คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ปรีชาวินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 798 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ลักษณะของเหลวเป็นสุราเถื่อน: หลักฐานต้องชัดเจนจากผู้เชี่ยวชาญ
ในคดีที่หาว่าจำเลยมีน้ำข้าวหมักส่าเชื้อสุราเถื่อนมีแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา ไว้ในครอบครองนั้น โจทก์ไม่นำผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางมาสืบแม้แต่รายงานการตรวจและของกลางก็ไม่ได้ส่งศาล คงนำพยานปากหนึ่งซึ่งไม่ใช่เป็นผู้ตรวจของกลางมาสืบว่าอำเภอได้พิสูจน์ของกลางแล้ว มีดีกรีได้เช่นเดียวกับสุรา ดังนี้ ยังไม่พอจะชี้ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุราตามบทวิเคราะห์แห่งกฎหมายคดีจึงลงโทษจำเลยไม่ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องและริบของกลางศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุราพิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางให้ริบดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาในเรื่องริบของกลาง เมื่อคดียังชี้ขาดไม่ได้ว่าของกลางเป็นของผิดกฎหมาย ย่อมสั่งยกเรื่องริบของกลางเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ของกลางในคดีภาษีสรรพสามิต: พยานหลักฐานต้องชัดเจนและครบถ้วน
ในคดีที่หาว่าจำเลยมีน้ำข้าวหมักส่าเชื้อสุราเถื่อน มีแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา ไว้ในครอบครองนั้น โจทก์ไม่นำผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางมาสืบ แม้แต่รายงานการตรวจและของกลางก็ไม่ได้ส่งศาล คงนำพะยานปากหนึ่งซึ่งไม่ใช่เป็นผู้ตรวจของกลางมาสืบว่า อำเภอได้พิสูจน์ของกลางแล้ว มีดีกรีได้เช่นเดียวกับสุราดังนี้ ยังไม่พอจะชี้ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุราตามบทวิเคราะห์แห่งกฏหมาย คดีจึงลงโทษจำเลยไม่ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องและริบของกลาง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุรา พิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางให้ริบ ดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาในเรื่องริบของกลาง เมื่อคดียังชี้ขาดไม่ได้ว่าของกลางเป็นของผิดกฏหมาย ย่อมสั่งยกเรื่องริบของกลางเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน: การขุดทำนบเพื่อระบายน้ำ
คดีที่ฟ้องว่าจำเลยหาว่า+ทำลายทำนบกั้นน้ำหนองสาธารณะชำรุดเสียหายอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ตามมาตรา 191 นั้นเพียงแต่ โจทก์มีพยานสืบแต่ว่าจำเลยขุดทำนบกั้นน้ำสาธารณะเพื่อระบายน้ำออกไป โดยเกรงน้ำจะท่วมนาจำเลย ที่จำเลยกระทำเช่นนั้นจะสามารถอาจจะเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ได้อย่างไรหรือไม่ ไม่ปรากฏ กลับปรากฏตามคำพะยานโจทก์อีกว่าถ้าน้ำในหนองมากก็ต้องเปิดทำนบระบายน้ำออกเหมือนกันเช่นนี้ ถือว่าโจทก์สืบไม่ได้ครบองค์ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 191.
ยังลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขุดทำนบเพื่อระบายน้ำ ไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 191 หากไม่ปรากฏว่าการกระทำนั้นอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์
คดีที่ฟ้องจำเลยหาว่าขุดทำลายทำนบกั้นน้ำหนองสาธารณะชำรุดเสียหายอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ตาม มาตรา 191 นั้นเพียงแต่โจทก์มีพยานสืบแต่ว่าจำเลยขุดทำนบกั้นน้ำสาธารณะเพื่อระบายน้ำออกไป โดยเกรงน้ำจะท่วมนาจำเลย ที่จำเลยกระทำนั้นจะสามารถอาจจะเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ได้อย่างไรหรือไม่ ไม่ปรากฏ กลับปรากฏตามคำพยานโจทก์อีกว่าถ้าน้ำในหนองมากก็ต้องเปิดทำนบระบายน้ำออกเหมือนกันเช่นนี้ ถือว่าโจทก์สืบไม่ได้ครบองค์ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 191
ยังลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 423/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพในคดีอัตราโทษสูง: พยานประกอบต้องน่าเชื่อถือว่าจำเลยรับสารภาพตามจริง
ในคดีที่จำเลยรับสารภาพแต่เพราะเป็นคดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงถึง 10 ปี ศาลจึงต้องฟังพยานโจทก์ต่อไปจนกว่าจะเป็นที่พอใจว่าจำเลยกระทำผิดจริงนั้นพยานที่ศาลจะต้องฟังนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องถึงขนาดที่จะใช้ลงโทษได้อย่างในคดีที่จำเลยปฏิเสธเพียงแต่มีเหตุผลแวดล้อมให้เป็นที่พอใจศาลว่าจำเลยให้การรับสารภาพตามความจริง ไม่มีเหตุสงสัยว่าจะรับแทนผู้อื่นแล้วก็พอฟังลงโทษจำเลยได้ เพราะมีคำรับของจำเลยเป็นหลักอยู่แล้ว
โจทก์มีพยานเห็นจำเลยกับผู้ตายและผู้อื่นเกิดทุ่มเถียงกันในวงเสพสุราต่อมาในเวลาใกล้ชิดกันนั้น มีผู้พบศพผู้ตายในวงเสพสุรานั้นเมื่อจำเลยรับสารภาพโดยดีว่าได้เป็นผู้ทำร้ายผู้ตายตาย ศาลฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายตายดังคำรับสารภาพได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 423/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพประกอบพยานแวดล้อมเพียงพอ ศาลลงโทษจำเลยได้ แม้พยานไม่หนักแน่น
ในคดีที่จำเลยรับสารภาพแต่เพราะเป็นคดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงถึง 10 ปี ศาลจึงต้องฟังพยานโจทก์ต่อไปจนกว่าจะเป็นที่พอใจว่าจำเลยกระทำผิดจริงนั้นพยานที่ศาลจะต้องฟังนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องถึงขนาดที่จะใช้ลงโทษได้อย่างในคดีที่จำเลยปฏิเสธเพียงแต่มีเหตุผลแวดล้อมให้เป็นที่พอใจศาลว่าจำเลยให้การรับสารภาพตามความจริง ไม่มีเหตุผลสงสัยว่าจะรับแทนผู้อื่นแล้วก็พอฟังลงโทษจำเลยได้ เพราะมีคำรับของจำเลยเป็นหลักอยู่แล้ว.
โจทก์มีพยานเห็นจำเลยกับผู้ตายและผู้อื่นเกิดทุ่มเถียงกันในวงเสพสุรา ต่อมาในเวลาใกล้ชิดกันนั้น มีผู้พบศพผู้ตายในวงเสพสุรานั้น เมื่อจำเลยรับสารภาพโดยดีว่าได้เป็นผู้ทำร้ายผู้ตาย ตายศาลฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้ตาย ตายดังคำรับสารภาพได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้จำนองเป็นขายฝาก: สัญญาจำนองระงับ และการคิดดอกเบี้ยค้างชำระเป็นต้นเงิน
เดิมจดทะเบียนจำนองที่ไว้แก่เขาภายหลังตกลงเปลี่ยนเป็นทำสัญญาจดทะเบียนขายฝากดังนี้ เป็นการแปลงหนี้จำนองเดิมเป็นขายฝากสัญญาจำนองเดิมเป็นอันระงับสิ้นไปในตัว บังคับตามสัญญาขายฝากได้โดยไม่จำต้องจดทะเบียนเพิกถอนสัญญาจำนองเดิมเสียก่อน
การตกลงกันให้เอาดอกเบี้ยที่ค้างอยู่กว่า 5 ปีตามสัญญาจำนองมาคิดรวมเป็นต้นเงินในสัญญาขายฝากที่ทำขึ้นใหม่นั้นหาต้องห้ามตามกฎหมายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แปลงหนี้จำนองเป็นขายฝาก: สัญญาเดิมระงับ สัญญาใหม่บังคับได้ ดอกเบี้ยค้างชำระรวมต้นเงินได้
เดิมจดทะเบียนจำนองที่ไว้แก่เขา ภายหลังตกลงเปลี่ยนเป็นทำสัญญาทะเบียนขายฝาก ดังนี้ เป็นการแปลงหนี้จำนองเดิมเป็นขายฝาก สัญญาจำนองเดิมเป็นอันระงับสิ้นไปในตัว บังคับตามสัญญาขายฝากได้โดยไม่จำต้องจดทะเบียนเพิกถอนสัญญาจำนองเดิมเสียก่อน
การตกลงกันให้เอาดอกเบี้ยที่ค้างอยู่กว่า 5 ปี ตามสัญญาจำนองมาคิดรวมเป็นต้นเงินในสัญญาขายฝาก+ขึ้นใหม่นั้นก็หาต้องห้ามตามกฏหมายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัสต์ต้องมีการยกกรรมสิทธิ์และวัตถุประสงค์ชัดเจน การสั่งให้ทำบุญอย่างกว้างๆ ไม่ถือเป็นทรัสต์
ที่จะเป็นทรัสต์นั้น ต้องมีข้อความเห็นได้ว่ายกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่าผู้ได้รับกรรมสิทธิ์นั้นจะต้องใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือหลายคนอันกำหนดตัวแน่นอนหรือเพื่อสาธารณกุศลอันแน่นอน การที่สั่งไว้ในพินัยกรรมว่าให้เก็บผลประโยชน์ทรัพย์ของผู้วายชนม์ไว้สำหรับทำบุญให้ผู้วายชนม์ ต่อไปนั้นเป็นคำที่กว้างไม่แน่นอนว่าอะไรต้องเข้าใจว่าเพียงแต่ผู้วายชนม์ได้แสดงความประสงค์ไว้เช่นนั้นยังไม่ใช่ทรัสต์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การก่อตั้งทรัสต์ต้องมีการยกกรรมสิทธิ์และผูกมัดการใช้ประโยชน์ที่ชัดเจน การสั่งให้ทำบุญทั่วไปไม่ถือเป็นทรัสต์
ที่จะเป็นตรัสต์นั้น ต้องมีข้อความเห็นได้ว่า ยกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่าผ้ได้รับกรรมสิทธ์นั้นจะตอ้งใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนี่ง หรือหลายคนอันกำหนดตัวแน่นอนหรือเพื่อสาธารณะกุศลอันแน่นอน การที่สั่งไว้ในพินักรรม์ว่าให้เก็บผลประโยชน์ทรัพย์ของผู้วายชนมไว้สำหรับทำบุญให้ผู้วายชนม์ ต่อไปนั้น เป็นคำที่กว้างไม่แน่นอนว่าอะไร ต้องเข้าใจว่าเพียงแต่ผู้วายชนม์ได้แสดงความประวงค์ไว้เช่นนั้นยังไม่ใช่ตรัสต์
of 80