คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ปรีชาวินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 798 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการกักขังลูกหนี้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ ศาลมีอำนาจกักขังได้แม้ไม่มีหมายบังคับคดี
คำบังคับ คือคำสั่งแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาให้ปฎิบัติตามคำพิพากษาและกำหนดวิธีที่จะปฎิบัติไว้ พร้อมทั้งระบุระยะเวลาและเงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่จำเป็น (วิ.แพ่ง.ม.272 - 273) และ ป.วิ.แพ่ง มาตรา 273 นี้ กำหนดวิธีบังคับไว้ในตอนท้ายว่า ถ้าผู้ต้องบังคับมิได้ปฏิบัติตามคำบังคับ ผู้นั้นจะต้องถูกยึดทรัพย์หรือถูกจับหรือจำขังดังที่บัญญัติไว้ในภาค 4 ลักษณะ 2 หมวด 1 กล่าวคือ ถ้าเป็นกรณีที่จะดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ศาลก็ออกหมายบังคับคดี (ม.275 - 276) แต่ถ้าเป็นกรณีที่ไม่ต้องดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดี ก็ทำการจับหรือจำขังเพื่อให้ปฏิบัติตามคำบังคับได้แล้วแต่เรื่อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจาห้องเช่าพ้นกำหนดคำบังคับแล้ว จำเลยยังขัดขืนไม่ยอมออกจากห้อง ดังนี้ศาลออกหมายจับจำเลยมากักขังฐานไม่ปฎิบัติตามคำบังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการกักขังลูกหนี้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ ศาลมีอำนาจกักขังได้แม้ไม่มีหมายบังคับคดี
คำบังคับ คือคำสั่งแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา ให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาและกำหนดวิธีที่จะปฏิบัติไว้พร้อมทั้งระบุระยะเวลาและเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่จำเป็น(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา272-273) และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 273 นี้ กำหนดวิธีบังคับไว้ในตอนท้ายว่า ถ้าผู้ต้องบังคับมิได้ปฏิบัติตามคำบังคับ ผู้นั้นจะต้องถูกยึดทรัพย์หรือถูกจับหรือจำขัง ดังที่บัญญัติไว้ในภาค 4 ลักษณะ 2 หมวด 1กล่าวคือ ถ้าเป็นกรณีที่จะดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ศาลก็ออกหมายบังคับคดี (มาตรา 275-276) แต่ถ้าเป็นกรณีที่ไม่ต้องดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ทำการจับหรือจำขังเพื่อให้ปฏิบัติตามคำบังคับได้แล้วแต่เรื่อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องเช่า พ้นกำหนดคำบังคับแล้ว จำเลยยังขัดขืน ไม่ยอมออกจากห้องดังนี้ศาลออกหมายจับจำเลยมากักขังฐานไม่ปฏิบัติตามคำบังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำลายทรัพย์สิน: การกระทำโดยไม่ได้เจตนา ไม่ถึงขั้นความผิดอาญา แต่เป็นการละเมิดทางแพ่ง
เดินเหยียบย่ำต้นข้าวในนาเสียหาย เพราะลงไปเที่ยวหาหนูในนานั้น หาได้มีเจตนาโดยตรงที่จะแกล้งเหยียบย่ำทำลายต้นข้าวไม่ ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบังอาจทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายตามก.ม.อาญามาตรา 324 + แต่เป็นการละเมิดในทางแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยไม่มีเจตนาทำลายทรัพย์ผู้อื่น ไม่เป็นความผิดอาญา แต่เป็นการละเมิดทางแพ่ง
เดินเหยียบย่ำต้นข้าวในนาเขาเสียหาย เพราะลงไปเที่ยวหาหนูในนานั้น หาได้มีเจตนาโดยตรงที่จะแกล้งเหยียบย่ำทำลายต้นข้าวไม่ดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบังอาจทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324
หากแต่เป็นการละเมิดในทางแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งหนังสือสัญญาโดยใช้ชื่ออื่น ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
จำเลยทำหนังสือสัญญาให้ผู้เสียหายหนึ่งฉะบับ มีข้อความว่า ผู้เสียหายเช่าเรือนายประเสริฐ จ่ายค่าเช่าให้นายประเสริฐแล้วครึ่งหนึ่งหกพันบาท อีกครึ่งหนึ่งจะจ่ายทีหลัง ท้ายหนังสือสัญญาช่องผู้ให้เช่า จำเลยลงชื่อ แต่ลงชื่อว่า ประเสริฐ สุวรรณรังษี ไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของจำเลย แล้วมอบสัญญาให้ผู้เสียหายไป ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้เสียหายในการที่จะเอาสัญญานี้ไปแสดงต่อสามี ขอเงินมาทำทุนการค้า ดังนี้ เป็นเพียงจำเลยแต่งหนังสือขึ้นฉะบับหนึ่ง อาศัยเนื้อเรื่องที่ผู้เสียหายนึกสมมุติขึ้น มิใช่เป็นการปลอมหนังสือจึงหามีความผิดฐานปลอมหนังสือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งหนังสือตามสมมติของผู้เสียหาย ไม่ถือเป็นการปลอมแปลงเอกสาร
จำเลยทำหนังสือสัญญาให้ผู้เสียหายหนึ่งฉบับมีข้อความว่าผู้เสียหายเช่าเรือนายประเสริฐ จ่ายค่าเช่าให้นายประเสริฐแล้วครึ่งหนึ่งหกพันบาทอีกครึ่งหนึ่งจะจ่ายทีหลังท้ายหนังสือสัญญาช่องผู้ให้เช่า จำเลยลงชื่อแต่ลงชื่อว่าประเสริฐ สุวรรณรังษีไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของจำเลย แล้วมอบสัญญาให้ผู้เสียหายไปทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้เสียหายในการที่จะเอาสัญญานี้ไปแสดงต่อสามีขอเงินมาทำทุนการค้า ดังนี้ เป็นเพียงจำเลยแต่งหนังสือขึ้นฉบับหนึ่งอาศัยเนื้อเรื่องที่ผู้เสียหายนึกสมมุติขึ้นมิใช่เป็นการปลอมหนังสือจึงหามีความผิดฐานปลอมหนังสือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงเกิน 2500 ลิตร ถือมีความผิด แม้ไม่ขออนุญาตสถานที่เก็บ
พ.ร.บ.ด้วยการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2474 มาตรา 13 (ข) วรรคท้าย บัญญัติห้ามขาดไม่ให้เก็บน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดธรรมดา (ประเภทไม่ได้จำหน่ายขาย) มีปริมาณเกิน 2500 ลิตร
ฉะนั้นผู้ใดเก็บน้ำมันไว้เกินกว่า 2500 ลิตร แล้วก็ต้องมีผิดเสมอ โดยไม่ต้องพิจารณาถึงสถานที่เก็บว่าจะต้องขออนุญาตหรือไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงเกิน 2,500 ลิตร โดยไม่ต้องพิจารณาเรื่องสถานที่เก็บ
พระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง 2474 มาตรา 13(ข) วรรคท้าย บัญญัติห้ามขาดไม่ให้เก็บน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดธรรมดา (ประเภทไม่ได้จำหน่ายขาย) มีปริมาณเกิน 2500 ลิตร
ฉะนั้นผู้ใดเก็บน้ำมันไว้เกินกว่า 2500 ลิตร แล้วก็ต้องมีผิดเสมอโดยไม่ต้องพิจารณาถึงสถานที่เก็บว่าจะต้องขออนุญาตหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและกฎหมายสำรวจข้าว: กฎหมายทั้งสองมิได้ขัดแย้งกัน
พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ กับพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว มิใช่เป็นกฎหมายที่ใช้แทนหรือขัดกันเพราะพระราชบัญญัติฉบับแรกมีความมุ่งหมายเพื่อให้มีเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของต่างๆ เพียงพอแก่ความต้องการของประเทศส่วนความมุ่งหมายแห่ง พระราชบัญญัติฉบับหลังมีเพียงแต่สำรวจและห้ามกักกันข้าว เมื่อมีการกระทำฝ่าฝืนประกาศที่ออกตามอำนาจในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ ก็ต้องใช้พระราชบัญญัตินี้บังคับ จะนำพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวมาใช้บังคับแทนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและการสำรวจข้าว: กฎหมายทั้งสองมิได้ขัดแย้งกัน
พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ กับ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว มิใช่เป็นกฎหมายที่ใช้แทนหรือขัดกัน เพราะ พ.ร.บ.ฉะบับแรกมีความมุ่งหมายเพื่อให้มีเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของต่าง ๆ เพียงพอแก่ความต้องการของประเทศ ส่วนมุ่งหมายแห่ง พ.ร.บ.ฉะบับหลังมีเพียงแต่สำรวจและห้ามกักกันข้าว เมื่อมีการกระทำฝ่าฝืนประกาศที่ออกตามอำนาจใน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ ก็ต้องใช้ พ.ร.บ.นี้บังคับ จะนำ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าวมาใช้บังคับแทนไม่ได้
of 80