คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นาถปริญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,190 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 351-352/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายและการเรียกค่าเสียหายเมื่อมีการบังคับคดีให้ปฏิบัติตามสัญญา
ตามสัญญาจำซื้อขายใส่ไว้ด้วยว่า ถ้าผู้ขาย ขายที่ดินให้ผู้ซื้อไม่ได้ตามสัญญา ก็ให้ผู้ซื้อเรียกค่าเสียหายอีกหนึ่งเป็นเงิน 2,000 บาท ดังนี้ แม้ผู้ขายจะบิดพลิ้วไม่ยอมขายที่ดินแก่ผู้ซื้อตามสัญญา จนผู้ซื้อต้องฟ้อง ศาลบังคับให้ขายก็ดี ถ้าศาลพิพากษาให้ผู้ขายขายที่ดินให้ผู้ซื้อตามสัญญาแล้ว ศาลก็ไม่ให้ผู้ขายใช้เงิน 2,000 บาท แก่ผู้ซื้อ เพราะถือว่าได้มีการซื้อขายกันตามสัญญาแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่ซ้ำ: การฟ้องครั้งแรกไม่ระบุเหตุขับไล่ การฟ้องใหม่จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ศาลพิพากษายกฟ้องโดยอาศัยเหตุว่าฟ้องของโจทก์ไม่กล่าวอ้างถึงเหตุใดเหตุหนึ่ง ที่ทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่โจทก์จึงมาฟ้องใหม่อ้างว่า จำเลยผิดสัญญาเช่าโดยเอาห้องไปให้เช่าช่วง ขอให้ขับไล่ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ไม่เป็นฟ้องซ้ำ หากเหตุฟ้องต่างจากคดีก่อน แม้จะเป็นสัญญาเช่าเดียวกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลขับไล
จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ศาลพิพากษายกฟ้องโดยอาศัยเหตุว่าฟ้องของโจทก์ไม่กล่าวอ้างถึงเหตุใดเหตุหนึ่ง ทีทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่ โจทก์จึงมาฟ้องใหม่อ้างว่า จำเลยผิดสัญญาเช่าโดยเอาห้องไปให้เช่าช่วง ขอให้ขับไล่
ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายโดยอ้อมและการฟ้องเรียกเงินตามสัญญา การโอนทรัพย์สินและผลผูกพัน
บิดามีความประสงค์จะโอนปืนให้แก่บุตร แต่บุตรเป็นคนต่างด้าวทางอำเภอไม่ยอมโอนปืนให้ บิดาจึงโอนปืนให้บุตรเขยซึ่งเป็นคนไทยแล้วให้บุตรเขยทำสัญญากู้เงินบุตร 2000 บาท เป็นราคาปืนที่บุตรควรจะได้แล้วบิดาได้โอนปืนให้บุตรเขยเด็ดขาด ใบอนุญาตก็เป็นชื่อบุตรเขย ดังนี้บุตรเขยต้องรับผิดชอบใช้เงิน 2000 บาทให้แก่บุตร ฉะนั้นบุตรจึงมีอำนาจฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้พร้อมทั้งดอกเบี้ยตามสัญญากู้จากบุตรเขยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้และความรับผิดตามสัญญา แม้มีเจตนาหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางกฎหมาย
บิดามีความประสงค์จะโอนปืนให้แก่บุตร แต่บุตรเป็นคนต่างด้าว ทางอำเภอไม่ยอมโอนปืนให้ บิดาจึงโอนปืนให้บุตรเขยซึ่งเป็นคนไทย แล้วให้บุตรเขยทำสัญญากู้เงินบุตร 2000 บาท เป็นราคาปืนที่บุตรควรจะได้ แล้วบิดาได้โอนปืนให้บุตรเขยเด็ดขาด ใบอนุญาตก็เป็นชื่อบุตรเขย ดังนี้ บุตรเขยต้องรับผิดชอบใช้เงิน 2000 บาท ให้แก่บุตร ฉะนั้นบุตรจึงมีอำนาจฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้พร้อมท้งดอกเบี้ยตามสัญญากู้จากบุตรเขยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องคดีเช่านา: เจ้าของนามีสิทธิฟ้องบังคับได้ทันทีเมื่อผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการอำเภอ
คณะกรรมการอำเภอมีคำสั่งให้ผู้เช่านาคืนนาที่เช่าให้แก่เจ้าของนาตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 แต่ผุ้เช่านาขัดขืนไม่ยอมคืนและยังคงเข้าทำนานั้นอยู่ต่อไปอีก เช่นนี้ เจ้าของนาชอบที่จะเสนอคดีพิพาทนั้นต่อศาลได้ทันที ไม่จำต้องรอให้พ้นกำหนด 20 วันตาม พ.ร.บ.ควยคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 มาตรา 14 เพราะกรณีเป็นคนละเรื่องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของนาฟ้องคืนนาได้ทันที แม้ยังไม่ครบ 60 วัน เหตุเป็นคนละเรื่องกับคำสั่ง คณะกรรมการอำเภอ
คณะกรรมการอำเภอมีคำสั่งให้ผู้เช่านาคืนนาที่เช่าให้แก่เจ้าของนาตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ.2493 แต่ผู้เช่านาขัดขืนไม่ยอมคืนและยังคงเข้าทำนานั้นอยู่ต่อไปอีกเช่นนี้ เจ้าของนาชอบที่จะเสนอคดีพิพาทนั้นต่อศาลได้ทันที ไม่จำต้องรอให้พ้นกำหนด 60 วันตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ.2493 มาตรา 14 เพราะกรณีเป็นคนละเรื่องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควร: กำหนดราคาสูงสุดได้หรือไม่
พนักงานเจ้าหน้าที่ ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้นตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้นมีอำนาจเพียงเพื่อปฏิบัติการอันอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ แทนคณะกรรมการเท่านั้นหามีอำนาจกำหนดราคาสูงสุดของการขายส่งหรือขายปลีกสิ่งของที่ห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรไม่ เพราะอำนาจเช่นว่านี้ กฎหมายให้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการที่จะ'สั่งการ'ได้ตามที่เห็นสมควรตามความในมาตรา 8(1)(อ้างฎีกาที่ 216/2494)
ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้นได้ออกประกาศกำหนดราคาสูงสุดของเนื้อสุกรชำแหละ โดยห้ามมิให้ผู้ใดขายปลีกเนื้อสุกรชำแหละในเขตจังหวัดพระนครธนบุรีเกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ ดังนี้ประกาศดังกล่าวจึงหามีผลบังคับถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศนั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่: กำหนดราคาสูงสุดเนื้อสุกรต้องเป็นคำสั่งของคณะกรรมการฯ เท่านั้น
พนักงานเจ้าหน้าที่ ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควร แต่ตั้งขึ้นตามมาตรา 10 แห่งพ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้น มีอำนาจเพียงเพื่อปฏิบัติการ อันอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ
แทนคณะกรรมการเท่านั้น หามีอำนาจกำหนดราคาสูงสุดของการขายส่งหรือขายปลีกสิ่งของที่ห้ามมิให้ค้ากำไนเกินควรไป เพราะอำนาจเช่นว่านี้ กฎหมายให้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการที่จะ "สั่งการ" ได้ตามที่เป็นสมควรตามความในมาตรา 8(1)
(อ้างถึงฎีกาที่ 216/2494)
ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรแต่งตั้งขึ้น ได้ออกประกาศกำหนดราคาสูงสุดของเนื้อสุกรชำแหละ โดยห้ามมิให้ผู้ใดขายปลีกเนื้อสุกรชำแหละในเขตจังหวัดพระนครธนบุรี เกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ ดังนี้ ประกาศดังกล่าวจึงหาผลบังคับถึงจะเอาความผิดเป็นโทษอาญาแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศนั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายสลากกินรวบโดยอ้างอิงผลสลากรัฐบาลถือเป็นการพนัน แม้สลากยังไม่ออก
จำเลยขายสลากกินรวมไปแล้วโดยให้ถือเอาเลขท้ายสามตัวของรางวัลที่ 1 แห่งสลากกินแบ่งของรัฐบาลเป็นการแพ้ชนะ สลากกินแบ่งของรัฐบาลนั้นจะออกภายหลัง แต่จำเลยถูกจับเสียก่อน ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานการเล่นพนันสลากกินรวบพะนันเอาทรัพย์สินกันแล้ว
of 119