พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 604/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาชิงทรัพย์ แม้โจทก์มิได้ส่งบัญชีทรัพย์พร้อมฟ้อง แต่จำเลยมิได้โต้แย้งเรื่องทรัพย์ จึงเป็นฟ้องที่ชอบ
ฟ้องว่าลักทรัพย์ไปตามบัญชีท้ายฟ้อง แต่โจทก์ไม่ได้ส่งบัญชีทรัพย์ไปพร้อมกับฟ้อง เพิ่งจะส่งเมื่อสืบเจ้าทรัพย์พยานโจทก์ศาลสั่งรับไว้คดีนี้จำเลยอ้างฐานที่อยู่ไม่ได้โต้เถียงในเรื่องทรัพย์จึงเป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในคดีอาญา: การกระทำเป็นกรรมเดียวกัน แม้เปลี่ยนฐานความผิด
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมและวาระเดียวกัน เมื่ออัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษและศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย คดีถึงที่สุดแล้วผู้เสียหายจะมาฟ้องจำเลยหาว่าชิงทรัพย์ โดยใช้กำลังทำร้ายร่างกายอีกไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา39(4)(อ้างฎีกาที่ 168/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในคดีอาญา: การกระทำเป็นกรรมเดียวกัน
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมและวาระเดียวกัน เมื่ออัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษและศาลได้พิพากษาลงโทษ จำเลยฐานทำร้ายร่างกาย คดีถึงที่สุดแล้วผู้เสียหายจะมาฟ้องจำเลยหาว่าชิงทรัพย์ โดยใช้กำลังทำร้ายร่างกายอีกไม่ ได้ เป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39 (4)./
(อ้างฎีกาที่ 168/2489)
(อ้างฎีกาที่ 168/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายข้าวสารเกิน 500 บาท และความรับผิดของตัวแทนต่อบุคคลภายนอก
การซื้อขายข้าวสารและรำราคาเกิน 500 บาท ซึ่งผู้ซื้อได้รับของไปแล้ว ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ฟ้องให้ชำระราคาได้
ตัวแทนไม่ต้องรับผิดต่อคนภายนอกเป็นส่วนตัว ในสัญญาที่ได้ทำแทนตัวการ
ตัวแทนไม่ต้องรับผิดต่อคนภายนอกเป็นส่วนตัว ในสัญญาที่ได้ทำแทนตัวการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฎีกา: ดุลพินิจศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ที่แตกต่างกัน มิใช่เหตุรับฎีกา
คดีที่ห้ามฎีกา ผู้พิพากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นบันทึกมาในฎีกาว่า 'ศาลชั้นต้นลงโทษแต่ให้รอการลงโทษไว้ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกทันที จึงเป็นเรื่องดุลพินิจของศาลศาลชั้นต้นเห็นด้วยความเคารพและสุจริตใจว่า ชอบที่ศาลฎีกาจะได้ชี้ขาดเพื่อเป็นบรรทัดฐานทั้งศาลชั้นต้นก็เคยมีเรื่องศาลชั้นต้นให้รอการลงโทษ และศาลอุทธรณ์ลงโทษทันทีแต่ศาลฎีกาให้รอไว้ดังที่ผู้ฎีกาได้อ้างมานั้น จึงเห็นควรให้รับฎีกาไว้ เพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาต่อไป' ดังนี้ มิได้แสดงว่าข้อความที่ตัดสินมาเป็นปัญหาสำคัญมิได้ แสดงว่า ผู้พิพากษาผู้พิจารณา อนุญาตให้ฎีกาศาลฎีกาจึงจะรับฎีกาไว้พิจารณา ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาฎีกาและการดุลยพินิจของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการรอการลงโทษ
คดีที่ห้ามฎีกา ผู้พากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นบรรทึกมาในฎีกา "ศาลชั้นต้นลงโทษแต่ให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกทันที จึงเป็นเรื่องดุลยพินิจของศาลชั้นต้นเห็นด้วยความเคารพและสุจริตใจว่า ชอบที่ศาล ฎีกาจะได้ชี้ขาดเพื่อเป็นบรรทัดฐานทั้งศาลชั้นต้นก็เคยมีเรื่องศาลชั้นต้นให้รอการลงโทษ และศาลอุทธรณ์ลงโทษ ทันที แต่ศาลฎีกาให้รอไว้ดังที่ผู้ฎีกาได้อ้างมานั้น จึงเห็นควรให้รับฎีกาไว้ เพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาต่อไป" ดังนี้ มิได้แสดงว่าข้อความที่ตัดสินมาเป็นปัญหาสำคัญ มิได้ แสดงว่า ผู้พิพากษาผู้พิจารณา อนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับ ไว้พิจารณา ไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องอาญา การระบุเวลาในความผิดยักยอกทรัพย์ไม่จำเป็นต้องระบุวันเวลาที่แน่นอน
ฟ้องว่าเมื่อ 2487 จำเลยรับมอบไม้ของผู้เสียหาย ให้รักษาไว้ต่อมาวันใดเวลาใดไม่ปรากฏ ใน พ.ศ.2492ผู้เสียหายได้รับไม้คืนไปทั้งจำเลยคงรับมอบหมายให้รักษาไว้ต่อไปอีก 2 ท่อนตั้งแต่จำเลยรับมอบหมายไม้สองท่อนไว้ถึง 28 สิงหาคม 2494 เวลาใดไม่ปรากฏจำเลยบังอาจเอาไม้สักทั้ง 2 ท่อนนั้นไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเองฯลฯ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314ฯลฯ ดังนี้ไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองสัญญากู้ด้วยลายมือชื่อและลายนิ้วมือ โดยผู้รู้เห็นถือเป็นพยานได้
กู้เงินกันเกินกว่า 50 บาท ผู้กู้พิมพ์ลายนิ้วมือลงในหนังสือสัญญากู้ ต่อหน้าผู้ให้กู้และคนอีก 2 คนแต่คนหนึ่งลงชื่อโดยบันทึกว่า เป็นพยานอีกคนหนึ่งบันทึกว่า เป็นผู้เขียนดังนี้ เมื่อคนทั้ง สองเป็นผู้รู้เห็นในการกู้เงินและการพิมพ์ลายนิ้วมือลงในสัญญากู้เงินกันจริงก็ถือว่า คนทั้งสองเป็นพยานได้ทั้งสองคนจึงทำให้สัญญากู้ที่กล่าวสมบูรณ์ ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองสัญญากู้ด้วยลายมือและพยาน: การลงชื่อเป็นพยานหรือผู้เขียนไม่กระทบความสมบูรณ์ของสัญญา
กู้เงินกันเกินกว่า 50 บาท ผู้กู้พิมพ์ลายมือนิ้วมือลงในหนังสือสัญญากู้ ต่อหน้าผู้ให้กู้และคนอีก 2 คน แต่คนหนึ่งลงชื่อโดยบันทึกว่า เป็นพยาน อีกคนหนึ่งบันทึกว่า เป็นผู้เขียน ดังนี้ เมื่อคนทั้ง 2 เป็นผู้รู้เห็นในการกู้เงินและการพิพม์ลายนิ้วมือลงในสัญญากู้เงินกันจริงก็ถือว่า คนทั้งสองเป็นพยานได้ทั้งสองคน จึงทำให้สัญญากู้ที่กล่าวสมบูรณ์ ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำแนกความผิดระหว่างลักทรัพย์กับยักยอกทรัพย์ กรณีทรัพย์สินอยู่ในความดูแลของผู้อื่น
จำเลยเป็นคนงานของกรมทาง ผู้บังคับบัญชาใช้ให้จำเลยเฝ้าฟืนหลาของกรมทางไว้ไม่ให้เป็นอันตรายสูญหาย ดังนี้ถือว่าฟืนหลานั้นไม่ได้อยู่ในความยึดถือครอบครองของจำเลยแต่อยู่กับผู้บังคับบัญชาจำเลย ฉะนั้นเมื่อจำเลยเอาฟืนหลานั้นไปโดยทุจริตจำเลยก็ย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์มิใช่ยักยอกทรัพย์