พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจเจ้าพนักงาน: ผู้ใหญ่บ้านนอกเขตหมู่บ้าน ไม่ถือเป็นเจ้าพนักงานกระทำทุจริต
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ไปทำการจับกุมราษฎรหมู่ 4 ซึ่งลอบไหตัดไม้หวงห้ามในหมู่ 4 นั้น ย่อมมิอาจถูกกล่าวหาว่ากระทำ การทุจริตในฐานะเป็นเจ้าพนักงานได้ เพราะเป็นการนอกขอบเขตอำนาจและหน้าที่ และไม่นับว่าเป็นเจ้าพนัก งานในการนั้น./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753-754/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ห้องเช่าเป็นที่อยู่อาศัยหลัก แม้มีการค้าเล็กน้อย ยังคงได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องเขาโดยผู้เช่าตลอดทั้งครอบครัว ได้อาศัยหลับนอนทำครัวหุงหาอาหารกินอยู่ในห้องเช่านั้นส่วนตัวผู้เช่าทำการขายทองรูปพรรณและกาแฟเป็นการค้าเล็กๆ น้อยๆ ดังนี้ถือว่า ผู้เช่าใช้ห้องพิพาทเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่อยู่อาศัยเพื่อควบคุมการค้าจึงเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753-754/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ห้องเช่าเป็นที่อยู่อาศัยหลัก แม้มีการค้าเล็กน้อยยังคงได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องเขาโดยผู้เช่าตลอดทั้งครอบครัว ได้อาศัยหลับนอนทำครัวหุงหาอาหารกินอยู่ในห้องเช่านั้น ส่วนตัวผู้เช่า ทำการขายทองรูปพรรณ์และกาแฟเป็นการค้าเล็กๆน้อยๆ ดังนี้ ถือว่า ผู้เช่าใช้ห้องพิพาทเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วน ใหญ่ ไม่ใช้อยู่อาศัยเพื่อควบคุมการค้า จึงเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการรับหรือไม่รับอุทธรณ์เป็นที่สุด ห้ามฎีกา
ในกรณีที่คู่ความยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดเวลานั้นเมื่อศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์แล้ว คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236คู่ความจะฎีกาต่อไปมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการรับหรือไม่รับอุทธรณ์ ถือเป็นที่สุดตามกฎหมาย ไม่สามารถฎีกาได้
ในกรณีที่คู่ความยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดเวลานั้น เมื่อ ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์แล้ว คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่ สุดตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 236 คู่ความจะฎีกาต่อไปมิได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องหุ้นส่วนและการชำระหนี้เงินค่าหุ้น โดยประเด็นหลักอยู่ที่การชำระเงินครบถ้วนหรือไม่
โจทก์ฟ้องว่า ได้เข้าหุ้นทำป่าไม้กับจำเลยเป็นเงิน10,000 บาทต่อมาสามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นรายนี้และโจทก์ขอคืนเงินค่าหุ้นจำเลยยอมคืนและผ่อนชำระแล้ว 1,500 บาท ที่เหลือ 8,500 บาทขอผัดชำระวันหลังแล้วในที่สุดไม่ยอมชำระจึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยปฏิเสธว่าสามีโจทก์มิได้บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นส่วน แต่รับว่าได้คืนเงินค่าหุ้นให้ 1,500 บาทจริงเพราะสำคัญผิด คิดว่ามีอำนาจคืนได้โดยไม่ต้องให้หุ้นส่วนทั้งหมดยินยอม ดังนี้ ประเด็นในข้อที่สามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมหรือไม่ไม่ใช่ข้อแพ้ชนะ ประเด็นคงมีเพียงว่าจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนแล้วหรือยัง เท่านั้นข้อที่จำเลยต่อสู้ว่ายอมให้โจทก์ถอนหุ้นโดยสำคัญผิดเพราะที่ถูกจะต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนทุกคนก่อนนั้น ก็ไม่จำต้องพิจารณาถึง เพราะการที่จำเลยยอมให้โจทก์ถอนหุ้นเช่นเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลย ไม่ใช่เรื่องของหุ้นส่วน
จำเลยปฏิเสธว่าสามีโจทก์มิได้บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นส่วน แต่รับว่าได้คืนเงินค่าหุ้นให้ 1,500 บาทจริงเพราะสำคัญผิด คิดว่ามีอำนาจคืนได้โดยไม่ต้องให้หุ้นส่วนทั้งหมดยินยอม ดังนี้ ประเด็นในข้อที่สามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมหรือไม่ไม่ใช่ข้อแพ้ชนะ ประเด็นคงมีเพียงว่าจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนแล้วหรือยัง เท่านั้นข้อที่จำเลยต่อสู้ว่ายอมให้โจทก์ถอนหุ้นโดยสำคัญผิดเพราะที่ถูกจะต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนทุกคนก่อนนั้น ก็ไม่จำต้องพิจารณาถึง เพราะการที่จำเลยยอมให้โจทก์ถอนหุ้นเช่นเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลย ไม่ใช่เรื่องของหุ้นส่วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทหุ้นส่วนจำกัด: การชำระหนี้ค่าหุ้นและการถอนหุ้นโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนอื่น
โจทก์ฟ้องว่า ได้เข้าหุ้นทำป่าไม้กับจำเลยเป็นเงิน 10000 บาท ต่อมาสามีดจทก์บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นรายนี้ และดจทก์ขอคืนเงินค่าหุ้น จำเลยยอมคืนและผ่อนชำระแล้ว 1500 บาท ที่เหลือ 8500 บาท ขอผัดชำระวันหลังแล้ว ในที่สุดไม่ยอมชำระจึงขอให้ศาลบังคับ.
จำเลยปฏิเสธว่าสามีโจทก์มิได้บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นส่วน แต่รับว่าได้คืนเงินค่าหุ้นให้ 1500 บาทจริง เพราะสำคัญ ผิด คิดว่ามีอำนาจคืนได้โดยไม่ต้องให้หุ้นส่วนทั้งหมดยินยอม ดังนี้ ประเด็นในข้อท่สามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมหรือ ไม่ ไม่ใช่ข้อแพ้ชนะ ประเด็นคงมีเพียงจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนแล้วหรือยัง เท่านั้น ข้อที่จำเลยต่อสู้ว่า ยอมให้โจทก์ถอนหุ้น โดยสำคัญผิดเพราะที่ถูกจะต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนทุกคนก่อนนั้น ก็ไม่จำต้อง พิจารณาถึง เพราะการที่จำเลยยอมให้ดจทก์ถอนหุ้นเช่นเรื่องนี้ เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลย ไม่ใช่เรื่องของ หุ้นส่วน./
จำเลยปฏิเสธว่าสามีโจทก์มิได้บอกล้างนิติกรรมเข้าหุ้นส่วน แต่รับว่าได้คืนเงินค่าหุ้นให้ 1500 บาทจริง เพราะสำคัญ ผิด คิดว่ามีอำนาจคืนได้โดยไม่ต้องให้หุ้นส่วนทั้งหมดยินยอม ดังนี้ ประเด็นในข้อท่สามีโจทก์บอกล้างนิติกรรมหรือ ไม่ ไม่ใช่ข้อแพ้ชนะ ประเด็นคงมีเพียงจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนแล้วหรือยัง เท่านั้น ข้อที่จำเลยต่อสู้ว่า ยอมให้โจทก์ถอนหุ้น โดยสำคัญผิดเพราะที่ถูกจะต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนทุกคนก่อนนั้น ก็ไม่จำต้อง พิจารณาถึง เพราะการที่จำเลยยอมให้ดจทก์ถอนหุ้นเช่นเรื่องนี้ เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลย ไม่ใช่เรื่องของ หุ้นส่วน./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้บุตรโดยมีข้อแลกเปลี่ยนเงินตรา ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หา จึงไม่สามารถเพิกถอนได้
มารดาจะยกนาแปลงหนึ่งให้แก่บุตร แต่มารดาต้องการเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อจะเอาไปซื้อที่นาที่จังหวัดอื่น บุตร จึงหา เงินตามจำนวนั้นให้มารดาไป แต่ให้มารดาทำเป็นหนังสือกู้เงินจำนวนนั้นให้บุตร ยึดถือไว้มารดาจึงทำโอนยกที่นา นั้นแก่บุตรที่หอทะเบียน นับแต่มารดารับเงินจากบุตรดังกล่าวไปแล้วเป็นเวลานาน 9 ปี มารดาก็ไม่ได้ให้ดอกเบี้ย แก่บุตรเลย ดังนี้ ไม่เป็นการกู้จริงจัง วินิจฉัยว่า มารดาไม่ได้ยกที่นานั้นให้แก่บุตรตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 521 ฉะนั้นมารดาจะฟ้องขอให้เพิกถอนและเรียกคืนฐานบุตรเนรคุณ ไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินโดยมีเจตนาแลกเปลี่ยนเงิน ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หาจึงไม่อยู่ในข้อยกเว้นการเพิกถอนการให้
มารดาจะยกนาแปลงหนึ่งให้แก่บุตรแต่มารดาต้องการเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อจะเอาไปซื้อที่นาที่จังหวัดอื่นบุตร จึงหาเงินตามจำนวนนั้นให้มารดาไปแต่ให้มารดาทำเป็นหนังสือกู้เงินจำนวนนั้นให้บุตร ยึดถือไว้ มารดาจึงทำโอนยกที่นานั้นแก่บุตรที่หอทะเบียน นับแต่มารดารับเงินจากบุตรดังกล่าวไปแล้วเป็นเวลานาน 9 ปีมารดาก็ไ่ได้ให้ดอกเบี้ยแก่บุตรเลย ดังนี้ไม่เป็นการกู้จริงจังวินิจฉัยว่า มารดาไม่ได้ยกที่นานั้นให้แก่บุตรโดยเสน่หาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 521 ฉะนั้นมารดาจะฟ้องขอให้เพิกถอนและเรียกคืนฐานบุตรเนรคุณไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกายด้วยอาวุธ ผู้กระทำไม่อ้างป้องกันหรือถูกยั่วยุได้
ทุกคนที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายร่างกายกันนั้นจะอ้างว่าทำโดยป้องกันหรือถูกยั่วโทสะไม่ได้