คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปริญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมยอมกันไม่ขายที่ดินแล้วไปขายให้ผู้อื่น ผู้ซื้อเดิมมีสิทธิเรียกร้องให้โอนที่ดิน
สัญญาจะขายที่ดินให้แก่เขาแล้ว กลับเอาไปขายแก่คนอื่น โดยสมยอมกันเพื่อจะไม่ขายที่ดินให้ผู้ซื้อคนแรก ดังนี้ ผู้ซื้อคนแรกมีสิทธิฟ้องผู้ขายและผู้ซื้อรายหลังขอให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายรายหลังเสียและขอให้ผู้ขายโอนที่ดินให้แก่ตนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมยอมกันเพื่อหลีกเลี่ยงการขายที่ดินตามสัญญาจะซื้อขาย สิทธิของผู้ซื้อเดิม
สัญญาจะขายที่ดินให้แก่เขาแล้ว กลับเอาไปขายแก่คนอื่น โดยสมยอมกันเพื่อจะไม่ขายที่ดินให้ผู้ซื้อคนแรก ดังนี้
ผู้ซื้อคนแรกมีสิทธิฟ้องผู้ขายและผู้ซื้อรายหลังขอให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายรายหลังเสีย และขอให้ผู้ขายโอนที่ดินให้แก่ตนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานจำเลยไม่ชอบ ศาลอุทธรณ์ต้องให้สืบพยานจำเลยให้ครบถ้วนก่อนชี้ขาด
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์และสืบตัวจำเลยที่อ้างตนเองเป็นพยานแล้วสั่งงดสืบพยานจำเลย ที่จำเลยขอสืบต่อไปเสีย แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ถ้าศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยตามฟ้อง ก็จำต้องให้สืบพยานจำเลยต่อไปเสียให้สิ้นกระแสความก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานจำเลยและการแก้ไขคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาให้สืบพยานจำเลยให้สิ้นกระแสความก่อน
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์และสืบตัวจำเลยที่อ้างตนเองเป็ยพยานแล้วสั่งงดสืบพยานจำเลย ที่จำเลยขอสืบต่อไปเสียแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ถ้าศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยตามฟ้อง ก็จำต้องให้สืบพยานจำเลยต่อไปเสียให้สิ้นกระแสร์ความก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บัตรเลือกตั้งไม่เสียหากเครื่องหมายเคลื่อนไหวได้ ไม่มีร่องรอยแป้ง/กาว เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนด
ไม่มีบทบัญญัติในการเลือกตั้งกล่าวไว้ว่า การลงเครื่องหมายต้องใช้ทาด้วยแป้งหรือกาว แล้วปิดเครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งลงในบัตรเลือกตั้งให้แน่นสนิทมิให้หลุดเคลื่อนไปมาได้ มิฉะนั้นให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย ดังนี้เลย ฉะนั้นการที่มีบัตรที่มีเครื่องหมายอยู่ภายในเคลื่อนไหวไปมาได้ โดยไม่มีรอยแป้งปิด ในหีบบัตรนั้น จึงไม่ทำให้บัตรดังกล่าวเป็นบัตรเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีขับไล่และสิทธิของผู้เช่าช่วง: ผู้เช่าช่วงไม่อาจอ้างสิทธิจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เจ้าของที่ดินฟ้องขับไล่ผู้เช่าที่ดินปลูกห้องแถวให้คนเช่า จนศาลพิพากษาขับไล่ผู้เช่าที่ดินให้รื้อถอนห้องแถวออกไปจากที่ดินของเจ้าของที่ดินแล้ว ดังนี้ ผู้ซึ่งเช่าห้องแถวอยู่จากผู้เช่าที่ดิน ก็ย่อมเป็นบริวารของผู้เช่าที่ดิน คำพิพากษาและคำบังคับของศาลจึงใช้บังคับแก่ผู้เช่าห้องแถวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1) เจ้าของที่ดินหาจำเป็นจะต้องไปฟ้องผู้เช่าห้องแถวเป็นคดีขึ้นอีกไม่ เมื่อผู้เช่าห้องแถวมีอำนาจพิเศษอย่างไรก็ชอบที่จะแสดงให้ศาลเห็นได้ เมื่อผู้เช่าห้องแถวมิได้แสดงอำนาจพิเศษอย่างใดแล้ว จะอ้างพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯมาใช้บังคับเจ้าของที่ดินไม่ได้ เพราะผู้เช่าห้องแถวมิใช่ผู้เช่า หรือผู้เช่าช่วงที่ดินจากเจ้าของที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพื่อค้า แต่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย: ยังคงได้รับการคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
แม้สัญญาเช่าจะมีข้อความว่า ผู้เช่าจะใช้ทรัพย์ที่เช่าเพื่อประโยชน์เฉพาะแต่เป็นที่ประกอบการค้า เท่านั้น ก็ดี ถ้าหากเป็นที่เห็นได้ว่า วัตถุประสงค์แห่งการเช่านั้นเพื่ออยู่อาศัยแล้ว ข้อสัญญาเช่นว่านี้ก็หาเป็นประโยชน์แก่ผู้ให้เช่าไม่ ผู้เช่าคงได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯอยู่นั่นเอง
เช่าตึกเป็นที่อยู่อาศัยแม้จะได้ประกอบธุรกิจในตึกที่เช่าด้วย ก็ไม่ทำให้การเช่านี้อยู่นอกความคุ้มครองแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพื่อประกอบการค้า แต่มีวัตถุประสงค์หลักเป็นการอยู่อาศัย ยังคงได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
แม้สัญญาเช่าจะมีข้อความว่า ผู้เช่าจะใช้ทรัพย์ที่เช่า เพื่อประโยชน์เฉพาะแต่เป็นที่ประกอบการค้าเท่านั้น ก็ดี ถ้าหากเป็นที่เห็นได้ว่า วัตถุประสงค์แห่งการเช่านั้นเพื่ออยู่อาศัยแล้ว ข้อสัญญาเช่นว่านี้ก็หาเป็นประโยชน์แก่ผู้ให้เช่าไม่ ผู้เช่าคงได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ อยู่นั่นเอง
เช่าตึกเป็นที่อยู่อาศัย แม้จะได้ประกอบธุรกิจในตึกที่เช่าด้วย ก็ไม่ทำให้การเช่านี้อยู่นอกความคุ้มครองแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณ และการไถ่ถอนจำนองก่อนการให้เพื่อความสมบูรณ์ของนิติกรรม
มารดายกที่ดินให้แก่บุตรปรากฎว่าที่ดินที่ยกให้นั้น ติดจำนองมาก่อนการจำนองมาแล้ว จึงทำยกให้แก่บุตร และเมื่อทำยกให้แล้ว ในวันเดียวกันนั้นบุตรก็จำนองที่ดินนั้นไว้แก่ผู้มีชื่ออีก ดังนี้ ถือได้ว่า ขณะเมื่อยกให้กัน หนี้จำนองอันติดอยู่กับที่ดินไม่มีแล้วเพราะได้ไถ่ถอนแล้ว ฉะนั้นเมื่อภายหลังบุตรประพฤติเนรคุณมารดาย่อมถอนคืนการให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้บุตรหลังไถ่ถอนจำนองแล้ว และสิทธิในการถอนคืนกรณีบุตรประพฤติเนรคุณ
มารดายกที่ดินให้แก่บุตรปรากฏว่าที่ดินที่ยกให้นั้น ติดจำนองมาก่อนทำยกให้ แต่มารดาได้ไถ่ถอนการจำนองมาแล้วจึงทำยกให้แก่บุตร และเมื่อทำยกให้แล้ว ในวันเดียวกันนั้นบุตรก็จำนองที่ดินนั้นไว้แก่ผู้มีชื่ออีกดังนี้ถือได้ว่า ขณะเมื่อยกให้กัน หนี้จำนองอันติดอยู่กับที่ดินไม่มีแล้ว เพราะได้ไถ่ถอนแล้ว ฉะนั้นเมื่อภายหลังบุตรประพฤติเนรคุณมารดาย่อมถอนคืนการให้ได้
of 119