พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำเนาฟ้องผิดพลาดไม่กระทบสิทธิจำเลย หากศาลอ่านฟ้องให้ฟังและจำเลยทราบข้อกล่าวหา
สำเนาฟ้องของโจทก์มีข้อความผิดพลาดไม่ตรงกับข้อความในฟ้องฉบับที่ยื่นต่อศาลแต่ศาลได้อ่านฟ้องให้จำเลยฟังและศาลยังบอกให้จำเลยเข้าใจว่าให้ถือเอาข้อความตามฟ้องที่ศาลอ่าน จำเลยทราบดีว่าตามฟ้องโจทก์กล่าวหามีข้อความเป็นอย่างไรและสำเนาฟ้องที่โจทก์นำส่งให้จำเลยมีข้อความผิดพลาดไม่ตรงกับฟ้องอย่างไรบ้าง ดังนี้ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้และไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 750/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งที่ดินมรดก/ที่ดินร่วม การนำสืบต้องสอดคล้องกับคำฟ้อง ศาลอุทธรณ์มีอำนาจแก้ไขคำพิพากษา
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า โจทก์กับจำเลยปกครองที่ดินร่วมกันมา บัดนี้จำเลยจะเอาที่ดินเสียผู้เดียว จึงขอให้จำเลยส่งโฉนดมาทำการแบ่งแยกตามส่วนครึ่งหนึ่ง หากแบ่งแยกไม่ตกลง ก็ขอให้ประมูลราคาหรือขายทอดตลาดแบ่งเงินกัน ชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่า โจทก์จำเลยต่างปกครองเป็นส่วนสัดกัน ดังนี้ ไม่เป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทแต่เพียงครึ่งหนึ่ง ถ้าทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์มีกรรมสิทธิอยู่ในที่พิพาทจริง ศาลก็พิพากษาให้ที่ดินพิพาทไม่เกินครึ่งหนึ่งเป็นของโจทก์ได้ ไม่ผิดจากฟ้อง หรือเกินคำขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดเลยจากคำขอท้ายฟ้องของโจทก์หรืออย่างไรนั้น ศาลอุทธรณ์มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้.
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทแต่เพียงครึ่งหนึ่ง ถ้าทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์มีกรรมสิทธิอยู่ในที่พิพาทจริง ศาลก็พิพากษาให้ที่ดินพิพาทไม่เกินครึ่งหนึ่งเป็นของโจทก์ได้ ไม่ผิดจากฟ้อง หรือเกินคำขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดเลยจากคำขอท้ายฟ้องของโจทก์หรืออย่างไรนั้น ศาลอุทธรณ์มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 750/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการแบ่งทรัพย์สินร่วม กรณีฟ้องขอแบ่งที่ดิน ศาลต้องพิพากษาภายในส่วนแบ่งที่โจทก์ขอ
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า โจทก์กับจำเลยปกครองที่ดินร่วมกันมา บัดนี้จำเลยจะเอาที่ดินเสียผู้เดียว จึงขอให้จำเลยส่งโฉนดมาทำการแบ่งแยกตามส่วนครึ่งหนึ่ง หากแบ่งแยกไม่ตกลง ก็ขอให้ประมูลราคาหรือขายทอดตลาดแบ่งเงินกัน ชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่า โจทก์จำเลยต่างปกครองเป็นส่วนสัดกัน ดังนี้ ไม่เป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทแต่เพียงครึ่งหนึ่ง ถ้าทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์อยู่ในที่พิพาทจริง ศาลก็พิพากษาให้ที่ดินพิพาทไม่เกินครึ่งหนึ่งเป็นของโจทก์ได้ ไม่ผิดจากฟ้อง หรือเกินคำขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดเลยจากคำขอท้ายฟ้องของโจทก์หรืออย่างไรนั้น ศาลอุทธรณ์มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทแต่เพียงครึ่งหนึ่ง ถ้าทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์อยู่ในที่พิพาทจริง ศาลก็พิพากษาให้ที่ดินพิพาทไม่เกินครึ่งหนึ่งเป็นของโจทก์ได้ ไม่ผิดจากฟ้อง หรือเกินคำขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดเลยจากคำขอท้ายฟ้องของโจทก์หรืออย่างไรนั้น ศาลอุทธรณ์มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าเจ้าพนักงาน: การพิจารณาจากพฤติการณ์และเหตุผลประกอบ
ตำรวจกำลังกอดปล้ำจับผู้กระทำผิดอยู่ จำเลยมาถึงก็ใช้ปืนยิงไป 1 นัดถูกตำรวจถึงแก่ความตาย ดังนี้ เมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตาย และจำเลยกับผู้ตายก็เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกัน จำเลยคงมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตามมาตรา 249.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าเจ้าพนักงาน: พิจารณาจากพฤติการณ์และเหตุผลประกอบ
ตำรวจกำลังกอดปล้ำจับผู้กระทำผิดอยู่ จำเลยมาถึงก็ใช้ปืนยิงไป 1 นัดถูกตำรวจถึงแก่ความตาย ดังนี้ เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตาย และจำเลยกับผู้ตายก็เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกันจำเลยคงมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตามมาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานสมคบเพื่อการค้าประเวณีโดยไม่จำกัดอายุผู้เสียหาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้สมคบกันเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่นจำเลยได้ใช้อุบายทุจริตล่อลวงเป็นธุระจัดหา ล่อ และชักพานางสาวสวิงอายุ 19 ปีไปเพื่อการอนาจาร ดังนี้ การกระทำของจำเลย ควรมีความผิดตามบทบัญญัติแห่ง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ.2474 มาตรา 3 ตอนท้าย ซึ่งหาได้กำหนดอายุของหญิงเจ้าทุกข์ไว้ด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสมคบกันเพื่อการอนาจารโดยไม่จำกัดอายุผู้ถูกกระทำ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้สมคบกันเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่น จำเลยได้ใช้อุบายทุจจริตล่อลวงเป็นธุระจัดหา ล่อ และชักพานางสาวสวิงอายุ 19 ปีไปเพื่อการอนาจาร ดังนี้ การกระทำของจำเลยควรมีความผิดตามบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา พ.ศ. 2474 ม.3 ตอนท้าย ซึ่งหาได้กำหนดอายุของหญิงเจ้าทุกข์ไว้ด้วยไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 683/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่จดทะเบียนสมรส: เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่ดำเนินการ โจทก์เรียกค่าสินสอดคืนไม่ได้
โจทก์ได้ทำพิธีแต่งงานกับบุตรีจำเลย แล้วโจทก์ไม่นำพาต่อการจดทะเบียนสมรส โจทก์จะมาฟ้องเรียกค่าสินสอดคืนไม่ได้.
(อ้างฎีกา 269/2488)
(อ้างฎีกา 269/2488)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 683/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่จดทะเบียนสมรส: หากทั้งสองฝ่ายไม่ดำเนินการ โจทก์จะเรียกค่าสินสอดคืนไม่ได้
โจทก์ได้ทำพิธีแต่งงานกับบุตรีจำเลย แล้วโจทก์ไม่นำพาต่อการจดทะเบียนสมรส โจทก์จะมาฟ้องเรียกค่าสินสอดคืนไม่ได้ (อ้างฎีกา 269/2488)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแบ่งค่าอ้อย: การกล่าวอ้างกรรมสิทธิร่วมที่ไม่ต้องระบุที่มา หากจำเลยไม่คัดค้านตั้งแต่แรก
โจทก์ฟ้องว่ามีกรรมสิทธิเป็นเจ้าของอ้อยร่วมกับจำเลย ขอแบ่งค่าอ้อยซึ่งจำเลยขายได้ อันเป็นส่วนของโจทก์ครึ่งหนึ่ง ดังนี้ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 172 แล้ว ไม่จำต้องกล่าวว่า เป็นเจ้าของร่วมกันโดยทางใด ซึ่งเป็นรายละเอียดที่โจทก์จะต้องนำสืบในชั้นพิจารณาต่อไป ถ้าจำเลยต้องการทราบรายละเอียดในข้อนี้ ในวันชี้สองสถานหรือก่อนวันนั้น จำเลยมีสิทธิขอให้ศาลสอบถามโจทก์ให้แถลงในข้อนี้ได้ จำเลยเพิ่งจะมาคัดค้านในตอนสืบพะยานโจทก์ไปแล้วย่อมทำไม่ได้.