พบผลลัพธ์ทั้งหมด 798 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชอบธรรมของประกาศคณะกรรมการจังหวัดในการควบคุมข้าวสาร แม้มีกฎหมายเฉพาะอื่น
ประกาศคณะกรรมการจังหวัดเรื่องยักย้ายข้าวสารออกโดยอาศัยอำนาจแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆ ในภาวะคับขัน2488 มีผลบังคับได้ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวกับ พระราชบัญญัติการค้าข้าวไม่มีข้อความทับ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลบังคับของประกาศคณะกรมการจังหวัดเรื่องยักย้ายข้าวสารภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ เมื่อมีกฎหมายเฉพาะอื่น
ประกาศคณะกรมการจังหวัดเรื่องยักย้ายข้าวสารออก โดยอาศัยอำนาจแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่น ๆ ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2488 มีผลบังคับได้ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว กับ พ.ร.บ.การค้าข้าวไม่มีข้อความทับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586-587/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวในคดีวิวาททำร้ายร่างกาย: หลักฐานพยานไม่เพียงพอต่อการลงโทษ
โจทก์ฟ้องจำเลย 4 คน หาว่าวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันจำเลยต่างให้การปฏิเสธ โจทก์มีพยานปาก 1 เบิกความสมข้อต่อสู้ของจำเลยฝ่ายหนึ่งแสดงว่าเป็นการป้องกัน และมีพยานโจทก์อีกปากหนึ่งเบิกความสมข้อต่อสู้ของจำเลย อีกฝ่ายหนึ่งว่าทำโดยป้องกัน ดังนี้คดีลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586-587/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิวาททำร้ายร่างกายและการป้องกันตนเอง ทำให้ไม่สามารถลงโทษจำเลยได้
โจทก์ฟ้องจำเลย 4 คน หาว่าวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน จำเลยต่างให้การปฏิเสธ โจทก์มีพะยานปาก 1 เบิกความสมข้อต่อสู้ของจำเลย ฝ่ายหนึ่งแสดงว่าเป็นการป้องกัน และมีพะยานโจทก์อีกปากหนึ่งเบิกความสมข้อต่อสู้ของจำเลย อีกฝ่ายหนึ่งว่า ทำโดยป้องกันดังนี้ คดีลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้จัดให้มีการพนันผิดเงื่อนไขใบอนุญาต ไม่มีความผิด หากไม่ได้เข้าเล่นเอง ความผิดอยู่ที่ผู้เล่น
ผู้จัดให้มีการเล่นการพะนันซึ่งได้รับอนุญาตแล้ว จะมีผิดก็ในกรณีที่เล่นพลิกแพลง ส่วนการเล่นผิด พ.ร.บ.ก็ดี ผิดกฎกระทรวงหรือข้อความในใบอนุญาติก็ดี คงมีผิดแต่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพะนัน หากินถึงผู้ได้รับอนุญาตจัดให้มีการเล่นแต่มิได้เข้าเล่นด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความผิดของผู้จัดให้มีการเล่นพนันที่ได้รับอนุญาต กรณีเล่นผิดเงื่อนไข
ผู้จัดให้มีการเล่นการพนันซึ่งได้รับอนุญาตแล้ว จะมีผิดแต่ในกรณีที่เล่นพลิกแพลง ส่วนการเล่นผิด พระราชบัญญัติก็ดี ผิดกฎกระทรวงหรือข้อความในใบอนุญาตก็ดี คงมีผิดแต่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันหากินถึงผู้ได้รับอนุญาตจัดให้มีการเล่นแต่มิได้เข้าเล่นด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532-533/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขัดขวางเจ้าพนักงานและช่วยเหลือผู้กระทำผิด: การถืออาวุธข่มขู่ตำรวจขณะจับกุม
ถือไม้ตะพดยืนคุมเชิงอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องเล่นการพนัน และพูดอ้างอำนาจนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาขู่เข็ญตำรวจที่มาทำการจับกุม มิให้ทำการจับกุมผู้เล่นการพนัน ดังนี้เป็นความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 119
คู่ความฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความก็ไม่ได้คัดค้านอย่างใด ดังนี้ ศาลฎีกาต้องถือว่าทั้งสองฝ่ายได้ยอมรับข้อเท็จจริงตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลอุทธรณ์เป็นยุติแล้ว
คู่ความฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความก็ไม่ได้คัดค้านอย่างใด ดังนี้ ศาลฎีกาต้องถือว่าทั้งสองฝ่ายได้ยอมรับข้อเท็จจริงตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลอุทธรณ์เป็นยุติแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532-533/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขัดขวางเจ้าพนักงานจับกุมการพนัน และความผิดช่วยเหลือผู้กระทำผิด โดยจำเลยยอมรับข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์
ถือไม้ตะพดยืนคุมเชิงอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องเล่นการพะนัน และพูดอ้างอำนาจนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาขู่เข็นตำรวจที่มาทำการจับกุม มิให้ทำการจับกุมผู้เล่นการพะนัน ดังนี้ เป็นความผิดตาม ก.ม.อาญา มาตรา 119.
คู่ความฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกาฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความก็ไม่ได้คัดค้านอย่างใด ดังนี้ศาลฎีกาต้องถือว่าทั้งสองฝ่ายได้ยอมรับข้อเท็จจริงตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลอุทธรณ์เป็นยุตติแล้ว.
คู่ความฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกาฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความก็ไม่ได้คัดค้านอย่างใด ดังนี้ศาลฎีกาต้องถือว่าทั้งสองฝ่ายได้ยอมรับข้อเท็จจริงตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลอุทธรณ์เป็นยุตติแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันตัวคดีอาญา: นายประกันไม่ต้องรับผิดเมื่อจำเลยถูกควบคุมโดยเจ้าพนักงานตำรวจ
ศาลชั้นต้นกำหนดให้นายประกันส่งตัวจำเลยในคดีอาญาต่อศาลภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน แต่จำเลยได้ถูกจับและถูกควบคุมโดยอำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจเสียตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน และได้ถูกควบคุมตลอดมา ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดได้ ดังนี้ จะถือว่าจำเลยหลบหนีหายซึ่งนายประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันไม่ได้เพราะการที่ศาลเอาตัวจำเลยมาพิจารณาบังคับบัญชาในวันกำหนดนัดไม่ได้นั้น เป็นเพราะถูกเจ้าพนักงานควบคุมอยู่ หาใช่หลบหนีหายไปไหนไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันตัวคดีอาญา: นายประกันไม่ต้องรับผิดเมื่อจำเลยถูกควบคุมโดยเจ้าพนักงานตำรวจ
ศาลชั้นต้นกำหนดให้นายประกันส่งตัวจำเลยในคดีอาญาต่อศาลภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน แต่จำเลยได้ถูกจับและถูก
ควบคุมโดยอำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจเสีย ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน และได้ถูกควบคุมตลอดมา ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดได้ ดังนี้จะถือว่าจำเลยหลบหนีหาย ซึ่งนายประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันไม่ได้ เพราะการที่ศาลเอาตัวจำเลยมาพิจารณาบังคับบัญชาในวันกำหนดนัดไม่ได้นั้น เป็นเพราะถูกเจ้าพนักงานควบคุมอยู่ หาใช่หลบหนีหายไปไหนไม่
ควบคุมโดยอำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจเสีย ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน และได้ถูกควบคุมตลอดมา ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดได้ ดังนี้จะถือว่าจำเลยหลบหนีหาย ซึ่งนายประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาประกันไม่ได้ เพราะการที่ศาลเอาตัวจำเลยมาพิจารณาบังคับบัญชาในวันกำหนดนัดไม่ได้นั้น เป็นเพราะถูกเจ้าพนักงานควบคุมอยู่ หาใช่หลบหนีหายไปไหนไม่