คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปริญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาต้องสอดคล้องกับพฤติการณ์ที่พิสูจน์ได้ ศาลไม่สามารถลงโทษฐานอื่นนอกเหนือจากที่โจทก์ฟ้องและพยานหลักฐานสนับสนุน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานวางเพลิงโดยเจตนา แต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้เพลิงไหม้สวนยางของโจทก์ ดังนี้จะลงโทษจำเลยฐานประมาทไม่ได้ ต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดฐานวางเพลิง: การกระทำโดยประมาทไม่ถึงขั้นลงโทษ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานวางเพลิงโดยเจตนาแต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้เพลิงไหม้สวนยางของโจทก์ ดังนี้จะลงโทษจำเลยฐานประมาทไม่ได้ ต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลลึกตัดเส้นประสาท ส่งผลพิการทางการเคลื่อนไหว ถือเป็นบาดแผลสาหัส
บาดแผลถูกฟันที่หลังแขนซ้ายแผลกว้าง 4 เซ็นติเมตรยาว 4 เซ็นติเมตร ลึกเข้ากระดูกปลายแขน แผลตัดเนื้อกล้ามขาด รักษาอยู่ 20 วันแผลหาย แต่แขนเหยียดไม่ได้ นิ้วก็กระดิกไม่ได้ แพทย์ยืนยันว่า เพราะแผลลึกตัดเส้นวิถีประสาทส่วนปลายแขนขาดออกจากกัน แม้แผลหายเส้นวิถีประสาทไม่ติดต่อกันได้ ไม่สามารถจะบังคับให้มีการเคลื่อนไหวได้เหมือนเดิมและปรากฏว่าผู้เสียหายมีอาชีพทางทำนา เช่นนี้ ต้องฟังว่าเป็นบาดแผลถึงสาหัสตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 493/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม: การอ้างทั้งปฏิเสธการทำพินัยกรรมและอ้างโมฆะของพินัยกรรม
โจทก์กล่าวในฟ้องตอนแรกว่า ผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้ผู้ใดเลย ขอให้ศาลสั่งทำลายพินัยกรรมที่จำเลยนำออกแสดงนั้นเสีย แล้วภายหลังร้องเพิ่มเติมฟ้องอีกว่า ถึงแม้ผู้ตายจะได้ทำพินัยกรรมไว้จริง ก็เป็นโมฆะ เพราะทำในขณะวิกลจริต และทำไม่ถูกตามแบบซึ่งกฎหมายบังคับไว้ จึงเป็นฟ้องที่ตั้งประเด็นเป็น 2 นัยหรือ 2 อย่างไม่แน่นอนขัดแย้งกัน เพราะจะเป็นไปไม่ได้ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 493/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่ชัดเจน: ประเด็นขัดแย้งเรื่องพินัยกรรม ทำให้ฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์กล่าวในฟ้องตอนแรกว่า ผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้ผู้ใดเลย ขอให้ศาลสั่งทำลายพินัยกรรมที่จำเลยนำออกแสดงนั้นเสียแล้วภายหลังร้องเพิ่มเติมฟ้องอีกว่าถึงแม้ผู้ตายจะได้ทำพินัยกรรมไว้จริงก็เป็นโมฆะเพราะทำในขณะวิกลจริตและทำไม่ถูกตามแบบซึ่งกฎหมายบังคับไว้จึงเป็นฟ้องที่ตั้งประเด็นเป็น 2 นัยหรือ 2 อย่างไม่แน่นอนขัดแย้งกันเพราะจะเป็นไปไม่ได้ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม(อ้างฎีกาที่ 51/2487)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งห้ามประกอบการค้าตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงและขอบเขตการฎีกา
พระราชบัญญัติสาธารณะสุขพ.ศ.2484 มาตรา 68 ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งห้ามจำเลยมิให้ประกอบการค้านั้นต่อไป ซึ่งเป็นการให้อำนาจศาลใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยตามเหตุการณ์แห่งคดี ถือว่าเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พระราชบัญญัติสาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 7,8,68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าทำเต้าหู้ไม่ได้เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งห้ามประกอบการค้าตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถฎีกาได้
พ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 68 ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งห้ามจำเลยมิให้ประกอบการค้านั้น ต่อไป ซึ่งเป็นการให้อำนาจศาลใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยตามเหตุการณ์แห่งคดี ถือว่าเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 8, 68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้ แต่ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าเต้าหู้ ไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีจำเลยหลบหนี: ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และให้พิจารณาใหม่เฉพาะคดีจำเลยผู้นั้น
เมื่อคดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ จำเลยคนหนึ่งหลบหนี แต่ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาคดีเกี่ยวแก่จำเลยทุกคนตลอดจนจำเลยทีหลบหนีด้วยให้ปล่อยบางคน คงลงโทษบางคน โจทก์ฎีกา แม้จำเลยคนที่หลบหนีจะถูกศาลอุทธรณ์ พิพากษาลงโทษและมิได้ฎีกาขึ้นมาก็ดี ศาลฎีกาก็พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่เกี่ยวแก่จำเลยที่หลบหนี ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่เฉพาะคดีที่เกี่ยวแก่จำเลยที่หลบหนี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบการหลบหนีต่อการพิจารณาคดีของจำเลยอื่น และอำนาจศาลในการแก้ไขคำพิพากษา
เมื่อคดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์จำเลยคนหนึ่งหลบหนีแต่ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาคดีเกี่ยวแก่จำเลยทุกคนตลอดจนจำเลยที่หลบหนีด้วยให้ปล่อยบางคน คงลงโทษบางคน โจทก์ฎีกาแม้จำเลยคนที่หลบหนีจะถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษและมิได้ฎีกาขึ้นมาก็ดี ศาลฎีกาก็พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่เกี่ยวแก่จำเลยที่หลบหนี ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่เฉพาะคดีที่เกี่ยวแก่จำเลยที่หลบหนี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้โฉนดยังมิได้เปลี่ยนชื่อ
ซื้อขายที่ดินมีโฉนดแก่กันได้มอบที่ดินและโฉนดให้ผู้ซื้อยึดถือครอบครองแล้ว ฝ่ายผู้ซื้อก็ชำระราคาแล้ว สัญญาว่าจะไปโอนทะเบียนกันภายใน 1 เดือน แต่แล้วก็ไม่ได้ไปโอนกัน ฝ่ายผู้ซื้ก็คงครอบครอง
ที่ดินโดยเจตนาเป็นเจ้าของด้วยความสงบแลเปิดเผยมาถึง 24 ปี ดังนี้ ฝ่ายผู้ซื้อขายกันนี้ แล้ว ฉะนั้นแม้ภายหลังผู้ซื้อและผู้ขายได้ถึงแก่กรรมทั้งสองฝ่าย ทายาทของผู้ซื้อก็มีสิทธิฟ้องให้ถอนชื่อในโฉนดโอนทะเบียนใส่ชื่อทายาทผู้ซื้อได้ ไม่ใช่เรื่องขาดอายุความและสิทธิเรียกร้องตามป.ม.แพ่งฯมาตรา 163, 164, 169
of 119