พบผลลัพธ์ทั้งหมด 798 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 655/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความโดยไม่สาบาลตัว ไม่ถือเป็นความเท็จ
เบิกความเป็นพะยานในศาลโดยไม่ได้สาบาลตัว ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 655/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความไม่สาบาน ไม่เป็นความเท็จ
เบิกความเป็นพยานในศาลโดยไม่ได้สาบานตัว ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 653/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จและบุกรุก: การกระทำโดยสุจริตและการพิสูจน์ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
ฟ้องหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จโดยปลอมลายมือชื่อโจทก์ในใบแจ้งย้ายว่า จำเลยย้ายเข้ามาอยู่ในห้องเลขที่ 91 โดยเป็นความเท็จ เมื่อปรากฏว่า จำเลยได้เข้ามาอยู่ในห้องนั้นจริง และชี้ไม่ได้ว่าลายเซ็นของโจทก์ปลอม จำเลยก็ไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จ
จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องพิพาทโดยเชื่อโดยสุจริตว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองห้องพิพาท จำเลยไม่มีผิดฐานบุกรุก
จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องพิพาทโดยเชื่อโดยสุจริตว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองห้องพิพาท จำเลยไม่มีผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 653/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จและบุกรุก: จำเลยเข้าครอบครองโดยสุจริตและเจตนาไม่ทุจริต จึงไม่มีความผิด
ฟ้องหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จโดยปลอมลายมือชื่อโจทก์ในใบแจ้งย้ายว่า จำเลยย้ายเข้ามาอยู่ในห้องเลขที่ 91 โดยเป็นความเท็จ เมื่อปรากฏว่า จำเลยได้เข้ามาอยู่ในห้องนั้นจริง และชี้ไม่ได้ว่าลายเซ็นของดจทก์ปลอม จำเลยก็ไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จ
จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องพิพาทโดยเชื่อโดยสุจริตว่า จำเลยมีสิทธิครอบครองห้องพิพาท จำเลยไม่มีผิดฐานบุกรุก
จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องพิพาทโดยเชื่อโดยสุจริตว่า จำเลยมีสิทธิครอบครองห้องพิพาท จำเลยไม่มีผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นต่อสู้เรื่องเจตนาในการทำสัญญาและการงดสืบพยาน ศาลต้องเปิดโอกาสให้จำเลยนำสืบ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินไปแล้วไม่ชำระคืน จำเลยให้การรับข้อทำสัญญา แต่ต่อสู้ว่า ไม่ได้รับเงิน ไม่ได้กู้ และว่าโจทก์กับพวกแสดงตนเป็นผู้สนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน จะช่วยให้จำเลยได้รับความสะดวกในการเอาไม้ออกจำหน่าย ในการนี้โจทก์คิดค่าป่วยการ และค่าที่ต้องใช้จ่ายเงินให้เจ้าพนักงาน โจทก์จึงให้จำเลยทำสัญญากู้เงินจำนวนที่โจทกืฟ้องให้แก่โจทก์ไว้ ต่อมาโจทก์ก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร ดังนี้ ถือว่าจำเลยยกประเด็นขึ้นเป็นข้อต่อสู้แล้ว ศาลจะงดไม่ให้นำสืบเสียเลยหาชอบไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยยกประเด็นต่อสู้ว่าสัญญากู้ไม่สมบูรณ์ ศาลต้องเปิดโอกาสให้สืบพยาน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินไปแล้วไม่ชำระคืน จำเลยให้การรับข้อทำสัญญา แต่ต่อสู้ว่า ไม่ได้รับเงินไม่ได้กู้ และว่า โจทก์กับพวกแสดงตนเป็นผู้สนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานจะช่วยให้จำเลยได้รับความสะดวกในการเอาไม้ออกจำหน่าย ในการนี้โจทก์คิดค่าป่วยการและค่าที่ต้องใช้จ่ายเงินให้เจ้าพนักงาน โจทก์จึงให้จำเลยทำสัญญากู้เงินจำนวนที่โจทก์ฟ้องให้แก่โจทก์ไว้ ต่อมาโจทก์ก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร ดังนี้ ถือว่าจำเลยยกประเด็นขึ้นเป็นข้อต่อสู้แล้ว ศาลจะงดไม่ให้นำสืบเสียเลยหาชอบไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องยกประเด็นที่เคยยกขึ้นว่ากล่าวในศาลล่างเท่านั้น การยกประเด็นใหม่ในฎีกาเป็นเหตุต้องห้าม
คดีมโนสาเร่ฎีกาได้ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย และจะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องยกประเด็นข้อกฎหมายที่ศาลชั้นต้น/อุทธรณ์วินิจฉัยแล้วเท่านั้น การยกประเด็นใหม่ขัดต่อกฎหมาย
คดีมโนสาเร่ฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย และจะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าและการอาศัย: ศาลปรับข้อเท็จจริงเข้าบทกฎหมายได้ แม้ใช้คำว่า 'อาศัย' หากมีลักษณะเป็นการเช่า
การเช่าและการอาศัยอยู่ในลักษณะเดียวกัน ผิดกันแต่ว่า การเช่าต้องเสียค่าเช่า การอาศัยไม่ต้องเสียค่าเช่า
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยกล่าวว่า จำเลยได้อาศัยโดยเสียค่าน้ำค่าไฟซึ่งเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงของการปฏิบัติระหว่างโจทก์จำเลยว่าเป็นเช่นไรเพื่อขอให้ศาลปรับเข้ากับตัวบทกฎหมายแล้วขับไล่จำเลย เมื่อคดีได้ความว่าเป็นการเช่าศาลก็ตัดสินได้ ไม่เป็นการเกินหรือนอกคำฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยกล่าวว่า จำเลยได้อาศัยโดยเสียค่าน้ำค่าไฟซึ่งเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงของการปฏิบัติระหว่างโจทก์จำเลยว่าเป็นเช่นไรเพื่อขอให้ศาลปรับเข้ากับตัวบทกฎหมายแล้วขับไล่จำเลย เมื่อคดีได้ความว่าเป็นการเช่าศาลก็ตัดสินได้ ไม่เป็นการเกินหรือนอกคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่า vs. การอาศัย: ศาลปรับข้อเท็จจริงเข้าบทกฎหมายได้ แม้ใช้คำไม่ตรง
การเช่าและการอ าศัยอยู่ในลักษณะเดียวกัน ผิดกันแต่ว่า การเช่าต้องเสียค่าเช่า การอาศัยไม่ต้องเสียค่าเช่า
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยกล่าวว่า จำเลยได้อาศียโดยเสียค่าน้ำค่าไฟซึ่งเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงของการปฏิบัติระหว่างโจทก์จำเลยว่าเป็นเช่นไร เพื่อขอให้ศาลปรับเข้ากับตัวกฎหมายแล้วขับไล่จำเลยเมื่อคดีได้ความว่าเป็นการเช่าศาลก็ได้ตัดสินได้ ไม่เป็นการเกินหรือ นอกคำฟ้อง.
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยกล่าวว่า จำเลยได้อาศียโดยเสียค่าน้ำค่าไฟซึ่งเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงของการปฏิบัติระหว่างโจทก์จำเลยว่าเป็นเช่นไร เพื่อขอให้ศาลปรับเข้ากับตัวกฎหมายแล้วขับไล่จำเลยเมื่อคดีได้ความว่าเป็นการเช่าศาลก็ได้ตัดสินได้ ไม่เป็นการเกินหรือ นอกคำฟ้อง.