารณชน: ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม แม้จำเลยรับสารภาพ
จำเลยได้กระทำการฆาตกรรมเจ้าพนักงานผู้ระวังรักษาเหตุการณ์ ต่อหน้าชุมนุมชนกลางตลาด และมีประจักษ์พะยานรู้เห็นว่า จำเลยกระทำผิดมากด้วยกัน หากจำเลยไม่ให้การรับสารภาพก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความผิดไปได้ ศาลไม่ลดหย่อนผ่อนโทษให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆาตกรรมเจ้าพนักงานต่อหน้าสาธารณชน: ศาลฎีกายืนประหารชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน
จำเลยได้กระทำการฆาตกรรมเจ้าพนักงานผู้ระวังรักษาเหตุการณ์ต่อหน้าชุมนุมชนกลางตลาด และมีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าจำเลยกระทำผิดมากด้วยกันหากจำเลยไม่ให้การรับสารภาพก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความผิดไปได้ ศาลไม่ลดหย่อนผ่อนโทษให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับใช้กฎหมายภาษีชั้นใน: การขนย้ายน้ำสุราข้ามตำบลตามกฎหมายเก่าและใหม่
พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน พ.ศ.2457 มิได้บัญญัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงเขตตำบลสำหรับขนย้ายน้ำสุราตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.1248มาตรา 11 จากเขตนายอากรแขวงมาเป็นเขตตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ (อ้างฎีกา 667/2490)